19 มีนาคม 2548 22:33 น.
ลมรำเพย
จันทร์เจ้าเอ๋ย...อยู่เดียวดาย...กลางท้องฟ้า
หยาดน้ำตา...รินมา...เหมือนฉันไหม
เวลาเหงา...รอบกาย...ไม่มีใคร
ดั่งจันทร์ไกล...เคว้งคว้าง...กลางนภา
เวลาเหงา...เหงาจับจิต...มิดมืดหม่น
อยากมีเพียง...สักคน...อยู่แห่งไหน
ทีจันทร์เจ้า...ยังมีดาว...พราวเรียงราย
ล้อมรอบกาย...แต่ใจฉัน...มันไม่มี
จันทร์เจ้าเอ๋ย...เคยเห็น...คนนั้นไหม
คนที่ใจ...ฉันคอยเฝ้า...รักสุขขี
เคยเห็นไหม...จันทร์เจ้า...จันทร์คนดี
ช่วยบอกที...คนดี...อยู่ที่ใด
ใกล้ฟ้าสาง...จันทร์เจ้า...ไกลลับตา
จันทร์เจ้าหนา...ลาฉันแล้ว...เหงารู้ไหม
คนที่เคย...บอกว่ารัก...ว่าห่วงใย
อยู่ที่ไหน...ทิ้งฉันไว้...ไม่คืนมา...
19 มีนาคม 2548 22:22 น.
ลมรำเพย
แว่วยินเสียงบรรเลงเพลงคำหวาน
เพราะพริ้งปานคำรักแผ่วแผ่วไหว
เอื้อนเอื่อยเอื่อยเรื่อยเรื่อยกล่อมฤทัย
เสียงใสใสขับขานหวานลออ
ยามได้ยินยังระลึกนึกถึงรัก
ครั้งประจักษ์รักแรกแปลกจริงหนอ
ดั่งได้ยินคำหวานแว่วถักทอ
ใจร่ำขอแว่วคำรักเธอลอยมา
ดอกไม้ร่วงโรยลงบนผิวน้ำ
ใจระส่ำยามแรกรักระลึกหา
เพลงคำหวานยังบรรเลงล่องลอยมา
เธอลับตาแต่เธอรัดมัดดวงใจ
ท่วงทำนองครองใจมิเสื่อมสลาย
ยังประปรายทั่วดวงจิตดุจน้ำใส
สบายหูสบายจิตเย็นชื่นใจ
รักเหลือใน คำหวาน เพลงโหมโรง
14 กุมภาพันธ์ 2548 17:26 น.
ลมรำเพย
รักรงรองรจนาดั่งวาดเขียน
รัญจวนเจียนป่วนใจใดใดเหมือน
รักรงรองรุ่งเรืองดั่งดวงเดือน
รักมิเลือนล่องลอยลงจากใจ
รักโศภินพิศโสภากว่าสิ่งไหน
รักแผ่วไหวติดหูมิรู้หาย
รักตรึงจิตติดตรึงใจมิรู้คลาย
รักคือสายน้ำไหลหลั่งรินมา
ยามรักร้าวเศร้าระทดกำสรดเศร้า
ยามรักเราเศร้าระทวยป่วยใจหนา
ยามรักราเลิกร้างร่ำจากลา
ใจร่ำหาหักหาญห้องหัวใจ
ยามราตรีศกุนีบินลาลับ
ตะวันดับดวงดาวพราวสดใส
แต่รักห่างโหยเศร้าสลดกาย
รักห่างหายไกลเกินเหินห่างตา
14 กุมภาพันธ์ 2548 17:15 น.
ลมรำเพย
สิ่งสร้างสรรค์สะสวยเป็นธรรมดา
สิ่งใดหนาสะสวยกว่าทุกสิ่งสรรค์
หนึ่งคือดีดีงามกว่าทุกสิ่งอัน
สองคือรักรักนั้นงามสร้างสังคม
หากมองคนควรมองความดีเถิด
หากคิดเกิดมองสตรีที่ใดสม
หนึ่งคือมองที่ความดีใช่หลงลม
สองนั้นคมความรักชักนำพา
หญิงจะงามงามน้ำใจใช่ทุกสิ่ง
ความรักจริงยิ่งประเสริฐสุดสรรหา
ความรักแท้แม้อุปสรรคจักนำพา
ความรักหนาจะนำพามาพบเจอ
จะรักเธอรักที่ใจใช่ทุกสิ่ง
จะรักจริงยิ่งกว่าใครใดเสมอ
จะรักแท้แม้อุปสรรคจะรักเธอ
ไม่เลิศเลอแต่รักจริงยิ่งกว่าใคร
1 กุมภาพันธ์ 2548 21:31 น.
ลมรำเพย
มองดูดาวพราวดั่งดวงตาเจ้า
เคยพะเน้าพะนอทอเสียงหวาน
เคยหนุนนอนเคียงตักเจ้าอุ่นดวงมาลย์
สุขวันวานล้นเหลือเต็มดวงใจ
เสียงแว่วแว่วลอยมายินข้างหู
เจ้าจะรู้ไหมใจข้าอยู่แห่งไหน
เจ้าจะรู้บ้างไหมว่าคนใด
เฝ้าคิดถึงทรามวัยใจละเมอ
กลิ่นดอกไม้ลอยตามลมชวนหวนหา
เหมือนเกศากลิ่นผมเจ้าจดจำเสมอ
แม้นกลิ่นหอมใดใดที่เลิศเลอ
มิเทียบเจ้าข้าเฝ้าเพ้อกว่าสิ่งใด
หวังสักวันจะได้อิงแอบแนบชิด
คอยเฝ้าคิดคำนึงใจหวั่นไหว
แม้วันคืนเวลาผ่านไปวันใด
ยังรักเจ้าจอมใจมิเสื่อมคลาย