19 สิงหาคม 2548 00:02 น.
ลมรำเพย
ค่ำคืนนี้ถ้าใจฉันเหน็บหนาว
ใครกันหนอร่วมดูดาวบนฟากฟ้า
ดาวมากมายระยิบระยับเหลือคณา
เหตุใดข้าถึงลำพังใต้หมู่ดาว
ค่ำคืนนี้ถ้าใจข้าเงียบเหงา
ใครกันเล่าร่วมทอฝันวันเหน็บหนาว
หากพรุ่งนี้ไม่มีแม้แสงดาว
แล้วตัวข้าจะทนหนาวได้อย่างไร
ค่ำคืนนี้ถ้าใจข้าโศกศัลย์
มีใครกันบรรเทาเศร้าได้ไหม
เฝ้ามองดาวด้วยลำพังอยู่เรื่อยไป
จะมีไหมไม่เหงาใจใต้หมู่ดาว
11 สิงหาคม 2548 23:12 น.
ลมรำเพย
สองมือที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยน
สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น
สองมือที่ดูไม่มีความสำคัญ
คือสองมือที่ทำให้โลกหมุนไป
(จากเพลง คือหัตถาครองพิภพ)
สองมือแม่นุ่มนวลล้วนความรัก
สองมือแม่ไม่มีใครจักเทียบได้
สองมือแม่คือความรักที่พักกาย
สองมือแม่ไม่เคยคลายจากลูกยา
----------------------------------------------------
ความรักแม่ยิ่งใหญ่ในใจลูก
ความรักแม่พันผูกลูกเสมอ
ความรักแม่เทียบแผ่นฟ้าที่เลิศเลอ
ความรักแม่ไม่พลั้งเผลอ"รักแม่จัง"
11 สิงหาคม 2548 21:17 น.
ลมรำเพย
ราคาชุดชั้นในของคนกรุง
ยี่ห้อดีที่ต่างมุ่งมาซื้อใส่
เท่ากับค่าผ้าห่มอุ่นละมุนละไม
ห่มเด็กดอยหนาวไข้ได้ทั้งดอย
สองเท่าของเวลาที่ดูหนัง
นอนนั่งเคี้ยวขบปลดปล่อย
คือเวลาในชีวิตอันนิดน้อย
สำหรับการเลื่อนลอยของชาวนา
รากที่ล้านของเงินเดือนนักการเมือง
ลบเงินที่สิ้นเปลืองเรื่อง "สร้างหน้า"
เท่ากับเงินติดตัวชั่วชีวา
กรรมกรรากหญ้าตาดำดำ
ค่าอาหารสุนัขของเศรษฐี
กินดีอยู่ดีทุกเช้าค่ำ
หารจำนวนเด็กยากไร้ในสลัม
ได้อาหารอิ่มหนำไปหลายมื้อ...ฯ
7 สิงหาคม 2548 02:03 น.
ลมรำเพย
ลมรำเพยวอนเอ่ยคำรำพันรัก
ด้วยเหงานักรักมอบไปใยไม่เห็น
วอนสายลมพรมพร่างรักให้ชัดเจน
เช่นดาวเด่นเดือนกระจ่างกลางนภา
ความคิดถึงฝากผ่านลมพัดเผยให้
จงรู้ว่ามีหนึ่งใจยังพึงหา
ความคิดถึงส่งให้ทุกเวลา
จงพัดพาประจักษ์ตาต้องดวงใจ
ลมรำเพยเอ่ยรำพันรักให้รู้
ใจคงอยู่คู่เคียงมิหวั่นไหว
รักลอยลมแต่มิลอยจากเธอไป
ลอยรอใจเธอเปลี่ยนเวียนหันมา
ลมรำเพยรำพันรักก้องสมุทร
ล่องลอยสุดฟากฟ้าแผ่นภูผา
จงสะท้อนอ้อนให้ลมคอยพัดพา
มิโรยรารักร้างไกลไปจากเธอ
31 กรกฎาคม 2548 20:47 น.
ลมรำเพย
...........อบอุ่นจิตดั่งได้ สบตา
เคียงคู่มิคลอนคลา มั่นแท้
รักพี่ดั่งเวลา เคียงคู่ ฟ้านา
รักมั่นมิแปรแม้ ฝั่งฟ้า ดินทลาย
คำพี่หวานพร่ำเพ้อ พรรณนา
พิศวาสมิเลือนลา จดไว้
ยินได้ดั่งพี่มา ใกล้คู่ เคียงครอง
ลมแผ่วพัดพริ้วให้ พี่รู้ รักเอย