16 พฤษภาคม 2553 08:32 น.
ฤทธิ์ ศรีดวง
๑.ระเบียงบ้านลานลมอันร่มรื่น
ช่างสดชื่นสะอาดอากาศเช้า
ตั้งกาน้ำสีหม่นลงบนเตา
ควันเขม่าลอยเลี้ยวเป็นเกลียวกรวย
นี่คือความรื่นรมย์อันกลมกล่อม
กาแฟหอมอ่อนอ่อนสักค่อนถ้วย
ไอกาน้ำย่ำรุ่งยังพุ่งพวย
โลกแสนสวยตื่นตาวันอาทิตย์..
๒.หลังคืนฝนตกหนักกระหน่ำฟ้า
สองดวงตาข้าพเจ้าหลับสนิท
พอลืมตาโลกดั่งนฤมิต
ช่อชีวิตไพรพุ่มก็ชุ่มชื้น
มารับเช้าแรกฉ่ำด้วยน้ำฝน
ใบไม้จนใบหญ้าลืมตาตื่น
แล้วโลกเขียวเข้มขลับก็กลับคืน
นำความรื่นรมย์สู่ฤดูกาล
ฝนยังขังคั่งค้างบนทางเท้า
บนดินเผากระเบื้องระเบียงบ้าน
ดอกไม้แรกแตกใบ..อีกไม่นาน
จะเบ่งบานนับหมื่นเต็มพื้นดิน
๓.ตะวันยังเขยิบอย่างเนิบช้า
มานั่งม้าโยกฟังสังคีตศิลป์
มีใบไม้ปลิวเป็นศิลปิน
เสียงน้ำรินจากใบก็ไพเราะ
คือความสุขดื่มด่ำในสัมผัส
เพลงลมพัดพฤกษ์พุ่มนุ่มเสนาะ
แทรกสรรพเสียงสกุณาป่าละเมาะ
แทนเสียงเคาะ..ทุ่ม..ป๊ะ..ตีตะโพน
โน่นใบหยักกวักไกวเหมือนใครเรียก
หรือไพรเพรียกเพื่อนเก่าเสียงห้าวโหน
เสียงขันไก่ในสุ่มช่างทุ้มโทน
เป็นจังหวะจะโคนในช่วงเช้า
ราวบทเพลงพื้นบ้านได้ขานขับ
ไล่ลำดับอักษรจากกลอนเก่า
ฟังเถิดฟังเสียงแจ้วนั้นแผ่วเบา
ล้วนบอกเล่าความงามของความรัก.
๔.มาเถิดเธอสบตากับฟ้าสาง
นักเดินทางผู้กร้านจากงานหนัก
ดูซิ..โลกแท้จริงงามยิ่งนัก
มาเถิดพักใต้ร่มรับลมพรู
มาฟังเสียงหัวใจแห่งไพรพฤกษ์
ซึ่งรู้สึกด้วยใจมิใช่หู
เมื่อใดเธอหลับตาแล้วตรึกดู
เธอจะรู้แมกไม้ล้วนหายใจ
แล้วเธอเล่า!..ผู้ยังแสวงหา
เรือเวลาเธอเร่ทะเลไหน
นั่นดูซิ..แสงทองเริ่มอุทัย
มีวันใหม่เสมอให้เธอเดิน
พักลำเรือลงบ้างเป็นบางค่ำ
เพราะเวิ้งน้ำบางคืนก็ตื้นเขิน
วางภาระสาแหรกที่แบกเทิน
มาซิเชิญมาชิมกาแฟเช้า
ไอกาแฟกลมกล่อมยังหอมกรุ่น
รสละมุนกลั้วกลิ่นถ้วยดินเผา
เติมน้ำกาอีกหนวางบนเตา
สุขที่เราปรารถนา..วันอาทิตย์
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓