28 ตุลาคม 2554 12:40 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
มนุษย์เราทุกคนมีความอยากรู้อยากเห็นแทบทุกเรื่องทั้งเรื่องที่ผ่านมาแล้วและเรื่องที่ยังไม่มาถึงนอกจากเรื่องของตนเองแล้วแล้วบางครั้งยังอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นอีกด้วย เป็นเหตุให้เกิดอาชีพหมอดู หรือโหร ทำนายทายทักมาแต่โบราณ ถึงปัจจุบันกลายเป็นโหรฟันธง โหรคอมพิเตอร โหรตาทิพย์หูทิพย์ ฯลฯ ล้วแต่จะสรรค์มาอ้าง หลายคนยอมเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อให้คนลวงโลกย์ประเภทนี้หลอกเอา
มีอีกหลายคนที่อยากรู้เรื่องราวล่วงหน้าแต่ไม่อยากพึ่งโหร บางครั้งเรื่องที่อยากรู้ก็ไม่อยากให้ใครรู้แม้แต่โหรเพราะมันเป็นความลับคับอกครอบคลุมด้วยความอาย จึงใช้วิธีอื่นเช่น สั่นติ้ว โยนไม้เสี่ยงทายหงายคว่ำ เรียกอะไรก็ไม่รู้และก็อีกวิธีหนึ่งที่จะกล่าวถึงต่อไปคือการ เสี่ยงเทียน
เรื่องราวอันโด่งดังมากก็คือการเสี่ยงเทียนของ บุษบา ในนิยายเรื่องอิเหนา จนถึงกับนักร้องดัง ๆหลายต่อหลายคนอัดแผ่นเสียงเพลงเวอรชั่นต่าง ๆขายกันจนร่ำรวย และเราเองก็ชอบเพลงนี้มากเหมือนกันจากนักร้องบางคนที่เสียงดี
เรื่องราวของบุษบา เกิดขึ้นเพราะท้าวดาหา ได้ยกบุตรสาวคือบุษบาให้กับระตูจรกา กำหนดทำพิธีสยุมพรในอีกสามเดือน ระหว่างที่รอเวลาอยู่นั้น กระหมังกุหนิงได้มาขอบุษบาให้กับ วิหยาสะกำ บุตรชาย แต่ท้าวดาหายกให้ไม่ได้เพราะได้ยกให้กับระตูขรกาไปแล้ว กระหมังกุหนิงโกรธมากจึงยกทัพมาทำศึก มีหลายหัวเมืองบกทัพมาช่วยท้าวดาหารบ รวมทั้งอิเหนาด้วย ปรากฏว่าอิเหนา มีโอกาศได้รบกับกระหมังกุหนิง ได้ใช้กริชแทงกระหมังกุหนิงตายมีความดีความชอบ แต่เมื่อจะลากลับเมืองมาหยาของตัว อิเหนาได้พบเห็น บุษบา ซึ่งมีรูปโฉมงดงามยิ่งนักเกิดความริษยาระตูจรกา และหลงรักบุษบาจึงไม่ยอมกลับ หาโอกาศเขียนสาร
ใส่เรือนแพลอยน้ำไปถึงบุษบาซึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธารโดยมีข้อความใส่ร้ายระตูจรกา ทำให้บุษบาและนางกำนัลไม่ชอบระตูจรกา
ตอนพลบค่ำ บะษบาและมะเดหวีจึงได้ไปทำพิธีเสี่ยงเทียนต่อหน้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์บนเขาเพื่อเสี่ยงทายว่าระหว่าอิเหนา กับระตูจรกา ใครจะเป็นเนื้อคู่ที่แท้จริง แต่อิเหนาเจ้าเล่ห์ ได้เข้าไปไล่ค้างคาวในถ้ำบินแตกตื่นออกมาทำให้เทียนดับทั้งหมด แล้วฉวยโอกาศเข้าไปกอดบุษบาไว้แน่น เมื่อจุดเทียนขึ้นใหม่ก็ยังไม่ยอมปล่อย จนมะเดหวีต้องรับปากว่า จะช่วยให้อิเหนาได้แต่งงานกับบุษบา อิเหนาจึงยอมคลายอ้อมแขนให้บุษบาพ้นจ้ากอ้อมกอด
เรื่องราวของการเสี่ยงเทียนของบุษบา แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็หวั่นไหวเมื่อเจอชายที่พึงเชย อิอิ
การเสี่ยงเทียนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยบันทึกไว้ในพงศาวดาร
ยิ่งใหญ่ชนาดชิงราชบัลลังก์ เมื่อแผ่นดินเกิดทุรยุคเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
ได้รับเอาพันบุตรศรีเทพชู้รักเข้ามาในราชวังแต่งตั้งให้เป็นขุนวรวงศาธิราชถึงกับตั้งครรภ์มีบุตรด้วยกัน ได้กระทำการเอาพระยอดฟ้าซึ่งอยู่ในราชสมบัติเพียงหนึ่งปีกับสองเดือนไปประหารชีวิต ณ วัดโคกพญา กระทำพิธีราชาภิเษกยกขุนวรวงศาธิราชขึ้นเป็นเจ้าพิภพกรุงเทพทราวดีศรีอยุทธยา ข้าราชบริพารระสำระสาย เป็นเหตุให้ หลายคนไม่สามารถทนอยู่ได้จึ่งมี ขุนพิเรนเทพ ขุนอินเทพ
หมื่นราชเสนา และหลวงศรียศ ร่วมคิดกันที่จะจับขุนวรวงศาธิราชฆ่าเสียจึงได้ไปเชิน พระเฑียรราชา ซึ่งผนวชอยู่ ณ วัดราชประดิษฐาน เข้าร่วมด้วยโดยหากว่ากระทำการสำเร็จจะให้ พระเฑียรราชาครองราชสมบัติแทนปรากฏว่า ขุนอินเทพ หมื่นราชเสนา หลวงศรียศ และพระเฑียรราชา เกิดความคิดที่จะทำพิธีเสี่ยงเทียนต่อหน้าพระพุทธปฎิมากรเพื่อเสี่ยงทายว่างานจะสำเร็จหรือไม่
มีแตขุนพิเรนเทพเท่านั้นที่คัดค้านว่าพวกเราได้เตรียมการมามากมายแล้วหากการเสี่ยงเทียนไม่สมดังมโนรสจะไม่ทำให้เสียสวัดิมงคลไปหรือ ถ้าไม่เสี่ยงเทียนแล้วจะไม่ทำเรื่องนี้หรือยังไง ต่างคนก็อ้ำอึ้งแยกย้ายกันไป
ครั้นค่ำลงวันนั้น ขุนอินเทพ หมื่นราชเสนา หลวงศรียศ และพระเฑียรราชา
ชสนกันพั่นเทียนขึ้นสองเล่ม ขี้ผึ้งหนักเท่ากัน ด้ายไส้นับเส้นเท่ากัน ความยาวสั้นเสมอกัน แล้วพากันไปที่อุโบสถวัดป่าแก้ว พระเฑียรราชาได้กระทำพิธีจุดเทียนกราบอธิษฐานต่อหน้าพระพุทฑปฎิมากรหากตนมีบุญาธิการได้มหาเศวตฉัตร ได้เป็นมหาอรคคทานทายกอุปถัมภกพระบวรพุทธศาสนา ขอให้เทียนของขุนวรวงศาธิราชดับก่อน ถ้ามิสมดังที่ปรารถนาแล้วของให้เทียนของตนดับก่อน ขณะนั้นเอง ขุนพิเรนเทพ ได้ติดตามมาถึงวัดป่าแก้ว เห็นพิธีเสี่ยงเทียน
ซึ่งตอนนั้นเทียนของขุนวรวงศาธิราชกำลังยาวกว่าด้วยก็โกรธจัดที่ห้ามแล้วไม่ฟังกัน จึ่งถ่มถุยคำหมากในปากไปที่พิธีเสี่ยงเทียนนั้นบังเอิญน้ำหมากและคำหมากเกิดไปถูกเทียนเล่มของขุนวรวงศาธิราชดับเพียงเล่มเดียว จึงพากันถือเป็นศุภนิตรและกำลังใจ ซึ่งกระทำการครั้งนั้นสำเร็จลุล่วงด้วยดี สามารถจับเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ขุนวรวงศาธิราช และบุตรที่เกิดใหม่ได้ขณะลงเรือไปทำพิธีคล้องช้างนอกกรุงตรงคลองสระบัว ได้ฆ่าทิ้งทั้งหมดเอาศพเสียบประจานไว้ที่วัดแร้ง
การเสี่ยงเทียนทั้งของบุษบา และพระเฑียรราชา ต่างก็มีอันเป็นไปแต่ผลออกมาก็ดี สำหรับเรื่องนายกยิ่งลักษณ์ จะป้องกันน้ำท่วมกรุงฯได้หรือไม่จะต้องเสี่ยงเทียนไม๊เนี่ย อิอิ