โอ้..บ้านกลอนเงียบเหงาดังเป่าสากล๊อกอินยากเม้นท์ยากจนเบื่อหน่ายที่คุ้นชื่อคุ้นสำนวนชวนกันหายทั้งบ้านเมืองวุ่นวายจึงเงียบงันอาวฤก,อัลมิตรา,ม้าก้านกล้วยพุดพัดชาคนสวยเคยสร้างฝันทั้งลุงเวทย์เคยเมตตามาช่วยกันอัศจรรย์ต่างหยุดพักลืมรักเราเพื่อนสาวน้อยสาวใหญ่ไปไหนหมดปล่อยบ้านกลอนสลดยิ่งหงอยเหงาสาวใบไม้,เพียงพลิ้ว,หญิงไร้เงาเรนกาละแมน้องเราแอบหลับนอนท่านผู่้เฒ่าโง่งม,คงชมนกไม่ยอมวกมาบ้างเพื่อสั่งสอนท่านบินเดี่ยวหมื่นลี้ก็หนีจรคงถึงคราวบ้านกลอน..เหงาวังเวง
เมื่อเสร็จนาฆ่าควายหมายกินเนื้อเสร็จงานใหญ่ไล่เถือพวกลิ่วล้อแม้ร่างทรงตัวสำคัญตะครั่นตะครอเสียวลำคอจะถูกตัดเริ่มชัดแล้วรู้ตื้นลึกหนาบางมากเกินไปคงจะอยู่ไม่ได้อาจไม่แคล้วหมดประโยชน์ร่างทรงจึงรู้แกวต้องรีบแจวหลบลี้หนีให้ทันทำประโยชน์มากมายให้งานเสร็จเพิ่งรู้ซึ้งกลเม็ดสลายฝันการปกปิดความลับเรื่องสำคัญคนตายแล้วเท่านั้นจึงไม่พูดอยู่ไม่ได้ไปก่อนเสียตอนนี้เพื่อรักษาชีวีถึงที่สุดเมื่ออ่านเกมกระจ่างใสใจมนุษย์กราบพระพุทธท่องนะโมวิ่งโร่ไป
พระจันทร์เว้าแหว่งแสงสลัว เพ้อฝันสั่นรัวตื่นกลัวดวงจันทร์อำลาเมฆหมอกบดบังจันทรา จวบรุ่งทิวาค้างฟ้าไม่ลับดับไปความรักเปรียบเช่นจันทร์ใส แรกรุ่นอุ่นไอเฉิดฉายหวานชื่นกลืนกินรักลาไห้โหยโบยบิน ความหวังพังภินท์จันทร์ชินแหว่งเว้าเศร้าหมองดวงจันทร์วันเพ็ญ ที่เห็นเต็มดวงตรงหน้าเคยรักเคยให้สัญญา ต่อหน้าแสงดวงจันทร์ฉายจะร่วมชีวิต ไม่คิดเปลี่ยนแปลงแหนงหน่ายบัดนี้เธอมากลับกลาย คลัายจันทร์คืนวันแหว่งเว้ารักเคยหวานชื่น ไม่คืนกลับมาเหมือนเก่าจันทร์เพ็ญไม่เหมือนรักเรา แหว่งเว้ากลับงามคงคืนอยากจะหลับอบากฝัน ตื่นพลันใจคงสดชื่นเพราะเธอเป็นของคนอื่น ฉันตื่นมาเพื่อจะลืมดวงจันทร์วันเพ็ญ ที่เห็นเต็มดวงตอนค่ำหัวใจฉันแสนระกำ เจ็บช้ำจนสุดจะฝืนอยากลืมรักเก่า ลืมเศร้าทั้งหลับและตื่นเหมือนจันทร์แหว่งเว้ากลับคืน เต็มดวงเป็นจันทร์วันเพ็ญ
กลอน พิชิตมาร ฤกษ์ ชัยพฤกษ์จมูกปากคิ้วตาหน้ารูปไข่ยิ้มอวดไรฟันขาวราวมุกสวยคอระหงษ์องค์อรอวบสำรวยสะโพกย้วยอกอั๋นฝันละเมอเรือนผมดำเงาขลับรับใบหูริมฝีปากทั้งคู่อิ่มเผยอเหมือนเชิญชวนให้ชิดสนิทเธอได้พบเจอหวั่นไหวใจปลิดปลิวสงบจิตพิศเพ่งเร่งระงับเอาธรรมะเข้าจับก่อนใจลิ่วความคิดไม่สับสนกลัวต้นงิ้วมองสังขารเหมือนชมวิวห้วยบึงคลองนั่นเนื่้อหนังข้อเอ็นเส้นโลมาปอดม้ามตับชิวหาเลือดน้ำหนองพอหมดลมบวมเหม็นเน่าพุพองเหลือเพียงกองกระดูกอย่าผูกใจลมสงบอ้อยอิ่งนิ่งสงัดต้องขจัดกิเลศเลศนัยได้จิตสว่างแสงทองส่องรำไรภาพหลอนใจเลือนลางต่อยจางลงภาสุรีย์ ตอบ 18 มิย. 52มารตนนั้นอาจสวยด้วยเสน่ห์มิใช่เล่ห์เฉฉลกลลวงล่ออาจเป็นบุญหนุนนำและกรรมก่อได้มาต่อกลอนกาพย์ซาบซึ้งใจอันรูปกายภายนอกบอกไว้ว่าบุญญิตาปางก่อนตอบมอบไว้ให้พร้อมทั้งดวงฤดีที่สดใสใช่หลอกใครให้ต้องเศร้าร้าวดวงมาลย์ขอเพียงจิตคิดเห็นดังเช่นว่ามารนั้นมาจากแดนไกลในความฝันเมื่อจันทราลับลาขอบฟ้านั้นระวิวรรณชิงดวงล่วงวันใหม่มารตนนั้นก็ผันกายหายไปแล้วเสียงเจื่อยแจ้วไก่ขันตะวันใสขอให้ภาพนางมารวิลาศวิไลเพียงเก็บไว้ในความฝันเท่านั้นพอวันนี้ฤกษ์ คิดถึงเธอภาสุรีย์หนีหายไปหลายปีรับความสุขอยู่ดีเป็นไฉนได้ทุกข์ร้อนเจ็บไข้หรืออย่างไรส่งข่าวให้รู้บ้างอย่าร้างลาหรือโกรธขึ้งถึงเกลียดเครียดสมองลบทิ้งกลอนทั้งผองต้องค้นหายังมีคนคิดถึงซึ้งศรัทธาขอทบทวนหวนมาตั้งตาคอย....
เก็บไว้ ....ใจพี่ฤกษ์ (ใจปลายทาง)"อัศจรรย์รัก ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ หัวใจฉันหล่นหาย ใครเก็บได้ช่วยบอกหน่อย สงสารใจดวงน้อย ต้องเลื่อนลอยขาดเยียวยา หัวใจฉันหล่นหาย ใครเก็บได้ช่วยรักษา หากบุญร่วมสร้างมา ดวงชะตาได้คู่เคียง มอบรักเป็นกำนัล สรวงสวรรค์ประสานเสียง มีรักร่วมร้อยเรียง ไม่เบนเบี่ยงไปจากกัน หัวใจฉันหล่นหาย คนเก็บได้ร่วมสร้างสรรค์ ความรักอัศจรรย์ สื่อสัมพันธ์สองหัวใจ ฟังเสียงใครร้องลั่น หัวใจฉันนั้นหล่นหาย โอ๊ย..โอย.ใกล้จะตาย ใครเก็บได้ช่วยตอบที นี่ไงใจดวงนั้น อยู่ที่ฉันสาวคนนี้ รักษาไว้อย่างดี เพราะน้องนี้แอบมีใจ คงเพราะบุญหนุนช่วย จึงอำนวยช่วยเก็บไว้ พี่จ๋ามารับไป เราจะได้สานสัมพัน ใจพี่ที่หล่นหาย น้องเก็บไว้เพราะใฝ่ฝัน อยากเป็นคู่อยู่ร่วมกัน สานสัมพันวันวิวาห์ บังเอิญ ใจปลายทางมิใช่สาวคนนั้น แต่ก็ยังฝันจูงมือพี่ฤกษ์ลอดซุ้มประตูชุมพลนะค่ะ" ไม่เคยลืมน้ำใจและไมตรีใจปลายทางเคยมีได้มอบให้เพราะเหตุการณ์เร้ารุมดั่งสุมไฟอุดมการต่างไปจึงห่างกัน เหลืองและแดงแบ่งข้างขวางสำนึกความรู้สึกเข้มขลังยังไฝ่ฝันซุ้มประตูชุมพลคงทนนิรันดร์ยังอยากสานสัมพันธ์ไม่เปลี่ยนแปลง ลืมเสียเถิดเรื่องราวที่ร้าวฉานปล่อยให้ผ่านพ้นไปไม่แอบแฝงหยุดไว้ก่อนกองเชียร์ทั้งเหลืองแดงเลิกโต้แย้งยื่นมาทั้งสองมือ มาเถิดหนาคนดีพี่ยังรอขอสานต่อสัญญาใจให้เชื่ิอถือเพราะว่าความจริงใจไม่อาจซื้อให้เรื่องลือว่าเราสองต่างปองใจ