4 พฤศจิกายน 2546 13:12 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ธาราไหลหล่อเลี้ยงพันธุ์พฤกษา
แม่คงคาเกื้อกูลคุณล้นเหลือ
มวลมนุษย์น้อยใหญ่ได้จุนเจือ
ส่ำสัตว์เอื้อทั่วถึงพึงสังวรณ์
ได้ดื่มกินใช้สอยน้อยคุ้มใหญ่
ดับโพยภัยเพลิงเผาหายเร่าร้อน
ทั้งขนส่งกว้างขวางทางสัญจร
กั้นเขื่อนผลิตไฟย้อนสู่มวลชน
จากโบราณมาถึงปัจจุบัน
คุณอนันต์เกินกลับไปนับผล
เคยลบหลู่จาบจ้วงล่วงทุรน
น้อมกมลกราบงามน้ำนที
บรรจงแต่งกระทงสวยด้วยดอกไม้
ธูปเทียนชัยประดับรับแสงสี
นมัสการลอยไปในวารี
ถึงถิ่นที่พระองค์แม่คงคา..
5 ตุลาคม 2546 14:29 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
แก้วก้านเจียรนัยใสผ่องผุด
บริสุทธิ์ส่องแสงประกายไหว
กระทบเสียงก้องพลิ้วกังวานไกล
ละมุนพรายอำพันบรั่นดี
กระดกจิบละเลียดกำซาบลิ้น
ชื่นกรุ่นกลิ่นกอฮอร์คลอแสงสี
กระแด่วดิ้นโยกคลึงกลางเวที
เสียงดนตรีเร้าเร่งเพลงพระกาฬ
เหงื่อรินหยดรดราดทุกซอกหลืบ
สักค่อนคืบอาภรณ์อ้อนไฟผลาญ
ไฟราคะกระพือฮือรุกราน
กลีบรักบานล่อแมลงเข้าแฝงกาย
ดุจแก้วร้าวรานแยกแตกเป็นเสี่ยง
ระโหยเสียงสั่นพร่าไม่พลิ้วไหว
รอวันล่วงเป็นเศษแก้วกระจาย
มองทางไหนหลบสายตาก้มหน้าเดิน
ทุกข์เข้าทับถมทิ้งสิ่งสร้างสรรค์
กลับหลังหันแก้ตัวก็ขัดเขิน
เพราะหลงรสกิเลสหนาพาเพลิดเพลิน
สุราฤทธิ์พิษมันเกินจะบรรยาย...
3 ตุลาคม 2546 13:16 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
คลื่นลมโถมกระหน่ำ
นาวาช้ำแรงคลื่นโหม
เสียงซัดดังครืนโครม
แทบทรุดโทรมทั้งลำเรือ
เปรียบเช่นทางชีวิต
ชะตาขีดเหมือนติดเชื้อ
เศร้าโศกรุมโรคเจือ
ทุกข์ล้ำเหลือเกินบรรยาย
หากนิ่งงอมือเท้า
รอกรรมเก่าให้จางหาย
คงต้องหมองจนตาย
ช่วยไม่ได้ทำตัวเอง
ตื่นเถิดอย่าหลับฝัน
ทุกข์ภัยนั้นกลัวคนเก่ง
ชะตาอย่ากริ่งเกรง
ต้องรีบเร่งก่อสร้างตน...
26 มิถุนายน 2546 10:57 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ก้มกราบครูกลอน ท่านภู่สุนทร อยู่ในสวรรค์
ผลงานเลื่องชื่อ ทุกสื่อลือลั่น สืบสานวงวรรณ - กรรมเกียรติ์เทิดทูน
ครูกวีศรีสยาม กานท์กำจายนาม แตกหน่อเพิ่มพูน
เป็นเอกในโลก ยี่สิบหกมิถุน ระลึกพระคุณ อาลักษณ์นักเลง
โคลง,ฉันท์,นิราศ คำสอน,กลอนตลาด นิทานท่านเก่ง
เสภาสุดเท่ห์ บทเห่บรรเลง ละครแต่งเอง อาลักษณ์ขี้เมา
จากรุ่นถึงรุ่น ได้พึ่งใบบุญ อ่านเขียนเรียนเอา
ระลึกนึกย้อน โคลงกลอนของเก่า ควรรีบเร่งเร้า เยาวชนของไทย
23 มิถุนายน 2546 22:56 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
อุระร้าวรานแยกแตกเป็นเศษ
พูนเทวษห่วงหาเข้าหน้าหนาว
กุหลาบแดงบานสะพรั่งฝังเรื่องราว
อาลัยเหงาเมื่อต้องพรากจากบังอร
ช่อกุหลาบสีแดงเธอแบ่งให้
มอบด้วยใจถึงใจไว้ข้างหมอน
รื่นกลิ่นกรุ่นวาบหวามยามหนุนนอน
กระซิบอ้อนพร่ำเพ้อละเมอรัก
ถึงวันนี้ไม่มีเธออยู่เคียงข้าง
รักลาร้างมึนงงพะวงหนัก
เห็นกุหลาบสีแดงแสลงนัก
อยากจะหักอาลัยให้คลายทุกข์
จิตไม่ว่างทางตันเกินหันกลับ
รักลาลับอยู่ที่ไหนไม่เป็นสุข
เหมือนพายเรือในอ่างผุดนั่งลุก
อยากจะปลูกกุหลาบแดงไว้แทงใจ..