7 กุมภาพันธ์ 2548 00:02 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
สุดหักห้าม หัวใจ มิให้รัก
จึงทุกข์หนัก ท่วมท้น จนเศร้าหมอง
ลูกผู้ชาย ร้องไห้ น้ำตานอง
ยิ่งใฝ่ปอง ยิ่งห่าง เหมือนร้างไกล
ฐานะศิษย์ ใช่คิด ล้างคุณครู
เพียงเจ้าชู้ เกี่ยวพัน ให้หวั่นไหว
ครูก็มี เลือดเนื้อ มีหัวใจ
ผิดมากไหม ใจสมัคร หลงรักครู
เคยสั่งสอน กลอนกล มากล้นค่า
ศิษย์ก้าวหน้า บอกรัก ให้รับรู้
จากนี้ไป เข้าตรอก ออกประตู
หวังเคียงคู่ รักกัน นิรันดร
ถึงบุกน้ำ ลุยไฟ จะไปหา
กราบบิดา มารดา ให้ท่านสอน
อยากหิ้วเหล้า ไปฝาก สักแกลลอน
ทั้งผ้าผ่อน ท่อนสะใบ ให้เหลือเฟือ
ประตูบ้าน จะเปิด ต้อนรับไหม
ต้องแข็งใจ รุกล้ำ เข้าถ้ำเสือ
ถ้ามีกรรม ช้ำฟก ตกเป็นเหยื่อ
อาจมีเรื่อง เหลือเชื่อ เธอรับรัก....
3 กุมภาพันธ์ 2548 11:17 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
สัญญากรุง แวร์ซาย ยังถูกฉีก
เพียงปากเปล่า หลบหลีก ง่ายนักหนา
ลิเกเลิก งานนี้ ขอกราบลา
ช่างยากเข็ญ เกินกว่า จะพ้องพาน
กามเทพ แผลงศร เข้าปักตรึง
แกล้งโกรธขึ้ง กลบเกลื่อน เลือนฝันหวาน
บอกผิดตัว ถูกหัวใจ เกินทนทาน
ในดวงมาน ปลาบปลื้ม เกือบลืมตัว
ด้วยศักดิ์ศรี มีอยู่ ดูไม่สม
อยากชื่นชม หวั่นเกรง คนยิ้มหัว
จึงบิดเบือน บรรยากาศ ให้ขุ่นมัว
เจ้าไก่อ่อน หวาดกลัว รีบหนีไป
ต้องตีกลอง โฉ่งฉ่าง ให้ดังลั่น
รีบถอยทัพ เร็วพลัน เหมือนหวั่นไหว
แต่จะทำ ตามคำสั่ง ของหัวใจ
กลับเข้าใน ตามตรอก ออกตามประตู
2 กุมภาพันธ์ 2548 13:08 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ยังจดจำ คำสัญญา แม้ช้านาน
เหมือนหมึกจาร กลางใจ ไม่อาจถอน
ทุกถ้อยคำ จำนรรจ์ กลั่นเว้าวอน
เธอตัดรอน เสียสิ้น เมื่อยินคำ
กระทบเทียบ เปรียบเปรย เอ่ยให้เห็น
ว่าทะเล้น หยอกใจ ได้แต่ขำ
ตีค่าเป็น ตัวตลก ตกน้ำครำ
ยังจดจำ ใส่กระหม่อม อกตรอมตรม
อารมณ์เหงา เศร้าซึม หวังลืมทุกข์
ได้หยอกเย้า พอสนุก ไม่สุขสม
ใช่รักใคร จริงจัง ในอารมณ์
เพียงเลือนขม เบาบาง ระหว่างรอ
รอให้เธอ สงสาร ไม่ผลาญผลัก
หวังให้คิด รับรัก เมื่อไรหนอ
ตั้งเป้าหมาย ร่วมเรียง คู่เคียงคลอ
ไม่ยอมท้อ ดื้อดึง ใจถึงใจ
หญิงสาวบอก คำไม่ ใช่บางที
เพราะเธอมี คำขอ ข้อแก้ไข
หากบอกว่า บางที มีเซอรไพร๊ซ์
เธอปลงใจ ตกลง ร่วมวงรัก.....
1 กุมภาพันธ์ 2548 10:36 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
กลอนของ ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เม็ดฝนพราวราวเพชรเก็จมณี
สลับสีรุ้งรางกลางแสงใส
มองสายฝนหล่นกราวให้หนาวใจ
ยามห่างไกลตรองย้ำคำสัญญา
ไม่เคยลืมคำมั่นมอบกันไว้
ไม่เคยลืมดวงใจเสน่หา
ไม่เคยลืมคนชื่ออัลมิตรา
ไม่เคยลืมสัญญาคืนมาครอง
เสียงฟ้าลั่นครืนครางอ้างว้างนัก
เหมือนกบเขียดทายทักให้เธอหมอง
อยู่ไกลบ้านเหว่ว้าน้ำตานอง
เพราะหน้าที่จำต้องไกลจากกัน
อย่าวิตกว่าอกหักหรือรักลวง
คนห่างไกลก็ห่วงถึงนอนฝัน
จงมั่นใจถ้อยคำพร่ำจำนรรจ์
คงพบกันเมื่อกลับไปรับรัก
กลอนของ อัลมิตรา
เมื่อปีกลายสัญญามาพร่ำบอก
แต่ละวันย้ำตอกหลอกใช่ไหม
คราฝนเปลี่ยนเวียนหนาวแสนร้าวใจ
ต้องร้องไห้เพราะคนลวงมิห่วงคำ
เธออ้างคำสัญญาที่เคยมอบ
แล้วมาปลอบหวังใดให้นึกขำ
คราวก่อนที่จากไกลไยใจดำ
ปล่อยให้ช้ำผู้เดียวไม่เหลียวมอง (พิมพ์เป็น เหลียวแล แก้ตามคำท้วง)
เสียงฟ้าลั่นสั่นสะเทือนเบือนรักสิ้น
ไม่ยลยินลมปากใครให้หม่นหมอง
แม้อยู่ตามลำพังหลั่งนัยน์นอง
ดีกว่าต้องทุกข์ระทมตรมอกเอย
หลักฐานทั้งหมดอยู่ในกลอน สัญญาหน้าฝน 3 สค. 47
28 มกราคม 2548 16:05 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เดินทางไหน มีคน ชอบถามข่าว
เป็นเจ้าบ่าว จริงหรือ ลือหนาหู
ปากต่อปาก กล่าวขวัญ หมั้นโฉมตรู
จะมีคู่ แต่งงาน ไม่นานแล้ว
เข้าใจผิด กันใหญ่ ให้อื้อฉาว
คนรักร้าว ถูกกั้น ชั้นปลายแถว
อดีตรัก ผ่านไป ไม่เหลือแวว
ก่อนมีแนว สัมพันธ์ แค่ฝันลวง
คงจดจำ ภาพเก่า เคยเคล้าเคียง
เป็นแต่เพียง พ้นผ่าน กาลเลยล่วง
ไม่ยั่งยืน จีรัง สิ่งทั้งปวง
ความห่วงหวง เลือนหาย เหมือนสายธาร
เธอพบรัก คนใหม่ ได้ตบแต่ง
จะแจกการ์ด ซองแดง จนเล่าขาน
คนเกือบเป็น เจ้าบ่าว เมื่อวันวาน
ต้องซมซาน หลบหน้า อายฟ้าดิน...