12 พฤษภาคม 2548 11:19 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
กัมปนาทสะเทือนลั่นควันคละคลุ้ง
เศษตับไตไส้พุงกระจายเกลื่อน
เสียงหวีดร้องครวญครางดั่งฟั่นเฟือน
โลหิตเปื้อนหลังคาฝาพังภิน
ความเมตตาปราณีอยู่ที่ไหน
ในส่วนลึกจิตใจคล้ายกับหิน
เหมือนผักปลาฆ่าเล่นเช่นก้อนดิน
เลือดโลมรินท่วมหล้าสาแก่ใจ
ศาสดาองค์ใดได้สอนสั่ง
ให้บ้าคลั่งมึนงงถึงหลงใหล
ปรัชญาอารยธรรมใดนำไป
หรือมีใครบงการพล่าผลาญชน
หยุดกระทำกรรมเวรการเข่นฆ่า
เสียงร่ำไห้น้ำตาเป็นห่าฝน
คงเงียบหายคลายทุกข์ที่คลุกปน
แล้วตั้งต้นปรับปรุงชนรุ่งเรือง
ตวามเข้าใจเชื้อชาติศาสนา
เสวนาปลอบปลุกได้ทุกเรื่อง
ทุกชุมชนร่วมมือกันขวัญประเทือง
ให้กระเดื่องคำว่าไทยใต้ร่มเย็น...
15 เมษายน 2548 12:06 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
จักราษีผันผ่านสงกรานต์เลือด
วันแดงเดือดสิ้นชีวีเกือบสี่ร้อย
อุบัติเหตุท้องถนนล้นทยอย
สงสารแม่เฝ้าคอยลูกกลับเรือน
จะกล่าวโทษผู้ใดในสังคม
ต่างสั่งสมมักง่ายใครจะเหมือน
จิตสำนึกไร้ธรรมคอยย้ำเตือน
มัจจุราชมาเยือนเร็วเกินไป
ความไม่พร้อมรถยนต์เก่าชำรุด
ความใจร้อนของมนุษย์สุดแก้ไข
ความมึนเมาสุรายิ่งกว่าไฟ
ความง่วงเหงาพาเข้าไปอเวจี
ต้องตรวจสอบรถยนต์ตามระบอบ
ต้องรอบคอบระวังนั่งสารถี
ต้องละเว้นดื่มสุราเคล้านารี
ต้องพักผ่อนทันทีถ้าง่วงนอน
ถึงเชื่อมั่นอย่างไรไม่ควรเสี่ยง
ควรหลีกเลื่ยงเส้นทางตามคำสอน
เพิ่มระวังให้มากหากเปียกปอน
อากาศร้อนใจต้องเย็นเน้นปลอดภัย.....
9 เมษายน 2548 12:13 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เรื่องความกล้าฉันกล้าตั้งแต่เด็ก
ตีหัวหมาด่าแม่เจ๊กเสียมากหลาย
การยกพวกต่อยกันนั่นสบาย
จีบผู้หญิงยิ่งร้ายใครก็เกรง
ลอกข้อสอบการบ้านงานประจำ
เที่ยวหลอกอำรุ่นน้องมองว่าเจ๋ง
สูบบุหรีหนีโรงเรียนเซียนฟังเพลง
ลือว่าเก่งหาญกล้ายิ่งกว่าใคร
ทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำย่ำมาแล้ว
เกือบทุกแนวเคยคุ้นทั้งคุณไสย
สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระเครื่องคุ้มครองภัย
มุ่งกำชัยทุกทางระหว่างกาล
มาพบพานกุลสตรีที่งดงาม
ตั้งคำถามปราดเปรื่องเรื่องกล้าหาญ
กล้าจะรักกล้าจะรบประจันบาน
ไม่ต้องคิดให้นานฉันรักเธอ
ตกม้าตายด้วยคำถามควรไม่ควร
เสียขบวนเคยกล้ามาเสมอ
ไม่ไตร่ตรองมองข้ามความเผลอเรอ
ใจเขินเก้อฉันยังไม่บังควร
เปรียบกระต่ายหมายปองมองจันทรา
ดุจไพร่ข้ารักนายโหยไห้หวน
ต่างวรรณะห่างชั้นกลั้นทบทวน
ต้องอายม้วนหลบหน้าเข้าป่าดง..
6 เมษายน 2548 11:58 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ฉันเป็นเพียงต้นไม้ในผืนป่า
แผ่กิ่งก้านสาขางามไสว
เป็นศรีศักดิ์ท่ามกลางระหว่างไพร
แตกกิ่งใบร่มรื่นยั่งยืนนาน
เจ้านกน้อยคล้อยบินหลงถิ่นเก่า
มาเกาะพักจับเจ่าส่งเสียงหวาน
หาแมลงกินได้ใจชื่นบาน
กระโดดเต้นสำราญใต้ร่มเงา
ไม้และนกตกชะตายามว้าเหว่
สายลมเห่พัดคลอพอคลายเหงา
นกร้องเพลงส่งเสียงเพียงบางเบา
ไม้สะบัดใบกราวระงมรัว
เหมือนเปิดอกปรับทุกข์ให้กันฟัง
เรื่องความหลังวกวนจนฟ้าหลัว
รักเป็นพิษริษยามาพันพัว
ความหวาดกลัวมุ่งหวังต่างประโลม
งามดวงจันทร์อำไพใสกระจ่าง
ใต้ร่มใบไหวพร่างกลางแสงโสม
นกหลับนอนไซร้ขนบนกิ่งโน้ม
ไม้ประคองเช่นโดมคุ้มครองภัย
อรุ่ณรุ่งเบิกฟ้าจ้าแสงสูรย์
โลกเวียนหมุนเพิ่มค่าอายุขัย
อีกหนึ่งวันงดงามขึ้นตามวัย
อุ่นละมัยด้วยไมตรีมีต่อกัน
นกสดชื่นตื่นบินถลาร่อน
ผละจากคอนลาลับไม่กลับหัน
ไม้ซึมเศร้าเหงายิ่งนิ่งเงียบงัน
มิตรภาพเปลี่ยนผันสุดคาดเดา
ตั้งความหวังสูงเกินที่ควรหวัง
นกไม่สร้างรวงรังตามใจเขา
ไม้ยังคงยืนต้นแผ่ร่มเงา
รอนกกลับคืนที่เก่าเหงาเดียวดาย...
17 มีนาคม 2548 11:34 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
สายลมลิ่วพลิ้วชลวนระลอก
ฉานกระฉอกแประปริ่มริมขอบหนอง
สายหมอกบางกลางนาฝ้าละออง
ปลาฮุบเหยื่อดังก้องน้ำกระจาย
หมู่มัจฉาร่าเริงกระเจิงเล่น
โดดกระเด็นชุมนุมกลุ่มมากหลาย
นั่นปลาช่อน เนื้ออ่อน ตะเพียน กราย
แรด เทโพ บู่ทราย กระดี่ แป้น
กำเส้นจอมรวบปากขึ้นพาดศอก
คลี่ชายออกแหค้างระหว่างแขน
จ้องกลุ่มปลาเหวี่ยงขวางคล่อมกลางแดน
ปลาติดแน่นดึงขึ้นมาคว้าใส่ข้อง
เขาเปรียบเปรยนารีเหมือนฝูงปลา
อยากเสาะหาคัดสรรค์หมั้นนวลน้อง
ต้องพากเพียรมุ่งหน้ามาจับจอง
เหมือนทอดแหชายคลองตามหนองบึง....