12 มิถุนายน 2548 13:52 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ทิวป่ายางยืนต้นใบหม่นลู่
เหมือนเช่นเราไร้คู่อารมณ์หมอง
จักจั่นเรไรใยกรีดร้อง
เพิ่มความเหงาเข้าครองหัวใจตรม
เดือนสาดแสงนวลผ่องส่องสวรรค์
ดวงเดียวกันเหตุใดให้ความขม
แสงพริ้งพราวเขาอื่นได้ชื่นชม
เรากลับบ่มความทุกข์คลุกคาใจ
กองกรวดทรายต่างหมอนยังนอนหลับ
แม้เดือนดับคล้ายแจ้งแสงไสว
หัวใจรักอบอุ่นกรุ่นภายใน
ช่วยคงร่างอยู่ได้ไม่ม้วยมรณ์
มองไม่เห็นฝั่งฝันวันก่อนเก่า
เหลือเพียงเงาจดจำย้ำสังหรณ์
รักของเราลาลับไม่กลับคอน
ไม่ขอวอนเมตตาจากฟ้าดิน
เมื่อใจเขาไม่เที่ยงคอยเลี่ยงหลบ
แม้พานพบต้องพรากฝากถวิล
ไปเถิดไปให้พ้นไม่ยลยิน
แต่ไม่สิ้นเสน่หายังอาลัย....
11 มิถุนายน 2548 10:06 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
แสนอบอุ่นหนุนนอนผ่อนความเหงา
กอดคลึงเคล้านิ่มนุ่มอุ้มเปลี่ยนหัน
พลิกทางซ้ายป่ายทางขวาพัลวัน
หมอนข้างฉันกอดก่ายหายเศร้าทรวง
อยากมีเธอเป็นหมอนเคลียนอนกอด
กระซิบพลอดฉ่ำชื่นขึ้นแดนสรวง
เฝ้ากล่อมเห่เทใจให้ทั้งดวง
กาลเลยล่วงยังละเมอเพ้อเวียนวน
ฝ่าเปลวแดดแผดเผาเข้าพายุ
ทะลวงทะลุเมฆาผ่านห่าฝน
สายฟ้าแลบแปลบปลาบวาบกมล
ทั้งเวหนพลันพิโรธโกรธคำราม
ดั่งวิหคเปียกฝนทนหนาวเหน็บ
แปลบเสียวเจ็บปีกหักปักพงหนาม
ร้าวสะท้านรานกายหลายชั่วยาม
จึงฝ่าข้ามวังวนลมฝนคราง
เสียงแผดก้องสองหูไม่รู้ศัพท์
สะดุ้งกลับพลิกฟื้นลุกยืนขวาง
ความงวยงงหลงฝันมิทันจาง
ใครมาขว้างหลังคาเสียงด่าพึม
เพื่อนมาเรียกอย่างไรก็ไม่ลุก
จึงต้องปลุกเด็ดขาดยังมาดขรึม
กางเกงเปียกเหงื่อเต็มหน้ามานั่งซึม
เสียงโห่ตรึมรีบอาบน้ำตามเขาไป...
9 มิถุนายน 2548 09:46 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ฉันมีค่าเพียงหินที่บิ่นหัก
เธอคัดเลือกไสผลักทิ้งลงเหว
จมโลกันต์ฝันค้างกลางเพลิงเปลว
ความดีเลวเห็นได้ด้วยสายตา
ลายไม่งามไม่เห็นเป็นประกาย
แสงไม่ฉายเก็บไว้ก็ไร้ค่า
มิใช่เป็นอัญมณีมีราคา
แค่นจะมาประชันฝันเกินตัว
เป็นก้อนหินดินดานจมลานตม
หวังชื่นชมเพียงเงาเขายิ้มหัว
สำนึกรู้ด้อยค่าตามืดมัว
หยุดพันพัวพักใจก่อนสายเกิน
มองไม่เห็นหัวใจในก้อนหิน
ทิ้งจมดินมองผ่านอ่านผิวเผิน
มีประโยชน์ควรคู่ปูทางเดิน
เหยียบย่ำเพลินมุ่งเสาะหาค่าเพชรทอง
26 พฤษภาคม 2548 09:20 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
คืนเพ็ญ วิสาข์ จ้าจันทร์
เหลี่ยมไศล ไพรสันต์ นวลแจ้ง
เรไร ร้องร่ำ สำแดง
ขันแข่ง เรียกชู้ คู่เคียง
คล้ายก้อง เข้าหู รู้ชัด
ริมเล คลื่นซัด คลอเสียง
เพลงรัก กระซิบ สำเนียง
ร้อยเรียง ลำนำ หวามใจ
มองฝ่า ฟ้าหลัว มัวมิด
ความคิด ฟุ้งซ่าน หวั่นไหว
ต่างถิ่น ต่างแคว้น แดนไกล
ต่างใจ ใยย้ำ คร่ำครวญ
เป็นสุข เถิดหนา อย่าห่วง
เรื่องหลัง ทั้งปวง ไม่หวน
มูลดิน กลบหน้า กล้าควร
หันเห เรรวน คำลวง
อยู่หลัง ยังคอย ตอกย้ำ
หนึ่งคำ มีฤทธิ์ ใหญ่หลวง
สำคัญ กว่าสิ่ง ทั้งปวง
เพียงรู้ มีห่วง ผูกมัด
ขอถาม คำเดียว พอแล้ว
เสียงแจ้ว ขอฟัง ให้ถนัด
ยังคอย จริงแท้ แน่ชัด
หรือเพียง ผ่อนผลัด ล่อใจ.....
18 พฤษภาคม 2548 12:49 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
๐ ดับดาวกลางเสี้ยวเดือน ๐
๐ คืนค่ำทิฆัมพระสล้าง
พิศะพร่างประกายพรม
เดือนดาวสกาวรุจะผสม
ดุจะข่มจะแข่งขัน
๐ เสี้ยวเดือนเสมือนภวะพิการ
รุจิปานจะแปรปัน
เด่นดาริกาผิวะจะผัน
บทะนั้นบ่เด่นเหมือน
๐ บัด..เปรี้ยง..! ฤ เสียงอสนิบาต
ปะทุฟาดผิว์ฟั่นเฟือน
อ้อ..ปัง..! สิดังอุระสะเทือน
กลเถื่อนนะเคลื่อนทัณฑ์
๐ นั่น..!.โห่และโผหัตะปหาร
มุขะมาร ฤ เมามัน
คว่ำหน้าเพราะอาวุธะถลัน
ทะลุหั่นชิวาตม์หาย
๐ อา..คืน ฤ คลื่นอสุระภพ
จะประจบและกำจาย
ออกหลอนขจรทมิฬะสาย
และสยายสยดสยอง
๐ โอ..เดือน ฤ เกลื่อนอสุภะซาก
ชิวะพรากสิก่ายกอง
โอ..ดาว ฤ คาวลุหิตะผอง
ระอุนองจะเนิ่นนาน
๐ ยินเห่ทะเลกละจะกล่อม
จะถนอมประดาลาญ
ชีพสู่พระผู้สิริพิศาล
สรรคะผ่านอำรุงผล
๐ ดาวดับก็ลับศศินะเสี้ยว
ผละละเรียวเพราะคำรน
จากปืนและคลื่นพยุหะพล
ประลุปล้นชิวันปลง
๐ ออมีกระนี้ฤจะสมาน
ผิวะลาญะหยั่งลง
ออมีกระนี้ฤจะประสง-
คะจะคงพิฆาตกัน
๐ เชื้อชาติละหมาดจะละเทวษ
บริเฉทะเผ่าพันธุ์
รอนผู้ศัตรูทิวะสวรรค์
ทิฐิมั่นนิรันดร
สดายุ 14 พ.ค. 48 - 14:14