3 พฤศจิกายน 2553 23:00 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
สำนึกคุณหนุนนำให้พร่ำวอน
ยามทุกข์ร้อนมีเธอเสนอสนอง
ซบพิงไหล่ไล่เหงาเข้าประคอง
ฟังเสียงใจเรียกร้องปลอบประโลม
กอดประทับรับขวัญวันโศกเศร้า
ยามที่เรื่องรุมเร้าเข้าถาโถม
ใช้เหตุผลมาพิสูจน์พูดน้าวโน้ม
ดุจเพ็ญโสมส่องสว่างสร้างกำลัง
เฝ้าปลุกปลอบมอบอุ่นไอให้หายตรม
ความขื่นขมผ่อนคลายคล้ายของขลัง
ยามไกลห่างจากเธอเผลอภวังก์
เหมือนอาทิตย์ถูกบังด้วยเมฆดำ
ทุกห้องใจให้แล้วแก้วยอดขวัญ
ชีวิตเคยผกผันลงที่ต่ำ
มอบให้เธอผู้แสนดีช่วยชี้นำ
คงสุขล้ำสองเราเรื่มเข้าใจ
จะปรุงปรับรับใหม่ในเบื้องหน้า
ไม่สัญญาสาบานต่อศาลไหน
เพราะชีวิตของเราใช่ของใคร
มิควรให้ผีสางมาวางเกณท์
จะทุ่มเทกำลังใจให้ทั้งหมด
จะปลงปลดเรื่องร้ายให้เธอเห็น
จะทำตัวอยู่ในกรอบชอบประเด็น
จะมุ่งเน้นมั่นคงตรงต่อเธอ...
3 พฤศจิกายน 2553 14:13 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ความเดือดร้อนเกิดได้ไม่เลือกที่
เพียงวันเดียวเร็วรี่รีบช่วยเหลือ
ส่งสิ่งของมากมายใครจะเชื่อ
ต้องจุนเจือรีบด่วนเมื่อจวนตัว
อย่าไปโทษเขาเลยเขาเคยทำ
ลพบุรียังรับกรรมน้ำมิดหัว
อยุทธยาอ่างทองร้องระรัว
ของช่วยเหลือยังมั่วขึ้นเครื่องบิน
ขนทางเรือทางอากาศขาดไม่ได้
เพราะว่าเป็นภาคใต้แดนทรัพย์สิน
รัฐมนตรีนายกไปกันสิ้น
สามเหล่าทัพกู้ถิ่นคลังคะแนน
ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาล้าไปก่อน
เจ๊ตสกีพอได้ผ่อนช่วยเนืองแน่น
ทางภาครัฐก็พูดพ่นไปตามแกน
ไม่เห็นแขนยื่นขอรอเมตตา
ต้องยอมรับปรับใจใต้น้ำลด
ทางภาคกลางคงไม่อดขวัญผวา
ยังท่วมมิดช่วยเหลือคงกลับมา
อย่าเพิ่งล้ารวมหมู่สู้กันเอง
29 ตุลาคม 2553 12:21 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
อุทกภียเลวร้ายทำลายราบ
เพียงเศษเสี้ยวเห็นภาพทีวีฉาย
ทุกพื้นที่มีสัญญาณอันตราย
ประชาชนล้มตายไปหลายคน
ความช่วยเหลือเบื่อรอจนท้อแท้
ต้องขนย้ายพ่อแม่นอนถนน
สถานะการณ์สุกงอมต้องยอมทน
ต่างดิ้นรนหนีภัยให้ตนเอง
กำลังใจให้มากหลากล้นหลาม
มีอยู่ตามสื่อสารเขาหว่านเก่ง
ออกอากาศวาดฝันกันตามเพรง
เจ้านายมารีบเร่งออกต้อนรับ
โชว์ผลงานหน้ากล้องจ้องโฟกัส
เขารอบจัดหลบหายเมื่อนายกลับ
ประกาศขอบริจาคมากรับทรัพย์
ตำน้ำพริกย่อยยับน้ำละลาย
วิ่งขายของน้ำท่วมเข้าสวมรอย
แยกใส่ถุงแต่น้อยจำนวนหลาย
ให้มองดูเหมือนแจกอย่างมากมาย
ชาวบ้านอายของกระจอกหลอกแจกกัน
คนเคยแต่งเต็มยศสามกองทัพ
พูดกำกับเรื่องสารถีขี่ม้าขยัน
ตอนชาวบ้านทุกข์ยากตรากชีวัน
ไปหลบอยู่ในสวรรค์นั่นหรือไร...
28 ตุลาคม 2553 00:58 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
ฤๅแปรเปลี่ยนไปสิ้นไม่ผินมอง
น้ำตานองหมองหม่นทนทุกข์หนัก
คิดหักใจให้ขาดประหลาดนัก
กลับยิ่งรักล้นอกสะทกใจ
เขาลำบากยากเข็ญเป็นไรบ้าง
เขาอ้างว้างทุกข์ทนอยู่หนไหน
เขาห่วงหาอาวรณ์มัวอ้อนใคร
เขามีภัยหรือมีสุขทุกวารวัน
มิเห็นค่าความรักร่วมถักทอ
มิสานต่อฉิมพลีที่ร่วมฝัน
มิถนอมออมใยสายสัมพันธ์
มิเอ่ยคำลากันเมื่อร้างไกล
ต้องซึมเศร้าเหงาหงอยรอคอยอยู่
โปรดรับรู้อกพรั่นสุดหวั่นไหว
เจ็บลึกล้ำย้ำตรองข้องหัวใจ
ผิดอย่างไรจึงผลาญรานรักเรา
23 ตุลาคม 2553 10:14 น.
ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
อย่าเพียรถามความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
มันฝังอยู่ก้นบึ้งหัวใจฉัน
กำแพงใดมิอาจจะขวางกั้น
มีเพิ่มเติมทุกวันไม่บรรเทา
หลายขวบปีที่ผ่านแม้รานหวัง
แต่ก็ยังมั่นคงตรงกว่าเก่า
ความซาบซึ้งเห็นได้ไม่ต้องเดา
ถ้ารับเอาคงไม่ต้องหมองฤดี
หากทราบข่าวทุกข์ภัยแม้ไกลห่าง
จะต้องหาวันว่างอย่างด่วนจี๋
ทราบเมื่อไรต้องไปในทันที
เพราะว่ามีหัวใจไว้หนึ่งเดียว
เกิดสมมุติฉุดหายไปจากโลก
คงเศร้าโศกตามไปแม้ไพรเขียว
ทุ่งท่าทางกันดารระหานเปลี่ยว
จะลดเลี้ยวเสาะหากว่าสิ้นใจ
เพราะเธอคือชีวิตอุทิศแล้ว
เปรียบเป็นดังประทีปแก้วสว่างใส
ส่องนำทางทอดยาวก้าวเดินไป
สู่เส้นชัยเบื้องหน้าไม่ล้าแรง...