22 พฤษภาคม 2549 08:14 น.
-ร้อยแปดพันเก้า-
คืนที่วันฝนตกกรรโชกหนัก
เธอที่รักจากลาน้ำตาไหล
เคยเคียงคู่เคียงข้างมาร้างไกล
กระชากใจเมื่อฝนมาน้ำตานอง
ฟังเสียงฟ้าฟาดเปรี้ยงส่งเสียงสั่ง
รักกลับกลายเป็นความหลังเราทั้งสอง
คืนฟ้ารั่วน้ำตาหลั่งถะถั่งนอง
เคยตระกองก้องประกาศเราขาดกัน
เคยซาบซ่านหวานรักเก่ามักขม
เหมือนโง่งมขมขื่นไม่ชื่นฝัน
เคยจงรักภักดีทุกวี่วัน
ก็มีอันแหลกสลายกับสายน้ำ
ฟังเสียงลมเสียงฝนเบื้องบนซัด
เหมือนแรงอัดแรงโหมโถมกระหน่ำ
เสียงฟ้าครืนสายฝนหล่นพรำพรำ
ฟ้ามืดดำรักมืดดับไปกับใจ
ฝนสั่งลาฟ้าร้องไห้ไม่ขาดเม็ด
เธอใจเด็ดทิ้งพี่หนีไปไหน
น้ำตาพี่น้ำตาฟ้าโหยอาลัย
สะอื้นไห้ห่วงหากับฟ้าคราง
คืนฝนตกอกใจพี่ใกล้ดับ
ต้องแหลกยับย่อยไปใกล้ฟ้าสาง
ทุกห้องใจเพ้อพร่ำคร่ำครวญคราง
รักต้องร้างคนเคยใกล้ไม่หวนคืน
19 พฤษภาคม 2549 08:21 น.
-ร้อยแปดพันเก้า-
หอบหัวใจครวญคร่ำเสียงร่ำไห้
ฝากฤดีที่ตรงไหนของใจหนอ
เพราะว่าพี่ไร้เจ้าพะเน้าพะนอ
วาดหวังรอไออุ่นซบกรุ่นกาย
หอบหัวใจเก่าเก่าเอามาให้
ก็ยังไร้คนภักดีมาหนีหาย
ทนเปล่าเปลี่ยวตรมเศร้าเหงาเดียวดาย
คนเคยรักคงหน่ายคล้ายระทม
ช่างดูเหมือนหัวใจพี่ไร้ค่า
เจ้าปล่อยพี่โหยหาจนสาสม
นั่งละเมอเพ้อพกอกระบม
จ่อมเจ็บจมคนใกล้ไม่เหลียวแล
หัวใจเก่าเคล้าอดีตอย่างสิ้นหวัง
หมดพลังพร่ำบ่นเหมือนคนแก่
ไร้คนเชื่อว่ามีใจในรักแท้
หัวใจแย่..เพราะว่า..หมดอายุ
17 พฤษภาคม 2549 08:29 น.
-ร้อยแปดพันเก้า-
มองต้นไม้ใคร(บ้าง)เห็นว่าเป็นป่า
มองท้องฟ้าสีหม่นปนความหมาย
ลมที่โบกโศกแสนเหมือนแดนตาย
น้ำตาแห้งเหือดหายขอดสายธาร
ธรรมชาติเอื้อสินธุ์ถิ่นพฤกษา
สัตว์ใหญ่น้อยพึ่งพาเป็นอาหาร
เมื่อน้ำน้อยดินแล้งแห้งกันดาร
สรรพสิ่งเคยสำราญสงบลง
ไม้ใหญ่เคยแผ่ร่มห่มเหมือนบ้าน
ปลูกวิญญาณเพื่อรักษาป่าสูงส่ง
ควรคำนึงซึ้งค่าเพื่อป่าคง
เพียงต้นเดียวฤๅทะนงเรียกพงพฤกษ์
ไม้เป็นศพซบหล้าหากป่าม้วย
ย่อมเจ็บถึงลำห้วยด้วยรู้สึก
ลมหายใจป่าร้าวอยู่ลึกลึก
ปลุกสำนึกอาดูรการสูญตาย
ยินเสียงป่าอาทรถอนสะอื้น
ช่วยปลุกฟื้นผืนป่าเกรงว่าสาย
สามานย์มนุษย์หยุดโค่นป่าเถอะ..น่าอาย
โลกเลวร้ายลามไล่เพราะใจทราม
กว่าจะเห็นคุณค่าของป่าครบ
กว่าจะพบความหมายในคำถาม
ใต้ฝ่าเท้าย่ำเหยียบคือความงาม
ลงโลงหามเผาไหม้ยังใช้ฟืน
9 พฤษภาคม 2549 07:26 น.
-ร้อยแปดพันเก้า-
ถ้าความรักดั่งกาแฟสำเร็จรูป
เหมือนรสจูบไร้ดื่มด่ำฉ่ำความหวาน
ทั้งฉาบฉวยรวบรัดเกินทัดทาน
อาจร้าวรานเมื่อรักร้างต่างรุนแรง
ให้ความรักดั่งกาแฟที่ใหม่สด
คั่วและบดหยาบป่นจนหอมแห้ง
กรองใส่ถ้วยรินน้ำร้อนร่อนตะแกรง
กรุ่นกลิ่นแรงหอมหวลชวนให้รอ
ทีละหยดทีละหยดสดลงแก้ว
แท้จริงแล้วต้องอดทนมิย่นย่อ
กลั่นความรักจากใจให้เพียงพอ
ความสุขก่อคุ้มค่าท้าให้คอย
เติมความหวานด้วยน้ำตาลผสานผสม
ลดความขมนมเสริมเพิ่มอร่อย
รสกลมกล่อมจิบอุ่นอุ่นสูดกลิ่นลอย
ทีละน้อยค่อยค่อยดื่มลืมไม่ลง
เหมือนกับการกลั่นกรองของความรัก
จะประจักษ์รักยิ่งใหญ่ใช่ความหลง
เฝ้าถนอมน้ำใจให้ยืนยง
ไม่หวือหวาแต่มั่นคงและจริงใจ
8 พฤษภาคม 2549 09:03 น.
-ร้อยแปดพันเก้า-
เก็บกอบดินพอประมาณสานความคิด
นิรมิตเสกสรรค์ดั่งมั่นหมาย
ปั้นโครงสร้างร่างต่อก่อรูปกาย
ให้หลากหลายท่วงทีและลีลา
วาดดวงจิตปั้นตามความรู้สึก
ใช้สำนึกตัวตนปนปรารถนา
ใส่วิญญาณกับก้อนดินธรรมดา
เติมชีวิตให้เต็มค่ากว่าวันวาน
ด้วยชีวิตมิอาจลิขิตให้-
สว่างไสวดั่งแสงทองส่องผสาน
ชีพซับซ้อนสับสนอนธกาล
เวียนว่ายวนสายธารมารมายา
เหมือนปั้นดินเป็นดาวพร่างพราวฝัน
งามดั่งจันทร์เรืองรองผ่องวาสนา
ไม่อาทรร้อนรนทนทรมา
แต่จะหาความจริงใจอาจไม่มี
มัวหลงรูปจูบลมชมภาพปั้น
ทุกสิ่งนั้นแค่คราบการฉาบสี
สรรพสิ่งสูญสลายกลายธุลี
ใช้ชีวีบนทางธรรมตามทำนอง
ปั้นชีวิตให้ได้ดั่งใจหวัง
สร้างพลังบนความจริงทุกสิ่งผอง
ให้เลอล้ำค่าล้นบนทางทอง
สุขสมปองมั่นใจในศรัทธา