19 พฤษภาคม 2549 23:10 น.
ร้อยฝัน
สมชายแหงนหน้าดูท้องฟ้า ไม่มีวี่แววของฟ้าฝน แดดจ้าในช่วงบ่ายไม่ทำให้สมชายอาทรร้อนใจแต่อย่างใดแต่มันกลับเป็นสัณญาณดีของการเริ่มต้นวัน
ของสมชาย ใคร ๆ เขาเริ่มวันกันตอนเช้า แต่สำหรับสมชายแล้วแต่ละวันมักจะเริ่มต้นในช่วงบ่ายเสมอ เกือบบ่ายสองโมงสมชายหอบสัมภาระขึ้นมอเตอร์ไซด์คู่ใจ ตรงลิ่วไปยังที่เดิมที่สมชายใช้ทำมาหากิน
บริเวณใต้ต้นจามจุรี หน้าโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ มีแม่ค้าพ่อค้าหลายเจ้า บ้างก็ขายของเล่นสีสวย บ้างก็ขายน้ำหวาน น้ำอัดลม บ้างก็ขายผลไม้ ในตอนเช้าที่แห่งนี้ค่อยข้างจะเงียบสงบ แต่ในช่วงบ่ายใกล้เวลาจะเลิกเรียน บริเวณแห่งนี้จะเต็มไปด้วย พ่อค้าแม่ค้า ที่รอขายสินค้าใหักับนักเรียน และผู้ปกครอง ที่มักจะแวะซื้อสำรับกับข้าว ขนม ติดมือ ติดไม้ ด้วยว่าสะดวก และบางทีเด็กนักเรียนที่โต ก็มักจะแวะมากินขนม หรือแวะนั่งเล่นที่ร้านรวงแถวนี้เสมอ บางทีผู้ปกครอง ก็แวะพาลูกหลานตัวน้อยกินขนมนมเนยก่อนกลับถึงบ้าน ด้วยกลัวจะหิวโซกลับไป
ร้านของสมชายเป็นร้านตุ๊กตาปูนพลาสเตอร์ ที่จัดเรียงตุ๊กตาปูนพลาสเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ทาสี สำหรับเด็กนักเรียน ทั้งตัวเล็กตัวโต ได้วัดแววความเป็นศิลปินกันที่นี่ ส่วนใหญ่ลูกค้าของสมชายจะเป็นเด็กอนุบาล ตัวเล็ก หรือ เด็กประถม ซึ่งผู้ปกครอง พามานั่งหัดทาสีเล่น เพื่อรอรถ หรือ หากิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ทำก่อนกลับบ้าน ร้านของสมชายจึงเป็นที่ดึงดูดลูกค้าได้ไม่ใช่น้อย
วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อสมชายจัดเรียงตุ๊กตา และอุปกรณ์เสร็จแล้ว ก็เตร่คุยกับพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น นาน ๆ ทีค่อยวกกลับมาดูร้านทีนึงด้วยว่ายังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนไม่ใคร่จะมีลูกค้ามากนัก
เสียงวี๊ดวิ้ว ดังแว่วมาจาก วินมอเตอร์ไซด์ของอีกฟากถนน สมชายมองตามไป เห็นสาวสวยนางหนึ่งเดินผ่านวินมอเตอร์ไซด์ ข้ามถนนมาทางฝั่งเขา และแล้วเธอก็แวะที่ร้านเขา
"คุณเคยเห็นนางมารร้ายไหม" เธอถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ครับ" สมชายอึ้งและงงในคำถามของเธอ
"เคยเห็นเหรอ นางมารร้ายน่ะ แล้วหน้าตาเหมือนชั้นมั๊ย"
"โอ้ย คุณออกสวยขนาดนี้ คงไม่ใช่นางมารร้ายหรอก น่าจะเป็น
นางเอกมากกว่า"
"มีคนเค้าบอกว่าฉันเป็นนางมารร้าย ไม่ใช่สิ ฉันบอกเองว่าฉัน
เป็นนางมารร้าย"
"จะบ้าเหรอคุณ ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเป็นนางมารร้ายล่ะ"
"ก็ฉันร้ายนะสิ ฉันร้ายนะคุณจะบอกให้ คุณคุยกับฉันระวังจะ
โชคร้าย"
"คุณ เอคุณเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย เออ สนใจทาสีตุ๊กตาไหม
ตัวละสิบบาทเอง"
"ทาสีตุ๊กตา ดีเหมือนกัน พักสมองเสียหน่อยก็ดี"
"เลือกตามสบายนะครับมีหลายแบบ สีจัดไว้ที่โต๊ะทางโน้น
นะครับ" สมชายเปลี่นวิกฤตให้เป็นโอกาสสำหรับตัวเอง
เธอเลือกตุ๊กตาไปสองตัว บรรจงระบายสีตุ๊กตาอย่างใจเย็น เขามองดูก็รู้ว่าฝีมือดี ดูเธอสงบกว่าตอนที่แวะเข้ามาใหม่ ๆ งานศิลป์บางทีก็เป็นยาที่ใช้รักษาคนเจ็บป่วยทางใจได้อย่างวิเศษ เธอตั้งอกตั้งใจระบายสีขณะที่เค้ามองดูเธอเพลินไป
"คุณเมื่อไหร่โรงเรียนจะเลิก" เธอละจากตุ๊กตาแล้วหันมาถามเค้า
"สักสิบนาทีก็เลิกแล้วล่ะ คุณมารับลูกเหรอ"
"ฉันยังไม่แต่งงาน จะมีลูกได้ไง" น้ำเสียงเธอเริ่มหงุดหงิด
"อ้าวแล้วคุณมารอใคร"
"มารอดูเด็ก ๆ ก่อนกลับบ้าน"
เอาแล้วสิ สมชายชักจะหวั่น ๆ ใจ นึกถึงฆาตกรโรคจิต ที่เอามีดไล่จ้วงแทงเด็กนักเรียนอย่างในข่าวเมื่อไม่นานมานี้ เขาล้วงกระเป๋าหาโทรศัพท์หยิบขึ้นมาแล้วชั่งใจว่าจะแจ้งตำรวจดีหรือไม่ ก็เหตุมันยังไม่เกิด หรือเขาต้องป้องกันไว้ก่อน หรือเขาคิดมากไป แต่หญิงสาวดูเหมือนจะรู้ทัน เธอหยิบกระเป๋าถือ เททุกอย่างออกมากองบนโต๊ะ
"ฉันไม่ใช่ฆาตกรโรคจิต ฉันเป็นแค่นางมารร้าย คุณกลัวฉัน"
"เปล่า ผมจะโทรหาเพื่อน" เขาแกล้งโกหก เพื่ออะไรเขาเองก็ไม่รู้
เหตุผลของตัวเอง
"ฉันแค่มานั่งดูเด็ก ๆ กลับบ้านเท่านั้นแหละ เห็นไหมฉัน
ไม่มีอาวุธ" ถึงแม้สิ่งที่เธอเทออกมาไม่มีสิ่งใดเลยที่ส่อเค้าว่าจะเป็นอาวุธได้แต่สมชายก็ยังหวั่นใจอยู่ดี
"คุณฉันซื้อตุ๊กตาคุณอีกสิบตัว"
"หา สิบตัวสักสองทุ่มผมก็ปิดร้านแล้ว คุณจะทาสีหมดนี่
เลยเหรอ"
"เปล่า " เธอตอบสั้น ๆ
เธอหยิบตุ๊กตาขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วก็ทุ่มลงไปกับพื้นอย่างแรงจนตุ๊กตาแตกกระจาย แล้วก็ตามด้วยตัวที่สอง สาม สี่ ห้า จนครบสิบตัว
"คุณ คุณทุ่มตุ๊กตาทำไม"
"ก็ฉันซื้อแล้ว เป็นสิทธิ์ของฉันนี่ นี่ไงเงินค่าตุ๊กตาของคุณ
ร้อยยี่สิบบาท"
"แต่นี่มันร้านผม มันสกปรก ผมเอาแค่ร้อยเดียว สองตัว
ของแถม คุณช่วยออกจากร้านผมทีได้ไหม อีกไม่นานเด็ก ๆ
ก็จะมาแล้ว"
เธอไม่ตอบ แต่กลับก้มลงไปเก็บเศษตุ๊กตาขึ้นมาแล้วเดินไปทิ้งที่ถังขยะข้าง ๆ สมชายมองเธออย่างแปลกใจ และหวั่นใจมากยิ่งขึ้น เธอเก็บเศษตุ๊กตาที่แตกอย่างหมดเกลี้ยง แล้วก็ก้มลงทาสีตุ๊กตาสองตัวแรกอย่างใจเย็น ไม่นานนักเสียงเด็กก็ดังเจี้ยวจ๊าว และกรูมาบริเวณร้านค้า เด็กหลายคนเข้ามาที่ร้านของสมชายอย่างคุ้นเคย เธอหยิบตุ๊กตาให้เด็ก ๆ หลายคน
"พี่ให้จ๊ะ ไม่ต้องจ่ายตังค์นะ พี่จ่ายให้เอง" เธอบอกกับเด็ก ๆ
"คุณ คุณจดไว้เลยฉันหยิบไปกี่ตัว เดี๋ยวฉันจ่าย" เธอบอก
สมชายอย่างนั้น ของฟรีใคร ๆ ก็ชอบ เด็ก ๆ หลายคนกรูเข้ามารับ เธอก็
แจกจ่ายอย่างไม่อั้น จนโต๊ะทาสีวันนี้แน่นขนัด
"ขายดีไหมคุณ เห็นไหม ฉันไม่ใช่ฆาตกร ฉันเป็นแค่
นางมารร้าย " เธอย้ำอีก
สมชายได้แต่เกาหัวแกรก ๆ ไม่เข้าใจ เธอหันมายิ้ม ตั้งหน้าตั้งตาทาสีตุ๊กตาเธอต่อไป ยามที่เด็กผ่านมาเธอก็หยิบตุ๊กตาแจกจ่ายทุกครั้ง
จนตุ๊กตาหมดเกลี้ยงโต๊ะ และลูกค้าก็เริ่มซาไป
"คุณ คุณจ่ายมาได้แล้ว ผมจะปิดร้าน"
"เดี๋ยวสิ ฉันถามคุณหน่อย นางมารร้ายต้องเป็นคนยังไง"
"คุณเล่นอะไร ผมจะกลับบ้าน จ่ายมา"
"ไม่จ่ายถ้าคุณไม่ตอบคำถามชั้น และถ้าฉันไม่พอใจ"
"คุณ ผมจะแจ้งตำรวจแล้วนะ"
"ถ้าคุณแจ้งตำรวจ ฉันจะร้องให้คนช่วย คุณรังแกฉัน"
"คุณ คุณเล่นบ้าอะไรเนี่ย ขอร้องล่ะผมจะกลับบ้าน"
"ฉันก็ขอร้องคุณเหมือนกัน ช่วยตอบฉันที"
"นางมารร้าย ก็หน้าตาเหมือนคุณนี่แหละ งี่เง่า บ้า แล้วก็ชอบ
ทำให้คนอื่นเดือดร้อน" เขาโพล่งออกมาด้วยความโมโห
"ขอบคุณที่ตอบฉัน ฉันเป็นนางมารร้าย จริง ๆ คุณรู้ไหม ไม่ว่า
ที่บ้าน ที่ทำงาน ฉันพยายามทำดีกับทุกคน เป็นลูกที่ดี เป็น
เพื่อนที่ดี แต่ฉันกลับทำให้ทุกคนที่ฉันรักต้องผิดหวัง ฉันทำ
ไม่ได้อย่างที่ทุกคนหวัง ฉันไม่เก่ง ฉันไม่อดทน ฉันไม่เสียสละ
เหมือนดังที่ทุกคนอยากให้ฉันเป็น ฉันทำให้พวกเค้าผิดหวัง
ในตัวฉัน ฉันเป็นนางมารร้าย "
"คุณ คุณจะเป็นอะไร กับใครก็ช่าง แต่ร้านผม ตุ๊กตาผม
เงินที่ผมจะได้ แล้วผมก็จะปิดร้าน คุณเข้าใจไหม"
"เข้าใจ แต่คุณต้องเข้าใจฉันด้วย"
"คุณเอาเป็นว่า ผมเข้าใจคุณ เอาละจ่ายเงินมา แล้วผมจะ
ปิดร้าน" สมชายเริ่มอ่อนใจ
เธอนิ่ง น้ำตาไหลเป็นทางยาว
"คุณ คุณจะจำนางมารร้ายอย่างฉันได้ไหม "
"รับรอง ผมจำคุณได้แน่ ได้ตลอดชีวิตเลย ซวยแท้ ๆ "
"ฉันบอกคุณแล้ว คุยกับฉันแล้วคุณจะโชคร้าย"
"ถ้าผมรู้โชคชะตาก่อนหน้านี้ ผมจะไม่คุยกับคุณ ตกลงคุณ
จะเอายังไง"
"นี่เงินค่าตุ๊กตาทั้งหมดของคุณ ห้าพันบาท พอไหม"
"คุณ มันมากไป พันเดียวก็พอ บวกค่าปวดหัวด้วยนะคุณ"
"เอาไปเถอะ อ้อ ตุ๊กตาสองตัวเนี่ยฉันให้คุณเป็นที่ระลึก
อย่างน้อยคุณจะได้นึกถึงฉันบ้าง นางมารร้ายคนนี้ ก็ยังมีหัวใจ
เป็นนางเอก ฉันสงสารคุณที่ต้องแบกตุ๊กตาหนัก ๆ กลับไป
ได้กำไรไม่กี่ร้อยบาท ถ้าคุณปฏิเสธมันฉันจะฉีกมันทิ้ง
นอนตารางสักวันก็ดีเหมือนกันพื่อนเยอะดี" เธอพูดแล้วยิ้ม
บาง ๆ ยัดเงินทั้งหมดไว้ในมือสมชาย แล้วเดินออกจากร้านไป อย่างไม่สนใจใยดี
สมชายก้มดูเงินในมือ แล้วยิ้มขำ ๆ ในเรื่องที่ผ่านมา
นางมารร้าย แต่ใจดีฉิบหาย เห็นทีจะต้องเรียกเธอ ว่า นางมารร้ายผู้แสนดี
ซะแล้ว