4 พฤษภาคม 2548 07:23 น.
ร้อยฝัน
โจร ..... จน
### ในคืนมืด เดือนแรม เงียบสงัด
ย่องไปงัด เข้าบ้าน อย่างหาญกล้า
เก็บสิ่งของ เครื่องประดับ มีราคา
แลกเงินตรา เปลี่ยนค่า เพื่อเลี้ยงตน
### แล้วคืนนี้ ลำพอง ย่องเข้าบ้าน
เมื่อถึงชาน เสี่ยงแว่ว แววฉงน
เสียงสั่นเครือ ไม่ใช่ เสียงนอนกรน
พวักพวน คิดหนี ลี้หลบไป
### แว่วได้ยิน เสียงถาม ลอดจากห้อง
ลูกทั้งสอง หนาวสั่น หรือไฉน
ได้ถุนเหลือ กระสอบ อยู่สองใบ
รีบเอาไป ห่มให้ ได้อุ่นกัน
### มีเสียงตอบ กลับมา ว่าหมดแล้ว
คงไม่แคล้ว นอนหนาว ราวจับสั่น
ด้วยไม่มี ผ้าห่ม มานานวัน
นอนกอดฉัน แทนผ้าผวย ด้วยต้องทน
### ด้วยที่มี ห่มให้ ปู่ย่าแล้ว
คงไม่แคล้ว นอนหนาว อีกสักหน
จักอย่างไร เราต้อง ยอมจำนน
เกิดมาจน ยากแค้น แสนจำใจ
### ฝ่ายเจ้าผัว ปรารถ สบถด่า
คงถึงครา ขายเลือด อีกไฉน
คงต้องทำ เพื่ออยู่รอด แลปลอดภัย
พี่จะไป ขายวันพรุ่ง ตอนรุ่งราง
### เจ้าดูแล พ่อแม่ ที่แก่เฒ่า
ทั้งลูกเต้า งานมี รีบสะสาง
แล้วไปรับ ผ้าห่ม ที่กลางทาง
ด้วยนายจ้าง เค้าให้ ไปทำงาน
### ครั้นฝ่ายเมีย ใจเสีย สะอื้นไห้
พี่จะไหว หรือนั่น มันหักหาญ
สะท้อนอก ทุกข์แทรก ใจแหลกราญ
จะคิดการ อย่างไร ไม่เห็นมี
### ฝ่ายเจ้าโจร ได้ยิน แทบสิ้นคิด
เข้าบ้านผิด หันกลับ อยากลับหนี
วางผ้าห่ม ที่ได้มา ไม่รอรี
แม้เป็นโจร ยังมี หัวใจคน
### ระลึกไว้ เก็บใน ใจดวงกล้า
จะไม่มา ขโมยอะไร ใครอีกหน
ทุกข์ในอก นรกซ่อน ในใจตน
แม้เขาจน แต่มีค่า มากกว่าโจร
3 พฤษภาคม 2548 08:33 น.
ร้อยฝัน
ยามค่ำคืน
ตัวดำดำ ผอมกะหร่อง เดินย่องแย่ง
ใส่ชุดแดง สั้นเต่อ เสมอก้น
ผ้าบางใส เห็นได้ ใช่สัปดน
รองเท้าส้น สูงเหมือนตึก พิลึกดี
เดินเรื่อย ๆ ตามถนน ผู้คนผ่าน
คนพลุกพล่าน ไฟวิบวับ ระยับสี
ยิ้มยั่วเย้า เคล้าเคล้น เน้นที่มี
เอ่ยวจี เชิญชวน ป่วนใจชาย
W : Do you have a girl , tonight ?
M : โอ้เท่าไร How much ? อัฐจะจ่าย
W : Two thousand , you can in my mind
M : OK.Don't lie, let we go
รุ่งแจ้ง
พอฟ้าสาง นกบิน หากินแล้ว
เธอรีบแจว กลับบ้าน ผ่านถนน
ดูช่างเงียบ เปลี่ยวเหงา ไร้เงาคน
ที่เกลื่อนกล่น ล้นหลาม ยามราตรี
ถึงบ้าน เปิดประตู เข้าไปพัก
ถอดเสื้อซัก ตากไว้ ให้เร็วรี่
จะต้องใส่ อีกครา เวลามี
ซักตอนนี้ เสื้อคงแห้ง แดดแรงพอ
หลับเป็นตาย ตื่นยาม บ่ายสามกว่า
เดินลงมา ท้องกิ่ว หิวแล้วหนอ
ข้าวหนึ่งจาน น้ำหนึ่งขวด ดวดไว้รอ
ยำหมูยอ อีกจาน จัดจ้านดี
พออิ่มท้อง กลับห้อง ไปอาบน้ำ
ดูรอยช้ำ ตามตัว มัวหมองศรี
หยิบแป้งปก ปิดทับ มิรอรี
จนเนียนดี แต่งตัว เดินออกไป (กลับสู่ ค่ำคืน...............อีกครั้ง)
3 พฤษภาคม 2548 08:16 น.
ร้อยฝัน
ริมถนน บนทางเท้า ที่ก้าวผ่าน
คนเรียกย่าน คนจน บนเมืองใหญ่
ถูกหยามเหยียด กดซ้ำ อยู่ร่ำไป
หาน้ำใจ ยากเย็น ไม่เห็นมี
ต่างดิ้นรน ขวนขวาย ให้อยู่รอด
เด็กถูกทอด ทิ้งไว้ ใช่หลีกหนี
เพราะจำเป็น หากิน เลี้ยงชีวี
จะชั่วดี อย่างไร ไม่มาดู
เพียงวันนี้ มีข้าว มีน้ำพอ
พรุ่งนี้ขอ คิดใหม่ พอได้อยู่
ไม่ไปเรียน ไม่มีใคร ไม่มีครู
พอเช้าตรู่ ออกมา หาเลี้ยงตน
ลูกไปคุ้ย เก็บขยะ เอามาล้าง
พ่อรับจ้าง แบบหาม ยามต้องขน
แม่มัดเหล็ก หน้าดำ จำต้องทน
เกิดมาจน ไร้ทาง อย่างคนรวย
จะร้องขอ อะไร กับใครได้
หากล้มไป มีไหม ใครจะช่วย
ลุกไม่ขึ้น โดนซ้ำ ย้ำความซวย
แค่ไม่ม้วย มรณา ถือว่าดี
แล้วพูดมา ทำไม ให้ใจเศร้า
เมืองไทยเรา เปี่ยมสุข ไม่หมองศรี
เคยมองไหม มุมหนึ่ง ซึ่งยังมี
นับดูซี อีกกี่คน ทุกข์ทนรอ
แค่ขอปัน น้ำใจ ไปให้บ้าง
ใช่ปล่อยวาง ทิ้งไป ใช่ที่ขอ
แค่มีกิน มีอยู่ ก็เพียงพอ
มัวรั้งรอ ปล่อยให้ดิ้น กินดินแทน
16 เมษายน 2548 23:51 น.
ร้อยฝัน
ไกลสุดไกล แสนไกล สุดสายตา
ไกลสุดฟ้า แสนไกล จะใฝ่ฝัน
ไกลสุดหล้า เกินกว่า ไปหากัน
ไกลเกินฉัน จะฟันฝ่า ไปหาเธอ
นับวันรอ กลับไป สู่อกอุ่น
คิดถึงคุณ ทีไร ใจมันเผลอ
เฝ้าแต่คิด ถึงวัน ฝันละเมอ
ใจอยากเจอ เจียนขาด บาดอารมณ์
11 เมษายน 2548 23:17 น.
ร้อยฝัน
มองฟ้า ดาวระยิบ แสงริบหรี่
เสียงไผ่สี เสียดกอ ล้อลมไหว
กลิ่นดอกแก้ว หอมฟุ้ง จรุงใจ
ความห่วงใย ฝากไป กับสายลม
ดึกป่านนี้ คนดี อยู่แห่งไหน
รู้ไหมใคร เฝ้ารอ ท้อขื่นขม
มันเจ็บปวด รวดร้าว คราวระทม
แม้ตรอมตรม อย่างไร ใจอาทร
จวบเดือนลับ ขอบฟ้า คราใกล้รุ่ง
ใจมั่นมุ่ง ข้ามฟ้า ไปหาสมร
ห่างเพียงกาย แต่ใจ ยังอาวรณ์
แม้กอดหมอน มิอุ่น ดั่งหนุนเจ้า
จึงฝากกลอน บทนี้ แทนความห่วงใย
อยู่แห่งใด รู้ไว้ มิให้เศร้า
แม้อยู่ไกล แต่ใจ มีเพียงเรา
มินานเนา จะกลับ ไปรับขวัญ