29 พฤศจิกายน 2548 00:28 น.
ร้อยฝัน
............มีดบาดนิ้วน้อง
เจ้าร้องเสียงดัง
พ่ออุ้มมานั่ง
บนตักแข็งแรง
...........พ่อเป่าเพี้ยงหาย
เจ็บคลายใช่แกล้ง
เหลือรอยแดงแดง
พ่อเอายาทา
...........จนถึงวันนี้
หลายปีผ่านมา
ยังเห็นชัดว่า
กลายเป็นแผลเป็น
...........เป็นความทรงจำ
คอยย้ำให้เห็น
ยามพ่อรำเค็ญ
เจ้าอยู่หนใด
...........พ่อรอเจ้าอยู่
เจ้ารู้หรือไม่
รอคนเห็นใจ
ยามพ่อสิ้นลม
21 พฤศจิกายน 2548 20:53 น.
ร้อยฝัน
หยุดตื๊อเถอะฉันขอร้อง
อย่าถึงกับต้องออกปากไล่
โปรดเถอะจงไปให้ไกล
จะมัวร่ำไร ทำไมกัน
ฉันคงไม่มีหัวใจ
จะมอบใครอีกแล้วนั่น
ที่ผ่านมาเป็นแค่คืนวัน
ที่ฉันเคลิ้มฝัน เท่านั้นเอง
กลับไปซะ กลับไปก่อน
อย่ามัวอ้อนวอน พ่อคนเก่ง
รู้ไหมฉันร้าย เป็นนักเลง
ปะเดี๋ยวถูกเฉ่ง หัวบาน
ถ้าอยากให้ ความสัมพันธ์
ของเราคงมั่น ยืนยาวนาน
ไม่ต้องมี คำหวาน หวาน
แค่ลืมเรื่องวันวาน ก็พอ
คงไว้แค่ความเป็นเพื่อนกัน
เท่านี้ที่ฉันอยากจะขอ
ถ้ามากกว่านั้นเธอต้องรอ
ถ้าเธอไม่ท้อ คงมีวัน
วันนี้ให้ได้เพียงแค่นี้
ความรู้สึกดี ยังยึดมั่น
ทุกข์สุขอย่างไร ได้แบ่งปัน
ทั้งเธอ ทั้งฉันเพื่อนกันตลอดไป
7 พฤศจิกายน 2548 23:30 น.
ร้อยฝัน
ฉัน ยืนบนที่สูง หากเอื้อมมือไปคงถึงเมฆ
แหงนหน้ามองฟ้า อยากจะคว้าเอาดวงดาว
ดูเหมือนใกล้ ๆ แต่สัมผัสไม่ได้
ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งไกลห่าง
ทำได้แค่คืนวัน เฝ้าฝันถึงดาว
วันนี้ ฉันเลิกไขว่คว้าดวงดาว หันกลับมามอง
ฉันยืนอยู่บนนี้ บนที่สูง แต่ หากโน้มตัวลง
คงถึงพื้นดินโดยง่าย ทว่าพื้นดินตรงนี้
มิได้ปรารถนา
ตรงนั้น ที่ฉันใฝ่ฝันจะไปถึงสักวัน
พื้นดินสวยงาม แสนไกล
ฉันเริ่มออกเดิน จากจุดที่ยืนอยู่ ผ่านที่สูง
เนินชัน สู่พื้นดินเรียบราบ เดินตรงไป จุดหมาย
ที่นั่น ที่คนอย่างฉันจะทำได้
ดิน กับ ดาว ที่ใฝ่ฝันปรารถนา
ดาวเป็นฝัน ที่ฉันไขว่คว้า
แต่กลับไม่มีทางได้สัมผัส
ดินเป็นอีกฝัน ที่ย่นสั้นใกล้เข้ามา
ไม่ต้องไขว่คว้า เพียงเดินเข้าหา
ก็เอื้อมมือสัมผัสได้
19 ตุลาคม 2548 23:27 น.
ร้อยฝัน
อ่านงานเขียน หลายนักกลอน คำวอนเศร้า
อ่านแล้วเหงา อุรา พาโหยหวน
อ่านแล้วซึ้ง คำหวาน ซ่านรัญจวน
อ่านแล้วป่วน ทรวงใน ใจรอนรอน
อยากจะเขียน กลอนรัก ให้ซ่านซึ้ง
อยากรำพึง เพ้อพร่ำ คำออดอ้อน
อยากรู้สึก ห่วงหา และอาทร
อยากอาวรณ์ ในรัก สลักทรวง
แม้ไม่เคย เขียนได้ ดั่งใจคิด
แม้ตั้งจิต เขียนไป ไม่ลุล่วง
แม้ทุ่มกาย เทใจ ไปทั้งดวง
แม้ในทรวง โหยหา มาช้านาน
แต่ก็ยัง พากเพียร จะเขียนต่อ
แต่เพียงรอ ให้อารมณ์ ขมเป็นหวาน
แต่ไฉน ยิ่งท้อ ทรมาน
จึงงุ่นง่าน หงุดหงิด คิดอยากทำ
อยากจะเขียน กลอนรัก สักหนึ่งบท
อยากร่ายรส พจนารถ วาดหวานล้ำ
ให้คนอ่าน ซึ้งใจ ในน้ำคำ
ให้คนช้ำ ตรอมใจ บ้าไปเลย
แต่ก็นึก วกวน จนเวียนหัว
ออกมามั่ว ยิ่งนักโอ้รักเอ๋ย
เขียนกลอนรัก น่าตลก โอ้อกเอย
อย่าคิดเลย เลิกเขียน เรียนต่อไป
15 ตุลาคม 2548 22:40 น.
ร้อยฝัน
****** มีประเทศ เมทก้า บ้าอำนาจ
อวดฉลาด ประเทศนี้ ที่ยิ่งใหญ่
รุดพัฒนา ก้าวล้ำ นำกว่าใคร
ไม่ว่าใน โลกนี้ หาใครเทียม
****** ส่งคนไป ดาวอังคาร ด้วยยานใหม่
มีคนไทย ติดไป ทำตัวเขียม
รู้สึกด้อย กว่าเขา จึงต้องเจียม
มิอาจเทียม ชาวเมทก้า ก้มหน้าทน
****** เมื่อไปถึง ดาวอังคาร ดังมุ่งหมาย
ทั้งหญิงชาย บนนั้น ต้องดั้นด้น
เก็บตัวอย่าง ดินหิน ที่ปะปน
ซึ่งอยู่บน พื้นผิว ดาวอังคาร
****** เก็บตัวอย่าง มาได้ ต้องบันทึก
เกิดพิลึก เขียนไม่ได้ ดังคิดอ่าน
ด้วยปากกา ไม่อาจเขียน ตามต้องการ
หมึกไม่ผ่าน กลับกลิ้งกรอก ในกระบอกแทน
****** จึงช่วยกัน คิดวิธี ที่แก้ไข
ใช้เงินไป ทดลอง หมดหลายแสน
กว่าจะได้ โครงร่าง มาเป็นแปลน
ชื่อเมทก้าแกรนด์ ทุกคน ล้วนภูมิใจ
****** ชาวเมทก้า มองคนไทย ในหน้าเย้ย
ไทยยิ้มเฉย แค่นี้ สนใจไม่
แล้วพลันหยิบ ดินสอ ขึ้นทันใด
เขียนลงไป จดไว้ ทุกข้อมูล
****** ชาวเมทก้า มองหน้ากัน แล้วเดินหนี
อยากจะลี้ หลบไป ใจเคืองขุ่น
ใช้เงินไป หลายแสน เพื่อลงทุน
กลับไม่ครุ่น คิดถึง ดินสอเลย
****** ใครฉลาด ใครโง่ โถน่าคิด
เหมือนผมปิด ปังไว้ ใคร่จะเอ่ย
อย่ามองข้าม สิ่งเล็กน้อย ที่คุ้นเคย
อย่าละเลย อย่าข้าม อย่าหยามกัน