22 มกราคม 2550 21:46 น.
ร่มสัก
ละอองหมอกดอกน้ำค้างกลางภูผา (ร่มสัก)
22 มกราคม 2550 14:27 น.
ร่มสัก
ต้องจำลาเจ้าลำดวนด่วนจากแล้ว
ลาดอกแก้วการเกดพิกุลหอม
เจ้าจำปีจำปาข้าคงตรอม
ต้องผ่ายผอมแน่สินะมะลิลา
จะไร้กลิ่นหอมกรุ่นละมุนหวาน
จำจากนานช้ำใจในอกข้า
เจ้าจงบานอย่ากร้านแห้งแล้งโรยรา
ผลิดอกรอวันที่ข้ามาเชยชม
ไม่หลงกรุ่นกลิ่นไอดอกใดแล้ว
ไม่ทิ้งแก้วบานชื่นให้ขื่นขม
ระลึกดอกละเมอกลิ่นละไมคม
ลออตาพาชื่นชมให้ชื่นใจ
จะรีบกลับไปรับขวัญในวันหน้า
จงรั้งรอคอยท่าอย่าหวั่นไหว
แมลงภู่ผึ้งผ่านให้ผ่านไป
อย่าเผลอแย้มดอกใบให้เชยชม
รักษากลิ่นให้หอมกรุ่นละมุนหอม
รอวันข้ามาดมดอมประคองสม
อย่าคลายกลิ่นกระจายตามสายลม
จะออมถ้อยคารมไว้ชมเชย...
22 มกราคม 2550 11:28 น.
ร่มสัก
จะจำคำพร่ำพลอดของยอดรัก
ที่สลักกลางใจให้คืนนั้น
จะจำจูบพรมพร่างต่างจำนรรจ์
ที่สร้างสรรค์อัศจรรย์อย่างบรรจง
จะจำกอดออดอ้อนอุ่นอิงแอบ
ที่นอนแนบเนานานให้พาลหลง
จะจำรสรักหวานที่จารลง
คำรำพันจะซื่อตรงคงใจเดียว
จะจำมือที่โอบอุ้มคุ้มลมหนาว
พลางชี้ชมเดือนดาวไม่เปล่าเปลี่ยว
สอดสลับทับทอดกอดมือเรียว
ยังจำคำเกี้ยวเกี่ยวให้หวั่นใจ
จะจำรอยน้ำตาคราจะจาก
และคำฝากว่าจะมาพบกันใหม่
สะอื้นร่ำอำลาด้วยอาลัย
ติดตราตรึงอยู่ในใจไม่รู้ลืม
21 มกราคม 2550 12:58 น.
ร่มสัก
ขอครวญคำข้ามฟ้ามาให้น้อง
หวังประคองแต่ต้องไม่สมหวัง
ใจปั่นป่วนหวนหาละล้าละลัง
น้ำตารินไหลหลังประดังมา
เสียงในใจไห้หวนครวญหมองหม่น
น้ำคำพร่ำเพ้อบ่นละเมอหา
พี่ว้าเหว่อยู่เดียวเปลี่ยวเอกา
ทรมานวิญญาเหลือทานทน
อธิษฐานในชาติใหม่ขอให้พบ
ความทรงจำอย่าเลือนลบอย่าสับสน
แม้มิมีร่างกายได้เป็นคน
จะอดทนเพื่อเจ้าเฝ้ารอมา
"เป็นกะลาให้ถือแม้เธอคือขอทาน
เป็นบัลลังก์ตระการแม้เธอคือนางพญา
เป็นโลงทองรองรับแม้ดับชีวา
เป็นวิมานผ่านฟ้าแด่เทพธิดานงคราญ
รักเราเป็นเช่นเหมือนดาวเดือนเด่นตา
แสงเรืองรองส่องฟ้าอาภาเบิกบาน
แม้ชีพสูญร้างไปแต่รักไม่แหลกราน
ให้สองวิญญาณสิงสราญอยู่วิมานดาวเดือน"
20 มกราคม 2550 19:49 น.
ร่มสัก
น้ำตาคลอหล่อตาพาจะไหล
นึกขึ้นมาคราใดให้คิดถึง
ภาพเก่าเก่าเหล่านั้นพลันตราตรึง
ใจรำพึงเพ้อพร่ำคำในใจ
กายยังรู้สู้ไหวต่อได้แน่
ใจสิกลับพ่ายไม่เอาไหน
กายจึงต้องยอมแพ้ต่อหัวใจ
ปล่อยน้ำตาให้ไหลประดังมา
ยินหัวใจไห้หวนครวญหมองหม่น
เป็นเสียงพร่ำเพ้อบ่นละเมอหา
แล้วสมรู้ร่วมคิดกับน้ำตา
ใจก็ร่วมขบวนมาพาเศร้าใจ
ถึงร้องไห้ให้น้ำตาเป็นสายเลือด
ให้สายน้ำแห้งเหือดมิรินไหล
ให้อาทิตย์สิ้นแสงลงทันใด
ให้เปลวไฟกลับเย็นเป็นวารี
ให้สายลมแน่นิ่งมิวิ่งพัด
ให้ดวงดาวอันจำรัสกลับริบหรี่
ให้สายน้ำย้อนย้ายสายนที
ให้ใจเต้นหยุดกับที่มิเป็นไร
เจ้าก็ไม่หวนกลับมารับรู้
ใจที่อยู่เล่าจะทนอย่างไรไหว
ใจอ่อนแรงแล้วหนายอดดวงใจ
หนทางใดที่ได้พบประสบกัน
มีเพียงจินตนาการให้พานพบ
ยามพี่หลับกลับพบเจ้าในฝัน
พอยามตื่นฟื้นกายมลายพลัน
เรามีกันและกัน"ในฝัน"พอ...