29 ตุลาคม 2547 04:24 น.
รำนำ
@_เป็นจันทร์แจ่มนวลแจ้งส่องแสงเรื่อ
โปรยยิ้มเอื้ออ่อนอวลชวนให้หลง
ส่งแสงนวลอาบไล้ปลอบให้อยู่คง
ดวงใจเอยจงเข้มแข็งรอคืนเพ็ญ
@_จันทราจ้าวเศร้าหมองครองฟ้าอยู่
เหน็บหนาวฝืนสู้ไว้ใช่ใครเห็น
เอกาเดียวเปลี่ยวร้าวน้ำตาเซ็น
แม้คืนเพ็ญยังอยู่ยั้งรั้งเดียวดาย
@_ศศิธรสูงส่งตรงแผ่นฟ้า
อยากจะโน้มลงมาดวงใจหมาย
ถวิลหาอยากเห็นเจ้ามิเว้นวาย
แต่เดือนกรายเคลื่อนคล้อยลงอย่างไร
@_เนาว์อยู่บนเพียงเดี่ยวท่องเที่ยวหา
ดวงใจข้าฯหลีกเร้นอยู่หนไหน
เอื้อนเอ่ยว่าอาภัพจำหลบไป
ละจันทร์เดียวเปลี่ยวไว้กลางนภา
@_เกิดบนฟ้ากว่ากว้างอ้างว้างนัก
แม้พานพบในรักหากสุดหล้า
ปลอบประโลมหทัยไว้จูบจันทรา
ในราตรีสว่างจ้าที่จันทร์เยือน
@_อกร้าวรานปานแตกต้องแยกจาก
ดวงใจเอยฝากรักที่หมายเหมือน
จันทร์กระจ่างใช่ว่าแจ่มแสงนวลเลือน
พรากจากเตือนให้รฤกนึกความไกล
@_ยิ่งคืนแรมแก้มช้ำน้ำตาหล่น
จันทร์ก็หม่นใช่ว่าอยากจะผลักไส
รักแล้วพรากมาจากซ้ำย้ำหัวใจ
ต่างกันให้แต่ทุกข์สุขเพียงมอง
@_ดวงใจเอ๋ยอย่าเลยลับไปจากน้อง
ไยตริตรองว่าอยู่สูงจึงเกินหมาย
แล้วซมซานหลบรักอยู่เดียวดาย
หมดประกายจันทร์หม่นค้นไม่เจอ
@_ในความต่างย่อมเห็นงามยามเมื่อกล้า
ไยอ่อนล้าค่าต้อยต่ำย้ำเสมอ
ยามพลัดพรากก็เฝ้าหาราวละเมอ
ยามพบเจอก็ก่นเศร้าเราต่างกัน
@_ปราถนาจะยลพบประสบพักตร์
ใจต้องหนักแน่นไว้ในความฝัน
รักแล้วรู้รสหวานลานใจจันทร์
ใช่จะรั้นรั้งฟ้ามาต่ำดิน
@_เพียงดวงใจรอเดือนจะเคลื่อนคล้อย
เยี่ยมหน้าคอยส่องแสงนวลนิจสิน
ไม่พรากจากแล้วลับเลยเพียงคืนนิล
ปล่อยคนคอยเฝ้าถวิลสิ้นอาลัย
@_ด้วยไม่อาจเคียงคู่เช่นชู้อื่น
รักเราชื่นเพียงได้ยลใช่อยู่ใกล้
เป็นความงามของความต่างร้าวรานใจ
หากดีกว่าพรากจากไปแล้วไม่คืน
@_ศศิธรเหว่ว้า สุดไกล
ใช่จะร้างดวงใจ หลบหน้า
คืนแรมสิดั่งไฟ สุมอก นาพี่
เพ็ญจะกลับสู่ฟ้า เยี่ยมยิ้มมาคืน_@
@_ดวงใจฝืนเจ็บด้วย ต่างชน
จันทร์ยิ่งร้าวรานรน ปลอบถ้อย
รักคือศักดิ์งามดล เสมอเท่า เทียมแฮ
ไกลห่างเจ็บกว่าด้อย เกิดได้เท่าเทียม_@
@_ความงามในต่างนั้น มากมี
เสมอระดับเดียวมี เบื่อแท้
ต่างระดับเห็นสี สดกระจ่าง
มองจับสิ่งดีแก้ พรากเจ้าเงาจันทร์_@
@_ไกลกันยังกลับย้อน มาคืน พี่เอย
นวลแจ่มแย้มยิ้มยืน อยู่ฟ้า
ดวงใจพี่จงฝืน รอกลับ คืนแล
น้องใช่ลับร้างล้า เยี่ยมหน้านวลเพ็ญ_@
28 ตุลาคม 2547 08:56 น.
รำนำ
@_ทั้งเหนื่อยรานฉานจิต เพราะ พิษบ่วง
จึงหมองหน่วงหนักกมล เพราะ กลหนา
ที่พักตร์เศร้าเงาหม่น เพราะ มนต์ตรา
สิ้นสงบจินตนา เพราะ ล้าปราณ...
@_เพียรหลบหลีกปีกรัก เพราะ หนักฤทธิ์
เกรงศรพิษยากถอน เพราะ ฟอนผลาญ
เหตุเมื่อรักภักดิ์นิตย์ เพราะ จิตดาล
เพียงยังย่านปลอมบ่วง เพราะ ลวงกัน...
@_ยามสมัครสยบยอม เพราะ ออมรัก
จึงพ่ายแพ้กับดัก เพราะ ถักสรร
แม้ไม่คิดไขว่คว้า เพราะ เกรงทัณฑ์
ยังยากรั้นลาจาก เพราะ มากนัย...
@_จึงอยากซบหลบซอน เพราะ รอนร้าว
พักรักษาคราวคลอน เพราะ อ่อนไหว
คิดจะตัดเยื่อใยขาด เพราะหวาดภัย
เกรงดวงใจแตกคลี เพราะ พี่จร...
@_จนถ้อยคำพร่ำวอน เพราะ ร้อนเร่า
แจ้งเจตน์เขลาเฝ้าหวั่น เพราะ รั้นถอน
หากกลับตัดไม่ขาด เพราะ สวาทซอน
จึงเงียบงันผันซ่อนวาจาแจง...
หมายเหตุ
ตอบบทกลอน
~ ถอนจิตลาถาจาก ฤ อยากจม ~
บอกอกูรู
...๏แสนเหนื่อยรานซ่านหนัก ฤ รักพิษ
จึ่งหมองฤทธิ์จิตหม่น ฤ กลหรา
เพียงพักตร์ล้าภาป่น ฤ มนต์ตรา
แค่สุขราคร่าศานต์ ฤ ลาญทรวงฯ....
...๏เพียงสรรรักภักดิ์สาน ฤ ดาลดัก
แค่เจตน์รักกักจิต ฤ พิษหวง
จินต์เย้ารักจักแย้ม ฤ แต้มลวง
บ่มรักรวงบ่วงรัด ฤ ศัสตราฯ....
...๏ทิ่มจ้วงแรงแทงจิต ฤ ฤทธิ์ดาบ
พี่พ่ายราบภาพภินท์ ฤ สิ้นสา
หลาบเล่ห์รงค์หลงใหล ฤ ไขว่หา
ถอนจิตลาถาจาก ฤ อยากจมฯ....
...๏เพียงถอยหลักพักทัพ ฤ จับเจ่า
ละร้อนเร่าร้าวรอน ฤ ซ่อนสม
อยากข่วนเรื่อเยื่อขาด ฤ สวาทพรม
สรรค์ลวงลมสมแล้ว ฤ แก้วแข ฯ.....
...๏ขอนุชร่ำคำน้อย ฤ ฝอยพรั่ง
เพียงเผลอหลั่งพลั้งผาย ฤ ร่ายแห
ชวนเร้ารื่นชื่นรัด ฤ ตัดแด
แม้นเจ้าแปรแม้ชอกโปรดบอกเทอญฯ....
28 ตุลาคม 2547 08:41 น.
รำนำ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
กลางค่อนระตรีหนาว
ระกะพราวชลานัยน์
เรียมร่ำวจีไข
นภลัยพยานเรา
...........................
จารจำสิคืนนี้
ก็ฤดีจะจดเนาว์
ยามไกลวะธูเหงา
พิศะเพราเสน่ห์ดาว
เก็บดาริการ้อย
ดุจสร้อยมกุฎวาว
ปลอบจนนภาขาว
รวิจ้าวโพยมพราย
แม้นคิดถวิลหา
ก็นภาจะแทนกาย
เกลื่นดาษดาหมาย
ดนุคล้ายสิดารา
จำพรากละจากเจ้า
ดริเฝ้าจะคืนมา
เพียงสรีรไกลหนา
มนข้าฯบ่คลาไคล
...........................
คือถ้อยดนูพร่ำ
นุชย้ำจิตานัย
ดาราประโลมใจ
ศิวิไลผสานขม
รอภักดิปนโศก
พิษวิโยคคะนึงตรม
มองดาวไฉนซม
สิผสมฤทัยหาย
วอนเพียงตะวันแสง
คละแสร้งจรกราย
สำแดงรสีสาย
ก็ละม้ายละดาวคง
28 ตุลาคม 2547 07:56 น.
รำนำ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
รอนรอนระริกหนาว
รติร้าวพิลาปไร
นวลแจ่มสิแขไข
ดุรไห้อุราราน
แสงสูรย์ก็เจิดจ้า
รพิกล้าจรัสตาม
จันทร์แสงวะวับหวาม
ศศิคร้ามจะแทนทอ
ซาบซึ้งคะนึงนิจ
ก็มิคิดจะทาบคลอ
หาญเปรียบตะวันหนอ
ผิลออ ธ หมายปอง
เพียงยลตริว่าแสง
ฤดิแจ้งผจงมอง
เจียมจิตจรูญหมอง
พิศะจ้องก็อิ่มใจ
ตรึงตาสว่างบ้าง
ฤ มิร้างมิผ่านไป
ฉวยยามจะอาศัย
นภมืดก็เพียงพอ
ขอเป็นก็เพียงไต้
ดุจให้พิทักษ์รอ
อาบอุ่นกระไอขอ
สิบ่ท้อจะยอมทน
28 ตุลาคม 2547 04:05 น.
รำนำ
สัทธราฉันท์ ๒๑
เคียง..ใกล้ใช่ชื่นระรื่นครอง
อธิกรติจะปอง
คั่งและค้างหมอง
ฤ พ้องพาน
คู่ใช่ไคล้ชิดสนิทสาน
หทัยสิระอุลาญ
ปองประคองฉาน
ลุวารวัน
แค่เคล้าเฝ้าออมถนอมมั่น
มนสิก็ริจะปัน
ทุกขะแทนผัน
บ่หวั่นใด
คงเมินเกินพบจะสบนัยน์
ผิวะอัสสุชลไว
แววจะแพรวไข
และไหม้ตรม
ความซาบภาพลวง ฤ บ่วงปม
ก็บ่ตริภวภิรมย์
วอนดนูสม
ก็ชมชัย