14 พฤศจิกายน 2547 22:32 น.
รำนำ
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
@_หวั่นหวาดไหวปะทะภัย ฤ พ่ายหทัยตน
ร้อนรนกมลผล
เพราะใคร...
@_หมองหม่นหรือกละเล่ห์เสน่ห์รติดนัย
ลวงเล่นตระเวนไหล
คะนอง...
@_แม้มาดครองนุชนาฏประกาศสัตยะปอง
แท้แจ้งแสดงผอง
ก็พอ...
@_นวลรานล้าและประหม่าผวาวัจนะท้อ
ตัดขาดสวาทขอ
ละอร...
@_ยังตรมติดพิษขมระทมดนุสิรอน
เมินภักดิ์สมัครศร
รตี...
@_เหือดหวังรานรติดายสลายสรณะปรีดิ์
หมายเพียงบ่เลี่ยงหนี
จะเทียม..
@_เอ่ยอ้างร้างละประอรจะถอนอุระเพราะเจียม
ซึ้งเลศนัยเรียม
จะผัน...
@_รอนรอนอ่อนหฤทัยไฉนรติจรัล
ควรตัดประพัทธ์ฝัน
บ่เลือน...
@_กังวานถ้อยดนุย้ำกระหน่ำวจิสะเทือน
แผลลึกระลึกเหมือน
กระทำ...
@_ถอยทีท่าและเสงี่ยมบ่เทียมนุชระกำ
ยลจันทร์ก็พรั่นคำ
สลัว...
@_รานรานร้าวฤดิซาบกระหนาบมนะระรัว
เรียมสาปสวาทพัว
ถวัลย์...
@_กลับมาร้างรติเริดเตลิดอุระฉกรรจ์
ทิ้งขว้างสะอางขวัญ
ประลัย...
@_งันงงเรียมจะประสงค์ผจงระบุพิสัย
ห้ามใคร ฤ หวั่นไหว
ก็ครวญ...
หมายเหตุ แต่งโต้ตอบ บท พ่ายสิริโพยม บอกอกูรู
((ขอโทษคุณ ทิกิ นะคะ เผอิญมาซ้ำ พอดีตอบไว้ที่พันทิปหลายวันแล้วน่ะค่ะไม่มีเวลาเอามาแปะ))
~พ่ายสิริโพยม~
...๏ง่า!!หวาดหวั่นภวนั่นผจัญอคนิผลาญ
ท้นร้อนและกร่อนปราณ
ฤทัยฯ....
...๏เหตุหม่นหมองเพราะผยองจะครองรุจิพิไล
ยืนหยัดและกวัดไกว
ผจญฯ....
...๏แผ่เล่ห์กราดก็ประกาศผงาดกละกมล
เสกเอมจะเปรมปรน
ประโลมฯ....
...๏ล่วงกาลล้าเพราะถลาจะคว้าสิริโพยม
ห่อนเจียมจะเทียมโสม
ประไพฯ....
...๏ล้วนมากปมพิษขมระบมดุจไศล
หนักอึ้งและตรึงนัย
กบาลฯ....
...๏เหือดมาดหมายผงะพ่ายสลายหทัยหาญ
แค่นรมย์และซมซาน
เผชิญฯ....
...๏ไหลหยาดรื้นจะมิฝืน ฤ ขวางฤดิจะเมิน
มอดเดชเทวษเกิน
ผจัญฯ....
...๏แผลลึกแสบอุระแปลบเพราะคมพิษฉกรรจ์
เพลิงสมถล่มพลัน
ขจายฯ....
...๏ยามยลจันทร์มนะครั่นประหวั่นรตะสลาย
แสงส่องบ่ผ่องพราย
สลัวฯ....
...๏กริ่งเกรงฟ้าก็ผวาสงัดมิติขมัว
คงขลาดสวาทรัว
ระรานฯ....
...๏จึ่งซ่อนจิตบ่พิชิตสนิทรติสะคราญ
เอมลดและปลดหวาน
ผจงฯ....
2 พฤศจิกายน 2547 04:02 น.
รำนำ
@_ดาวรายราวเกลื่อนหล้า นภากาศ
เรียมฝากสาสน์ดาวดาษ ลิขิตสร้อย
ส่งรฤกผ่านฟ้าวาด จารจด เจ้าเอย
นฤมิตรดาวล้านร้อย คร่ำน้องคนึงนวล_@
.....................................................................................
@_เรียมจรเจียมเจ็บแล้ว อาดูร พี่เอย
ดาวเกลื่อนฟ้ามาทูล เอ่ยถ้อย
วาระเตือนห่อนสูญ คืนกลับ นวลแล
คอยถวิลร่ำไห้คล้อย ก่นเศร้าเคล้าคอย_@
.....................................................................................
@_ดาริกาดาดหล้า ล้านดาว
ระลึกระเริงคราว สดับถ้อย
เอื้อนกล่อมนวลสาว ยลนภ คู่เฮย
ยามพิศดาราน้อย เทวษล้ำคราเคียง_@
......................................................................................
@_ถวิลครวญจากเจ้า ดารา
โพยมก่นเพียงเมฆา ร่ำไห้
นภาปิดกลบจินตนา พบยาก
คนึงคิดยังติดไซร้ มืดแท้ประกายดาว_@
.........................................................................................
@_ไกลบ่เห็นห่างเจ้า ดาวใจ
ฟ้ามืดเพียรยลไป ไป่พ้อง
มิอาจปลิดคนึงนัย ครวญคร่ำ นาพี่
ดาราอยู่ฤทัยน้อง ใช่ฟ้าโพยมบน_@
2 พฤศจิกายน 2547 03:40 น.
รำนำ
@_ดาริกาวาดไว้ในห้วงหาว
ยะแย้มพราวพรายเพชรเห็นอักษร
อโณทัยล่วงแล้วแพ้วทางกลอน
น้องแนบนอนสนิทนิตย์สถิตย์ครา
ยลนภาดารารายระหว่างกล่อม
แสงดาวถนอมฝันหวามให้ใฝ่หา
ยามเห็นดาวเตือนเสน่ห์เคยเคียงมา
เรียมอย่าลาลับล่วงห่วงคนคอย ฯ
ที่จากกันขอเพียงพรากแล้วคืนกลับ
ที่จากกันดาวเหมือนดับทุกข์ท้อถอย
ที่จากเรือนจากเพื่อนแก้วไกลราวลอย
ที่จากถ้อยวาทีหวานเพราะกิจงาน
น้องเฝ้าหักห้ามหทัยไม่ให้คิด
น้องจำปลิดที่ทุรนราวจะผลาญ
น้องสิเฝ้ารอพี่อย่าจรนาน
น้องฝากวารเตือนพี่กลับถนอมนวล ฯ
มองดาราสกาวหล้าฟ้าเตือนเหตุ
ระลึกคำเทวษพร่ำร่ำไห้หวน
เรียมฝากถ้อยน้องน้อยยิ่งคร่ำครวญ
คนึงใจจวนขาดแล้วแก้วนัยนา ฯ
1 พฤศจิกายน 2547 08:23 น.
รำนำ
กาพท์ยานี๑๑
@_ลมพร่างผะแผ่วพริ้ว..........กรีดบาดผิวหนาวถึงใจ
หวนหาคะนึงไอ....................อุ่นอกเอื้อโอบเนื้อนวล
...หนาวเหลือจะเหลือหนาว......นัยน์เนตรพราวระลึกทวน
การณ์เกินจะคร่ำครวญ............ความทั้งมวลมิอาจคืน
...โหยไห้สิยามพบ.................ยากจักหลบละกล้ำกลืน
หนาวสั่นสะท้านขืน.................ข้ามพ้นคืนยามพบกัน
...ชวนชอกยอกเจ็บจิต............ซ่านในพิษอดีตครัน
ไยหนอทุกข์ทาบทัน...............หทัยพลันสลายลง
...ลมหนาวที่พายพัด..............มาประหัตสงบคง
เยียบเย็นยะเยือกหลง............ราวปลิดปลงความตั้งใจ_@
29 ตุลาคม 2547 04:24 น.
รำนำ
@_เป็นจันทร์แจ่มนวลแจ้งส่องแสงเรื่อ
โปรยยิ้มเอื้ออ่อนอวลชวนให้หลง
ส่งแสงนวลอาบไล้ปลอบให้อยู่คง
ดวงใจเอยจงเข้มแข็งรอคืนเพ็ญ
@_จันทราจ้าวเศร้าหมองครองฟ้าอยู่
เหน็บหนาวฝืนสู้ไว้ใช่ใครเห็น
เอกาเดียวเปลี่ยวร้าวน้ำตาเซ็น
แม้คืนเพ็ญยังอยู่ยั้งรั้งเดียวดาย
@_ศศิธรสูงส่งตรงแผ่นฟ้า
อยากจะโน้มลงมาดวงใจหมาย
ถวิลหาอยากเห็นเจ้ามิเว้นวาย
แต่เดือนกรายเคลื่อนคล้อยลงอย่างไร
@_เนาว์อยู่บนเพียงเดี่ยวท่องเที่ยวหา
ดวงใจข้าฯหลีกเร้นอยู่หนไหน
เอื้อนเอ่ยว่าอาภัพจำหลบไป
ละจันทร์เดียวเปลี่ยวไว้กลางนภา
@_เกิดบนฟ้ากว่ากว้างอ้างว้างนัก
แม้พานพบในรักหากสุดหล้า
ปลอบประโลมหทัยไว้จูบจันทรา
ในราตรีสว่างจ้าที่จันทร์เยือน
@_อกร้าวรานปานแตกต้องแยกจาก
ดวงใจเอยฝากรักที่หมายเหมือน
จันทร์กระจ่างใช่ว่าแจ่มแสงนวลเลือน
พรากจากเตือนให้รฤกนึกความไกล
@_ยิ่งคืนแรมแก้มช้ำน้ำตาหล่น
จันทร์ก็หม่นใช่ว่าอยากจะผลักไส
รักแล้วพรากมาจากซ้ำย้ำหัวใจ
ต่างกันให้แต่ทุกข์สุขเพียงมอง
@_ดวงใจเอ๋ยอย่าเลยลับไปจากน้อง
ไยตริตรองว่าอยู่สูงจึงเกินหมาย
แล้วซมซานหลบรักอยู่เดียวดาย
หมดประกายจันทร์หม่นค้นไม่เจอ
@_ในความต่างย่อมเห็นงามยามเมื่อกล้า
ไยอ่อนล้าค่าต้อยต่ำย้ำเสมอ
ยามพลัดพรากก็เฝ้าหาราวละเมอ
ยามพบเจอก็ก่นเศร้าเราต่างกัน
@_ปราถนาจะยลพบประสบพักตร์
ใจต้องหนักแน่นไว้ในความฝัน
รักแล้วรู้รสหวานลานใจจันทร์
ใช่จะรั้นรั้งฟ้ามาต่ำดิน
@_เพียงดวงใจรอเดือนจะเคลื่อนคล้อย
เยี่ยมหน้าคอยส่องแสงนวลนิจสิน
ไม่พรากจากแล้วลับเลยเพียงคืนนิล
ปล่อยคนคอยเฝ้าถวิลสิ้นอาลัย
@_ด้วยไม่อาจเคียงคู่เช่นชู้อื่น
รักเราชื่นเพียงได้ยลใช่อยู่ใกล้
เป็นความงามของความต่างร้าวรานใจ
หากดีกว่าพรากจากไปแล้วไม่คืน
@_ศศิธรเหว่ว้า สุดไกล
ใช่จะร้างดวงใจ หลบหน้า
คืนแรมสิดั่งไฟ สุมอก นาพี่
เพ็ญจะกลับสู่ฟ้า เยี่ยมยิ้มมาคืน_@
@_ดวงใจฝืนเจ็บด้วย ต่างชน
จันทร์ยิ่งร้าวรานรน ปลอบถ้อย
รักคือศักดิ์งามดล เสมอเท่า เทียมแฮ
ไกลห่างเจ็บกว่าด้อย เกิดได้เท่าเทียม_@
@_ความงามในต่างนั้น มากมี
เสมอระดับเดียวมี เบื่อแท้
ต่างระดับเห็นสี สดกระจ่าง
มองจับสิ่งดีแก้ พรากเจ้าเงาจันทร์_@
@_ไกลกันยังกลับย้อน มาคืน พี่เอย
นวลแจ่มแย้มยิ้มยืน อยู่ฟ้า
ดวงใจพี่จงฝืน รอกลับ คืนแล
น้องใช่ลับร้างล้า เยี่ยมหน้านวลเพ็ญ_@