6 สิงหาคม 2547 12:36 น.

นักสืบระดับอินเตอร์

ราศรีสิงห์

(วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม เวลา 12.20 น.)
ผมเดินผิวปากฮัมเพลงอย่างสบายใจเฉิบเข้าไปในครัว
ถ้วยใบหนึ่งถูกวางคว่ำหน้าอยู่ 
ใช่แล้ว สิ่งของต้องซุกซ่อนอยู่ในถ้วยใบนี้อย่างแน่นอน

....มือผมค่อย ๆ บรรจง เปิด แง้มถ้วยใบนั้น ขึ้นมาอย่างเชื่องช้า 
ตามองไปปะทะเจอสิ่งของที่วางไว้ใต้ถ้วยใบนั้นทันทีทันใด.


(วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม ย้อนหลังไปเวลา 12.00 น.)
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้ สิ่งที่น่ากระทำเป็นการฆ่าเวลาได้ดีที่สุด
สำหรับผมคือการอ่านหนังสือครับ
เชอร์เลอกโฮมยอดนักสืบ 
ผมอ่านตั้งแต่สามโมงเช้าจนป่านนี้ยังไม่ได้วางมือลง 
อย่างว่ายิ่งอ่านยิ่งมัน ลืมทุกสิ่งรอบกายไปหมดครับ
ศรีภรรยาของผมคงจะรำคาญ ที่เห็นผมไม่ได้ทำประโยชน์อะไรในวันหยุดเช่นนี้
เธอเดินปรี่เข้ามาหา มือบาง ๆ เธอจับหนังสือเล่มที่ผมอ่านรวบเอาไปไว้ในอุ้งมือเธอ
พอแล้วค่ะที่รัก ใกล้ถึงเวลา อาหารกลางวันแล้วค่ะ ภรรยาของผมก็น่ารักอย่างนี้แหละ  ชักอิจฉาผมแล้วไหมล่ะครับท่านผู้อ่าน
ฮื้อ..อีกนิดเดียวน่า ใกล้จบแล้ว ผมกล่าวอ้อนเธอ
วันทั้งวันเห็นพี่อ่านเอ๊าอ่านเอา เอาแต่หนังสือสืบสวนสอบสวน
แหม ก็เนื้อเรื่องเขาชวนสนุกสนานน่าติดตามดีออก
แล้วพี่ได้อะไรบ้างล่ะค่ะ
พูดแล้วจะหาว่าพี่คุย ถ้าพี่ถูกจ้างให้เป็นตำรวจโลก ผู้ร้ายอย่างเบนลาดินเสร็จหนีไม่พ้นเงื้อมมือพี่อย่างแน่นอน
ฮะแฮ้ม..เอาอย่างนี้ไหมล่ะ หนิงอยากรู้ว่าพี่จะเก่งจริงหรือเปล่า
เอาไงก็เอากัน ผมรับคำท้าทายเธอทันที ลองดูสักยกน่า

ซึ่งสิ่งที่เธอให้ทำดูเหมือนจะเป็นเรื่องหมู ๆ สำหรับผม 
โดยเธอจะเอาเข็มหมุดไปซ่อนไว้ภายในเรือน 
โดยซ่อนไว้ในที่สามารถมองเห็นได้ง่าย 
เรื่องขี้ผงแบบนี้จะให้นักสืบระดับอินเตอร์ลดตนเองลงกระทำ เชอะ
แต่เพื่อเอาใจยอดรักก็ต้องอ่อนข้อให้กันซะหน่อย
ผมก็คนอารมณ์ดีซะด้วย เล่นเกมสนุกกันสักวันน่า 
แถมมีพ่วงติดปลายนวมเล็กน้อยเพื่อความตื่นเต้น 

ถ้าไม่สำเร็จวันนี้ผมยินยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวลงซักผ้าเองด้วยมือ 
แต่ถ้าสำเร็จวันนี้เธอยอมตามใจผมทุกอย่าง อย่างไม่มีข้อบิดพริ้ว นั่นแน่!

เข็มหมุดขนาดเล็กเท่าหัวไม่ขีด เธอยกชูขึ้นโชว์ 

หลับตาไว้ก่อนนะค่ะ ห้ามโกง ห้ามแอบมองดูด้วยล่ะ
เธอเดินเข้ามาใกล้ ๆ เหมือนจะไม่มั่นใจว่าตาผมจะหลับลงจริงหรือเปล่า
ผมจำเป็นต้องรีบหลับตาลง ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จาง ๆ จากเรือนร่างของเธอ
ปากเธอกระซิบที่หูของผม อย่างแผ่วเบา
หาให้เจอนะค่ะที่รัก..หนิงจะมีรางวัลให้อย่างงดงาม 
ริมฝีปากนุ่ม ๆ ของเธอมาแตะที่แก้มของผม ทำให้ซาบซ่านไปหมดทั้งตัว
จิตใจสั่นไหวรู้สึกเคลิ้ม ๆ.... 
มาได้สติอีกครั้งเธอก็เดินจากไปซะแล้ว

ทันทีที่เธอเดินลับตาไป ใครล่ะจะหลับตาให้โง่ 
ตาผมเริ่มหรี่ ๆ มองดู หูทั้งสองเริ่มฟังเสียง
ประตูห้องนอนถูกเปิด 
ผู้หญิงก็อย่างนี้แหละครับ คงไม่มีประสบการณ์ทำอะไรก็ให้ได้ยินเสียงไปหมด
จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเธอย่องเข้าไปในครัว 
เสียงจานชามในครัวกระทบกันอีก
ไปซ่อนของอะไรจะสะเปะสะปะขนาดนั้น 
งานนี้ปลอกกล้วยเข้าปากแน่ผมยิ้มอยู่ในใจ

ชั่วประเดี่ยวน้ำเดือด ก็ได้ยินสัญญาณเสียงหวาน ๆ จากเธอดังแว่วมาจากห้องนั่งเล่น
เก้า..แปด..เจ็ด..หก..ห้า..สี่..สาม..สอง..หนึ่ง..ศูนย์ เริ่มได้ค่ะ

ผมรีบเดินเข้าไปห้องนั่งเล่นก่อนเป็นอันดับแรก พบเห็นเธอพร้อมรอยยิ้ม
อย่าลืมให้เวลาสามสิบนาทีที่ตกลงกันไว้นะค่ะ

ผมแทบจะพลั้งปากออกไปห้านาทีก็ได้ แต่ชะงักไว้ก่อน 
ของอย่างนี้มันต้องวางฟอร์มกันก่อน เพื่อให้ดูตื่นเต้น 
ผมก็แกล้งค้นแถวห้องนั่งเล่นก่อน 
จากนั้นก็แวะไปเข้าห้องน้ำ 
เตร่ไปห้องรับประทานอาหาร 
ก็ถ่วงเวลาโอ้เอ้ไว้ก่อน ถ้าไปเจอง่าย ๆ ก็หมดสนุกนะซิครับท่านผู้อ่าน

ได้เวลาพอสมควรผมจึงขึ้นไปห้องนอนมองตรวจตราพินิจดูอย่างถี่ถ้วน
ไม่น่าจะใช่ผมนึกอยู่ในใจ
จากนั้นผมก็เดินเข้าไปในครัว ทันทีที่เข้าไปก็เห็นถ้วยใบหนึ่งคว่ำผิดปรกติอยู่ 
แต่ผมก็เร่ ไปค้นที่อื่นก่อน ช่วงนี้ภรรยาของผมติดตามมาด้วย 
แหม! แสดงพิรุธให้เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ ต้องใช่ที่นี่แน่นอน

ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือเหลืออีก ๑๐ นาทีจะครบเวลาที่กำหนด
ผมเดินอย่างสโลว์โมชั่น ช้า ๆ ไปที่ถ้วยใบนั้น


....ทันทีที่ถ้วยถูกเปิดขึ้นสิ่งที่กระทบตาของผม 
(..ตุ๊กตาเจ้าจ๋อ)

ผมหน้าซีดเผือดทันทีแทบไม่เชื่อในสายตา 
หน้าตาเลิ่กลั่กมองหน้าภรรยา เธออมยิ้มหวานมาให้ผม
เหมือนกับว่าเธอจะรู้ว่าผมต้องเปิดดูตุ๊กตาเจ้าลิงจอที่หน้าตาตลกตัวนี้อย่างแน่นอน

แต่ผมไม่ตลกไปด้วยกับมันซะแล้ว
เธอเอาเข็มหมุดไปซ่อนไว้ที่ไหนกันแน่
ผมพึ่งจะรู้ซึ้งถึงคำว่างมเข็มในมหาสมุทรก็งวดนี้.....


ของทุกชิ้นในห้องครัว ก็ได้มาสัมผัสก็คราวนี้แหละครับ 
ทั้งที่บางอย่างไปเคยจับกระทบมือผมเลย เช่นกระทะ
แต่ก็ว่างเปล่า ไม่พบเห็นแม้เงาของเข็มหมุด
เวลาที่นาฬิกาข้อมือผมดูเหมือนจะไม่เป็นใจเดินเร็วผิดปรกติ
ห้องครัวเปิดพัดลมเสียงดังสนั่น แต่เหงื่อเริ่มไหลออกมาท่วมกายผม
ว่างเปล่าทุกซอกทุกมุม ไม่มีเข็มหมุดซ่อนอยู่ ในครัว

เหลืออีก ๔ นาที ใช่แล้วห้องนอน ผมคิดได้ไม่รอช้า รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนทันที
ค้นทุกซอกมุมที่น่าสงสัย อย่างละเอียดยิบ 
แม้แต่มดซักตัวก็สามารถเล็ดลอดผ่านสายตาผมไปได้
ผมต้องคว้าน้ำเหลวอีกครั้ง
ผมต้องล้มตัวลงนอนแผ่หราอย่างสิ้นแรง หมดปัญญาจะเจอแล้ว
เสียงภรรยาของผมตามติดขึ้นมาด้วย เพราะเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งนาที
ผมไม่อยากเห็นรอยยิ้มของเธอจึงคว่ำหน้าลงเอาหมอนแนบกับอก
ฉับพลัน เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ผมเกิดความรู้สึกเจ็บที่หน้าอก
เหมือนกับว่ามีของแหลมมากระทบ
ต้องสะดุ้งขึ้นอย่างสุดตัว ใช่แล้วเข็มหมุดเธอซ่อนไว้ใต้หมอนที่เอง

ปลอกหมอนถูกมือของผมเปิดออกมาดูด้วยมือสั่นเทา
ตารีบพลิกหมอนดูทุกด้าน ว่างเปล่า
มือสลัดปลอกหมอนไปมา พร้อมทั้งขย้ำ ว่างเปล่า

ผมล้มตัวลงนอนแผ่หลาอีกครั้ง พร้อมได้ยินเสียงหวานแว่ว
เก้า....สอง.หนึ่ง.ศูนย์ หมดเวลาแล้วค่ะ

ผมคอตกยิ้มแหย ๆ โกงพี่หรือเปล่าจ๊ะที่รัก
เอาผ้าไปซักก่อนเดี๋ยวจะบอกน่ะค่ะ อยากรู้ต้องใจเย็น ๆสิค่ะ
แต่เวลาซักระวังด้วยนะค่ะ เดี่ยวมือจะพองเพราะพี่ไม่ค่อยได้ทำ เธอหันมายิ้มยั่วผมอีก

กองผ้าเบ้อเร่อถูกซักด้วยมือครั้งแรก ทุกครั้งศรีภรรยาจะจัดการให้
นึกคิดแล้วเสียเหลี่ยมมาสิ้นท่านักสืบระดับอินเตอร์ก็คราวนี้
พลันมือที่ขยี้ซักผ้าก็รู้สึกเจ็บแปล๊บ
เสื้อที่ผมใส่หาเข็มหมุดวันนี้ถูกยกขึ้นมา พลันเรื่องต่าง ๆ ก็กระจ่างขึ้นในจิตใจ



(ขออนุญาตสโลโมชั่นย้อนหลังตอนสำคัญให้ท่านผู้อ่านได้เห็นอีกครั้งนะครับ)

..ริมฝีปากบางเบาของเธอเคลื่อนที่เข้ามาหาแก้มของผมอย่างช้า ๆ 
สิ่งหนึ่งภายในมือเธอ ค่อย ๆ ปล่อยหย่อนลง.....
..ทันทีที่ริมฝีปากเธอกระทบแก้มผม 
เข็มหมุดหยุดแน่นิ่งอยู่กระเป๋าเสื้อด้านหน้าผมนั่นเอง..				
1 สิงหาคม 2547 22:01 น.

จดหมายลูกโซ่

ราศรีสิงห์

( วันที่ 10 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. )
ในออฟฟิต ชาติชายผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง กำลังใจจดใจจ่ออ่านจดหมายฉบับหนึ่ง 
บังเอิญเกริกไกรลูกน้องคนสนิทผลักประตูโผล่หน้าเข้ามาพอดีกับได้ยินเสียงสบถของผู้จัดการ
ไอ้ห่..! จดหมายเฮงซวย พร้อมกับมือกำขยำกระดาษอย่างยู่ยี่ทิ้งลงใส่ตะกร้าขยะ
จดหมายลูกโซ่ ใช่ไหมครับ    เกริกไกรเอ่ยขึ้น
เออว่ะ ไม่ทราบไอ้บ้าที่ไหนกันมีความคิดแผลง ๆเล่นสนุกสนานแบบนี้
ไม่ทดลองทำตามดูหรือครับ ช่วงนี้ดวงบริษัทของเรากำลังตกอยู่ด้วย ยอดขายลดลงอย่างฮวบฮาบ
เฮ้ย! กูไม่ใช่ไอ้บ้านะเว้ยจะได้ทำตามมัน



(ปลายเดือนวันที่ 31 กรกฎาคม เวลา 17.00 น.)
ผู้จัดการอุตส่าห์ถ่อสังขารอันอุ้ยอ้ายมาหาเกริกไกร หลังเวลาเลิกงาน
เฮ้ย! วันนี้พิเศษวะ กูจะเลี้ยงเองให้พุงกางไปเลย
เกริกไกรมองหน้าเจ้านายอย่างงงงันสงสัย แทบไม่เชื่อในสองรูหู ที่ได้สดับ
เป็นอะไรไปว่ะ สงสัยอะไรของเอง ผู้จัดการจอมตืดยิ้มให้เกริกไกรอย่างอารมณ์ดี
อ้า.. ! เพียงแต่แปลกใจ ในรอบเดือนผมพึ่งจะเห็นรอยยิ้มของเจ้านายก็วันนี้เองครับ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็ยอดสั่งซื้อของเดือนนี้ทะลุเป้า อย่างนี้ต้องเลี้ยงฉลองกันหน่อยซะแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า



(ย้อนหลังไปวันที่ 11 กรกฎาคม เวลา 13.00 น.)
เกริกไกรถูกเจ้านายเรียกหาให้เข้าไปพบในห้องโดนด่วนจี๋
ทันทีที่เขาเข้าไปแทบตกตลึง เพราะจดหมายยับยู่ยี่ฉบับนั้น 
ถูกผู้จัดการรีดเสียจนเรียบวางไว้บนโต๊ะทำงาน
เฮ้ย! แกช่วยเอาจดหมายฉบับนี้ไปส่งให้ข้าทีเถอะว่ะ
เอาจดหมายฉบับนี้ไปส่งต่อ เกริกไกรถามย้ำนึกว่าตนเองหูฝาดไป
ส่งไปเลยแสนฉบับ
แสนฉบับ
เออซิว่ะ
เขาให้ส่งแค่ ยี่สิบ ฉบับเท่านั้นนะครับ เกริกไกรย้ำอีกอย่างไม่ค่อยมั่นใจในคำสั่ง
ข้าว่าแสนก็แสนซิว่ะ ส่งมากยิ่งโชคมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า




(ย้อนหลังไปอีกต้นเดือนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 10.00 น.)
ชาติชายกำลังพูดจากับลูกน้องอย่างหน้าดำคร่ำเครียดภายในห้องทำงาน
ซึ่งแอร์ภายในห้องหาได้ลดอุณหภูมิความร้อนของเรื่องลงได้ไม่
ไกร บางทีสิ้นเดือนนี้ข้าคงต้องปลดพนักงานบริษัทออกบางส่วน
ทำไมละครับ
ก็ยอดขายของตกต่ำ ห่วยฉิบหาย คงเศรษฐกิจขาจมดิ่งอย่างเขาว่า
ก็เห็นจะจริงครับ อีกอย่างคนยุคสมัยใหม่ หันมาส่งข้อความทางอีเมล์กันมาก 
ก็อีนี่แหละ จะพลอยทำให้บริษัทของเราตายห่าตายโหงไปด้วย
ก็ใช้ง่ายนี่ครับ ไปได้คล่องแคล่วแทบทุกมุมโลก ไม่เลือกเวลาซะด้วย เกริกไกรกล่าวเสริมขึ้นอีก
ก็นั่นนะซิ คนก็นิยมใช้อีห่..นี้ซะด้วย เดือนนี้ถ้ายอดขายของบริษัทเราไม่กระเตื้อง...
ทำไม.ละ..ครับ ไกรถามด้วยเสียงสั่น
กระดาษที่ผลิตถ้าขายไม่ออก คงมีใครได้เจอดีโดนหางเลขตัดหางปล่อยวัดกันก็งานนี้ล่ะ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราศรีสิงห์
Lovings  ราศรีสิงห์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราศรีสิงห์
Lovings  ราศรีสิงห์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราศรีสิงห์
Lovings  ราศรีสิงห์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงราศรีสิงห์