31 กรกฎาคม 2547 14:49 น.

ประหวัด

ราม ลิขิต

เพลงพิรุณสุนทรีย์ราศีโลก		
บรรเลงโชคแด่เชษฐ์เกษตรฉาย
อุดมดลท้นธารถึงลานทราย		
แต่ฝั่งซ้ายจนขวาคณาคลอง

ศัลยาครายลชลระยับ		
คือม่านซับสีมาธัญญาผอง
ยามที่ยอดทอดไล้ไอละออง		
สุวรรณพ้องพ่างพื้นปฐพี

จักเห็นทุยลุยท่องไปทั้งทุ่ง		
สง่าไถไรรุ่งผดุงศรี
สง่าสมเกษตราบารนี		
สง่านักศักดิ์นี้เพราะปรีชา

ได้ชูช่วยชีพชนม์ประชาชื่น		
จากโคลนเลนเข็ญขื่นและแรงขา
กับอีกคนซึ่งหลังอังนภา		
จวบจนได้ข้าวปลามาเลี้ยงดู

อร่อยล้ำฉ่ำลิ้มเมื่ออิ่มแล้ว		
หัวใจแก้วขอกว้างสว่างอยู่
คิดถึงคนจนควายชม้ายชู		
ก็ชื่นนักชื่นอยู่เมื่อยลยิน

เจ้าดอกดวงพวงฝนสกลเอ๋ย		
ข้าชื่นเชยเพลงงามวามถวิล
ขอนบนอบขอบคุณพิรุณริน		
ที่โลมถิ่นทุกท้องเกษตรไทย๚ะ๛				
30 กรกฎาคม 2547 19:39 น.

จุ๊หมาน้อยขึ้นดอย

ราม ลิขิต

ฝนหนักหน่วงมาคราดึก	
เย็นลึกล่วงในหัวอก
ค้างใจไล้ตาซ่าซก		
วกวนรนลวกอุรา

ขอบฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล	
กังวานแว่วหอมเสน่หา
ท่ามสายพิรุณรัถยา	
รักเททักทาอารมณ์

วิชชุฉายช่วงห่วงแวบ	
ใจแนบเนาชิดสนิทสนม
เพียงทาบวาบหายวายชม	
ขื่นขมคาสายวชิรา

คลองอิ่มปริ่มน้ำดึกนี้	
หวั่นรุ่งจรลีหนีหน้า
ขอดแห้งหายเหเวทนา	
เหือดห้วงน้ำฟ้าน้ำใจ

คนจรหมอนหมิ่นดินต่าง	
เจียมอยู่ทุกทางย่างใกล้
เจียมตนเจียมตาว่าไกล	
ร้อยชื่นขื่นไข้ไปมา

ฝนหน่วงล่วงหนักดึกนี้	
หนาวลึกฤดีดื่มข้า
ยิ้มหมองรองชลคณนา
เขาจุ๊หมาน้อยขึ้นดอย๚ะ๛				
19 กรกฎาคม 2547 15:10 น.

มหาวีร

ราม ลิขิต

๏ไพร่พลของเรานั้นมีน้อย	
จะอยู่ยั้งตั้งคอยคงป่นปี้
พระนครถึงคราแล้วคราวนี้	
เห็นเหลือวิสัยที่จะต่อรบ
ไปเถิดค่อยหาเพลาสู้	
หาไม่แค้นกูไม่สงบ
อนาถกรุงรุ่งวันพลันชิงพลบ	
จะถามคืนให้ครบที่แค้นคอ
อาชาเยาะย่างอยู่กลางคลี	
ขุนอภัยภักดีมิระย่อ
หลวงราชเสน่หาน้ำตาคลอ	
พระเชียงเงินชะลอชลนัยน์
หลวงพรหมเสนากำหมัดแน่น
หลวงพิชัยสั่นแค้นดังแสนไข้
ต่างคนต่างเห็นต่างเป็นไป	
ก่อนมุ่งสู่ไพรบูรพา ๚ะ 

   ๏ออกจากค่ายที่วัดพิชัย	
ตีฝ่าออกไปเขาไล่ฆ่า
สู้พลางถอยพลางตามทางมา
ตีโต้หันตาไม่รามือ
เรือนชานบ้านช่องทุกท้องที่	
ไอ้โสร่งราวีปานนี้หรือ 
หวีดว้ายพรายเสียงก็เพียงฮือ	
ศพกองอึดตะปือมิทันปลง
เคยปลื้มดื่มดึกก็พลันดับ	
ทุ่งขับคลอเพียงแค่เสียงหลง
ดาวเดือนเกลื่อนฟ้าก็เฟือนลง
แตกยับพับตรงใต้ตีนมัน
หัวใจชายชาญทหารกล้า	
เจ็บนักเหมือนว่าจะอาสัญ
พล่านเลือดเดือดดุระอุดัน	
ดาบรันลงคมคอศัตรู
ตะลุยตะเลงตลอดค่ำ	
เที่ยงคืนบ้านสัมบัณฑิตสู้
ถึงเลือดถึงเนื้อกระหน่ำกรู
เช้าตรู่ถึงโพสังหารคาม ๚ะ 

   ๏จึงให้พักพลดูสภาพ	
ม้าราบหักห้อยค่อยค่อยหาม
วางจุดเสือหมอบระวังความ	
หยูกยาก็ตามแต่ที่มี
คุ้งคลองหนองน้ำก็ตามเกิด	
แบ่งเบาเอาเถิดนะน้องพี่
ปะทะปะทังก็ยังดี	
เห็นเจ้าเจ็บนี้ข้าเจ็บนัก
เจ็บเราเท่าฟ้ามหาสมุทร	
แค้นสุดเกินค่าคำว่าหนัก
ประทุษธรณีเป็นที่รัก	
จะควักหัวใจของพวกมัน
มิทันกำลังจะยังคืน	
เสือหมอบวิ่งตื่นตระหนักทั่น
ม่านมุ่งคลุ้งฝุ่นเห็นกรุ่นควัน	
เร่งรับฉับพลันในทันที ๚ะ 

   ๏บังไพรซ้ายขวาเป็นคู่ปีก	
เว้นฉีกช่องกลางหว่างวิถี
เปลือยดาบคมวับจะสับตี	
เงียบรอไพรีรณรงค์
พม่ารามัญนั้นดูมาก	
กรูกรากมาในไพรระหง
เล็งแลล้วนรุทรยุทธยง	
เข้มแข็งมั่นคงคึกคะนอง
พริบตานาทีทลวงเลือด	
ประดาบเลือดเดือดก็ดังก้อง
ซุ่มแนวพนาขนาบกอง	
ทั้งสองฟากฟันสะบั้นไป
เป็นตายวายวางแห่งชีวิต	
คือดาบป้องปิดสถิตไหน
โลกนี้โลกหน้าเจียระไน	
จะมนละไมก็ฝีมือ
ปะทะฉะฉักด้วยหนักหน่วง	
ทั้งปวงพากเพียรกระเหี้ยนหือ
หัวหลุดแขนร่วงทะลวงลือ	
สมชื่อทหารผู้ชาญชัย
กำลังเรี่ยวแรงถึงแกร่งกล้า	
ก็พ่ายแพ้ปัญญามาแต่ไหน
พม่าป่นบนทางระหว่างไพร	
ทิ้งไว้ศพเศษสังขารา ๚ะ				
18 กรกฎาคม 2547 22:43 น.

เรืองอรุณ

ราม ลิขิต

ภุชงคประยาต ๑๒

อรุณรัตน์สวัสดิ์โลก			
อุษาโยคสว่างเยือน
สดับไทยไสวเทือน			
อร่ามทุ่งอำรุงทาง

วิหคเหินดำเนินห้วง		
นภายวง ณ ยอดยาง
ฤดูหมอกละลอกบาง		
โชลมเบื้องพนาใบ

คิรีมัวสลัวหม่น			
ประทับมนมโนมัย
ตะลิบลับระยับไร			
ก็เริ่มเขียวขจีมา

ขนัดสวนสุรีย์ส่อง			
กระจิบจ้องกระจอกจา
กระรอกริกกระถิกรา		
กระจ้อนแจ้นกระโจนแจว

ระกาโค่งก็โก่งขัน			
อิเอ้กพลันตะวันแพรว
สุนัขเห่าเขย่าแมว			
สะดุ้งโก่งกระโดงหลัง

และเบื้องหน้าขนำนั้น		
เมลืองธรรม์ ธ พุทธัง
พระสงฆ์บิณฑบาตบัง		
อบายบัดสกัดเบียน

ประนมขันจรัลจด			
กระจ่าคดประจุเจียน
เมล็ดข้าวจะขาวเนียน		
ตลอดในฤทัยนี้

อรุณรุ่งจรุงรื่น			
สบายชื่นประชาชี
วิถีชนบทมี			
พระคุณมอบมนุษย์มา

พเยียหอมพยอมไพร		
ตรลบไล่ประลัยลา
กระจายทิพย์สุคนธา		
ประเสริฐร่ำสยามเรา๚ะ๛				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราม ลิขิต
Lovings  ราม ลิขิต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราม ลิขิต
Lovings  ราม ลิขิต เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟราม ลิขิต
Lovings  ราม ลิขิต เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงราม ลิขิต