27 มีนาคม 2546 19:24 น.
ราชิกา
ฝันถึงดาว พราวพร่าง สว่างฟ้า
บรรเจิดจ้า ท้องนภา คราสดใส
มีดวงดาว สกาวส่อง ห้องหัวใจ
นภาลัย เจิดจรัสจ้า คราได้ยล
ฝันถึงเดือน เตือนใจ ให้พร่ำเพ้อ
เฝ้าละเมอ ครวญคร่ำไป ให้สับสน
หริ่งเรไร ร่ำร้องร่าย คล้ายเวทย์มนต์
เปรียบดั่งคน ทุกข์ทนเศร้า เงียบเหงาทรวง
ฝันถึงลม พรมพริ้วแผ่ว แว่วแว่วเสียง
คือสำเนียง เคียงคู่ใจ ให้สุดหวง
ลมเจ้าเอ๋ย อย่าพัดเลย นะลมลวง
ข้าขอทวง สัญญา คราพบกัน
ทะเลใจ แม้สุดไกล จะหยั่งถึง
ขอเพียงหนึ่ง คนกล้า ท้าทายฝัน
ความเข้มแข็ง คือแรงใจ ให้ฝ่าฟัน
ตราบถึงวัน ไม่ห่างเห ทะเลครวญ....ฯ
27 มีนาคม 2546 12:05 น.
ราชิกา
สงครามคือ ไฟมาร ผลาญย่อยยับ
ไม่เคยนับ แม้ชีวิต สิทธิศักดิ์ศรี
เข่นฆ่ากัน มิไหวหวั่น ต่อชีวี
โลกจักมี แต่ความโศก วิโยคพลัน
เพราะคนเรา เมามัว ไม่กลัวบาป
จึงเกิดภาพ ให้หม่นหมอง สยองขวัญ
เมื่อมนุษย์ ถึงจุดบ้า เข่นฆ่ากัน
นั่นคือวัน ที่โศกเศร้า เคล้าน้ำตา
สร้างอาวุธ ยุทธนา อย่างบ้าคลั่ง
เลือดไหลหลั่ง ล้มดิ้น สิ้นชีพหนา
ทั้งเผ่าพันธ์ คงหมดไป ในพริบตา
ทั่วโลกา ดั่งถูกเผา ในอัคคี
คนกระหาย สงคราม สนามรบ
มึซากศพ กลบดิน ทุกถิ่นที่
ไม่มีน้ำ จะดับไฟ ในวันนี้
เพราะคนมี ปัญญา เข่นฆ่ากัน
เราอยากเห็น สันติภาพ ล้างคราบเลือด
ลบธารเดือด ของชีวี มีสุขสันต์
อีกเมื่อไร สงครามไฟ บรรลัยกัลป์
หยุดยั้งพลัน สันติใฝ่ ให้ร่มเย็น.......ฯ
27 มีนาคม 2546 12:04 น.
ราชิกา
สงครามคือ ไฟมาร ผลาญย่อยยับ
ไม่เคยนับ แม้ชีวิต สิทธิศักดิ์ศรี
เข่นฆ่ากัน มิไหวหวั่น ต่อชีวี
โลกจักมี แต่ความโศก วิโยคพลัน
เพราะคนเรา เมามัว ไม่กลัวบาป
จึงเกิดภาพ ให้หม่นหมอง สยองขวัญ
เมื่อมนุษย์ ถึงจุดบ้า เข่นฆ่ากัน
นั่นคือวัน ที่โศกเศร้า เคล้าน้ำตา
สร้างอาวุธ ยุทธนา อย่างบ้าคลั่ง
เลือดไหลหลั่ง ล้มดิ้น สิ้นชีพหนา
ทั้งเผ่าพันธ์ คงหมดไป ในพริบตา
ทั่วโลกา ดั่งถูกเผา ในอัคคี
คนกระหาย สงคราม สนามรบ
มึซากศพ กลบดิน ทุกถิ่นที่
ไม่มีน้ำ จะดับไฟ ในวันนี้
เพราะคนมี ปัญญา เข่นฆ่ากัน
เราอยากเห็น สันติภาพ ล้างคราบเลือด
ลบธารเดือด ของชีวี มีสุขสันต์
อีกเมื่อไร สงครามไฟ บรรลัยกัลป์
หยุดยั้งพลัน สันติใฝ่ ให้ร่มเย็น.......ฯ
27 มีนาคม 2546 11:35 น.
ราชิกา
มองภาพถ่าย เธอนั้น พลันคิดถึง
เพ้อรำพึง คนึงหา พาใจหวน
มั่นในรัก ประจักษ์ใจ ไม่เรรวน
เฝ้าคร่ำครวญ รักเธอนั้น มั่นมิคลาย
ไกลแสนไกล สุดโค้ง แห่งขอบฟ้า
ไกลสุดตา ขอบฟ้านั้น พลันสลาย
ฟ้ามิอาจ กั้นทางรัก ทั้งใจกาย
รักมิวาย คลายความสุข ทุกราตรี
จะเก็บดาว ดวงน้อยน้อย มาร้อยฝัน
จะเก็บวัน อันซึ้งใจ ให้สุขศรี
จะเก็บรัก ฝากแนบไว้ ในฤดี
สองชีวี มีความสุข ทุกทิวา
เฝ้ารำพึง คิดถึงเธอ ละเมออยู่
คอยเคียงคู่ สู่สองใจ ใฝ่ฝันหา
วานสายลม กระซิบบอก ยอดชีวา
ว่าตัวข้า เฝ้าพร่ำเพ้อ เมื่อเธอไกล.....ฯ
26 มีนาคม 2546 20:10 น.
ราชิกา
หยาดน้ำค้าง พร่างพราย ปลายยอดหญ้า
มวลพฤกษา เหล่าผกา พาสดใส
รุ้งเรืองรอง สาดส่องฟ้า อ่าอำไพ
หริ่งเรไร ให้ใจสุข ในทุกครา
ยินเสียงแว่ว วิหคร้อง ก้องไพรพฤกษ์
ให้รู้สึก รำลึกถึง คนึงหา
ยินสายลม พรมพริ้วแผ่ว ดังแว่วมา
ดั่งสัญญา ที่ร่วมฝัน วันพบเธอ
เปิดหัวใจ ออกมา หาความรัก
พึ่งประจักษ์ พักดวงใจ ให้เสมอ
แม้นแสนไกล ยังห่วงหา คราได้เจอ
ครวญพร่ำเพ้อ ด้วยอาวรณ์ มิคลอนคลาย
แม้ตะวัน จะลาลับ จากขอบฟ้า
ดวงจันทรา จะสิ้นแสง แห่งจันทร์ฉาย
จะขอรัก เธอนั้น ตราบชีพวาย
ดุจดั่งสาย นทีใส ไม่ลืมเลือน.......ฯ