13 กันยายน 2546 14:33 น.
ราชิกา
....( หญิง )....******
จากภาพหนึ่ง ซึ้งใจ ในดวงจิต
พรหมลิขิต ดลใจ ให้ห่วงหา
จะชาติใด สองใจ ไม่คลาดคลา
บุญนำพา ให้ได้พบ ประสบกัน
คราเมื่อเรา มาพบกัน ในวันนี้
สองชีวี ประทับใจ ใช่ความฝัน
ความลึกซึ้ง เชื่อมสายใย ให้ผูกพัน
สื่อถึงกัน ด้วยรู้ใจ ไม่คลุมเคลือ
....( ชาย )....******
ย้อนมโน สำนึก ลึกในจิต
ย้อนชีวิต อดีตชาติ ประหลาดเหลือ
เหมือนปางก่อน ต่างเกื้อหนุน คอยจุนเจือ
จึงห่วงเอื้อ อาทร ดั่งดวงใจ
ให้วาบหวาม อบอุ่นใจ กระไรหนอ
เฝ้าคอยรอ แม้จะนาน สักเพียงไหน
เพื่อหล่อหลอม รวมเป็น หนึ่งฤทัย
เคียงกันไป คืนถิ่น ที่เคยเนา
คือความรัก ลึกซึ้ง ซึ่งพันผูก
หมั่นเพียรปลูก ต้นรักไว้ ไม่อับเฉา
ด้วยรักแท้ ประจักษ์แน่ สองใจเรา
เป็นดั่งเงา ส่งแรงใจ ให้แก่กัน......ฯ
13 กันยายน 2546 14:07 น.
ราชิกา
ด้วยความรัก ที่คงมั่น ไม่หวั่นไหว
เจ้านางไซร้ ทุกข์ฤทัย ให้ทอดถอน
เฝ้าคิดถึง คนึงหา แสนอาวรณ์
สุดร้าวรอน กรรแสงร่ำ และคร่ำครวญ
คอยคนรัก พักใจ ไม่เคยท้อ
เฝ้าคอยรอ นานแสนไกล ใจกำสรวล
โอ้..เจ้าพี่ จากน้องไป ใครเรรวน
ใยไม่หวน คืนหาน้อง คล้องสัมพันธ์.....ฯ
กาลเวลา เนิ่นนาน กว่าพานพบ
คราประสบ นวลน้อง ต้องโศกศัลย์
เจ้านางสิ้น ด้วยคมกริช ปลิดชีวัน
หลั่งเลือดพลัน เพราะน้อยใจ ในคู่เคียง
ก่อนจะสิ้น ชีวาวาย คลายจากหล้า
องค์เจ้าฟ้า ตั้งสัจจะ สุรเสียง
อธิษฐาน วิญญาณรัก ร่วมร้อยเรียง
คู่พร้อมเพรียง ครองความสุข ทุกชาติไป
หากชาติใด ไม่ได้เป็น เช่นคู่สอง
จะขอปอง คอยดูแล ให้สดใส
มอบความรัก คำปรึกษา กำลังใจ
คล้องหทัย ดุจสายใย แห่งศรัทธา....ฯ
13 กันยายน 2546 13:36 น.
ราชิกา
จากภาพหนึ่ง ซึ่งสว่าง กลางดวงจิต
เป็นนิมิต มหัศจรรย์ ให้กังขา
อนุสรณ์ ของความรัก สองวิญญา
กษัตริย์ตรา แห่งโยนก นครไกล
อาณาจักร ล้านนา คราก่อนนั้น
ศกหนึ่งพัน สี่ร้อย ที่สดใส
พังคราช เป็นกษัตริย์ ของชาวไทย
โอรสใน คือพระเจ้า พรหมกุมาร
อภิเษก สมรส กับธิดา
สุดโสภา ราชนิกูล ผู้กล้าหาญ
ร่วมครองรัก ด้วยความสุข มาช้านาน
จวบถึงกาล ต้องมาพราก จากไกลกัน
ด้วยเพราะขอม ยกทัพหน้า มาประชิด
คร่าชีวิต ชาวโยนก ให้อาสัญ
พังคราช พร้อมบุตรา จอมราชัน
หนีได้พลัน เหลือเพียงข้าฯ ธิดานาย
ถูกกวาดต้อน เป็นเชลย และจับขัง
เปรียบเหมือนดั่ง คนไร้ค่า น่าใจหาย
ทรมาน ทนทุกข์ยิ่ง ทั้งใจกาย
รักมิคลาย สวามี ที่จากจร.....ฯ
24 สิงหาคม 2546 18:22 น.
ราชิกา
เทียนทองสาดส่องจ้า เจิดแสง
อดทนต่อลมแรง ล่วงพ้น
โรคภัยที่แสดง แฝงทั่ว กายนา
ใจสู้อย่างเปี่ยมล้น ไป่ท้อทรมาน......ฯ
สิ้นลับดับล่วงแล้ว ดวงกมล
คืนสู่ยังเบื้องบน ร่างไร้
หลอมกายสละตน ดุจเทียน ส่องทาง
ฝากความดีนี่ไว้ ห่อนสิ้นมลายสูญ....ฯ
เทียนเล่มหนึ่ง ซึ่งส่องแสง ด้วยแรงกล้า
ยืนหยัดท้า ส่องสว่าง กลางเวหน
จุดประกาย พลังใจ ให้ปวงชน
ได้หลุดพ้น ความทุกข์ ทรมาน
แม้นเหนื่อยหนัก เพียงใด ไม่เคยบ่น
สู้อดทน ต่อโรคร้าย ที่คอยผลาญ
ความตั้งใจ มุ่งมั่นไว้ เพื่อการงาน
จวบลมปราณ ใกล้สูญลับ ดับชีวา
ดุจดั่งเทียน ที่หลอมกาย ละลายแท่ง
เพื่อเปล่งแสง ความสว่าง สุขหรรษา
เผื่อแผ่รัก แด่ผองชน ด้วยศรัทธา
พร้อมเมตตา ห่วงใย ใจผูกพัน
โอ้วันนี้ คงไม่มี พี่อีกแล้ว
ขอดวงแก้ว สถิตใน สรวงสวรรค์
คุณความดี แห่งพี่นี้ เอนกนันต์
ตราบนิรันดร์ คงคู่หล้า ชั่วฟ้าดิน.....ฯ
24 สิงหาคม 2546 17:18 น.
ราชิกา
จากวันนั้น จนกระทั่ง ถึงวันนี้
ฉันยังมี เธอเคียงข้าง ไม่ห่างหาย
อุ่นไอรัก สลักซึ้ง ตรึงใจกาย
รักมิวาย เฝ้าคิดถึง คนึงครวญ
มองท้องฟ้า คราหน้านี้ มีเมฆฝน
คล้ายต้องมนต์ ในดวงจิต คิดไห้หวน
ความผูกพัน แห่งรักนั้น ไม่เรรวน
น้องเนื้อนวล ใจยังภักดิ์ รักสองเรา
กระซิบหวาน ฝากคนดี พี่ที่รัก
น้องแน่นหนัก ใจคงมั่น ดั่งขุนเขา
กระซิบแผ่ว แว่วแว่วเสียง สำเนียงเบา
คราใดเหงา คอยรำพึง คิดถึงเธอ....ฯ