12 กรกฎาคม 2553 20:12 น.
รัมณีย์
วันหนึ่ง.. วันไหนก็ไม่รู้ เกิดลืมซะได้
แต่ว่า วันนั้นได้ไปทำบุญคอนโดของแฟน
นิมนต์พระจากวัดทับทิมแดง คลองสอง ปทุมธานี มารับสังฆทาน
พระท่านก็เทศน์ให้ฟัง จึงนำเนื้อหาเท่าที่จำได้ คร่าว ๆ ดังนี้
1. เทศน์เรื่อง พ่อแม่พออายุมากเข้ายิ่งถ้าไม่ได้ทำอะไรก็จะเหงา สิ่งที่ต้องการคือการดูแลจากลูก ให้ท่านกิน แก่แล้วก็ไม่ได้กินอะไรมาก ไม่ได้ต้องการอะไรที่เป็นวัตถุ
สมัยนี้การศึกษาทำให้ลูกห่างพ่อแม่ เรียนจบก็หางานตามที่ร่ำเรียนไปอยู่คนละที่
มีโอกาสก็ควรจะตอบแทนพ่อแม่
การตอบแทน ถ้าเลี้ยงดูแต่อาหารที่อยู่ ส่งเงินให้ ก็ไม่ต่างจากเลี้ยงท่านเหมือนเลี้ยงเป็ดไก่ ขังอยู่อย่างนั้น
ดีขึ้นมาหน่อยคือ ใส่ใจให้ที่ท่านต้องการ เรียกว่าเลี้ยงอย่างเทวดี อยากได้อะไรหาให้หมด ให้ท่านมีความสุขความสบาย
ดีขึ้นมาอีก ที่ควรจะเป็น คือเลี้ยงดูอย่างพระ คือมีความเคารพ ในท่าน
2. คนเราเมื่อแก่ จะหลงลืม การหลงลืมมี 2 แบบ แบบแรก เป็นเพราะใช้สมองน้อย แบบที่สองเพราะใช้สมองมากเกินไป
พวกฝรั่งคิดมาก ก็จะเป็นแบบที่สอง เป็นอัลไซเมอร์ แต่คนไทยพอเกษียณ บางทีว่างก็ไม่ค่อยทำอะไรก็จะหลงลืม เป็นแบบแรก
ถ้าจะให้ดีก็ควรพาพ่อแม่ไปวัด ให้ท่านมีกิจกรรมทำ สมองก็ได้ใช้งาน และใช้ในการบุญการกุศล มีแต่เรื่องดี ๆ
3. การทำความดี ขั้นต้น การให้ทาน เป็นความสุขแป๊บเดียว พอสบายใจ แต่ไม่แก้ปัญหาได้
ขั้นสูงขึ้นมาหน่อย คือการรักษาศีล
ศีลนี้ ถ้าแปลว่าข้อห้าม แค่ได้ยินก็รู้สึกอึดอัดแล้ว กลายเป็นว่าคนมีศีลเหมือนคนถูกจองจำ
สำหรับคนที่มีเป็นปกติอาจจะไม่รู้สึกเพราะปกติก็อยู่อย่างนี้อยู่แล้ว แต่คนที่มีไม่ครบก็จะอึดอัดในใจ
ที่ถูกต้อง คำว่าศีลต้องแปลว่า ข้อฝึกตน
พระพุทธเจ้าไม่เคยห้าม มีแต่สอน สอนว่าอะไรทำแล้วนำสู่ความเจริญ อะไรทำแล้วนำสู่ความเสื่อม
ที่พูดว่า เวรมณี สิกขา ปทัง สมาทิยามิ ฯลฯ
ไม่มีคำว่าห้าม มีคำว่า สิกขา
สิกขา ภาษาสันสกฤต คือ ศึกษา
คือการฝึกตน
ดังนั้น คนที่รักษาศีล คือคนที่น้อมรับข้อฝึกตน เหมือนแบบฝึกหัด ยิ่งฝึกบ่อยก็ยิ่งดี
ส่วน การสร้างบารมีสูงสุดคือการเจริญภาวนา
4. ท่านยังพูดเรื่องการเป็นโสด ดีกว่าการครองเรือน
เพราะมีเวลาให้กับการดูแลบิดามารดามากกว่า
ถ้ามีครอบครัวก็ให้เวลากับครอบครัวมาก ที่จะตอบแทนบุญคุณบิดามารดาก็น้อย
การตอบแทนบุญคุณ ควรพาพ่อแม่เข้าวัด ลูกเองก็เข้าด้วย ฟังธรรม พ่อแม่เห็นลูกเป็นคนดีก็สบายใจวางใจได้
พ่อแม่บางคนห่วงบ้าน ก็ตัดใจไม่ได้ เป็นอันตราย เพราะคนเราถึงเวลาก็ต้องปล่อยวาง
ถ้าไม่ปล่อยตอนนี้ พอจะจะตายขึ้นมา จิตยึดติด ห่วงนั่นห่วงนี่ ก็อาจจะทำให้ใจเศร้าหมอง
บางคนห่วงบ้าน ตายไปก็เกิดเป็นจิ้งจก ตุ๊กแก เฝ้าบ้าน เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ เป็นผีบ้านผีเรือน
จึงควรฝึกให้ปล่อยวางได้ตั้งแต่ตอนมีชีวิต ดีกว่ารอให้ถูกบังคับให้ต้องปล่อยวาง
เท่าที่ทรงจำ และจดมาหลังจากวันนั้น ก็มีเพียงเท่านี้ จึงนำมาให้อ่าน
พอเป็นที่ประดับความรู้ เพิ่มภูมิธรรม
-------------------------
ท่านใดอ่านแล้ว มีความคิดเห็น หรือข้อธรรมดี ๆ
ช่วยแนะนำ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขออนุโมทนาสาธุ กับเพื่อนผู้ยินดีในธรรมทุกคน