28 เมษายน 2551 12:43 น.
รัมณีย์
ยามฝนหลังครั้งใด
ใจก็ล่องลอยพลอยคิดถึงเพลง sleepy child
ของจำรัส เศวตาภรณ์
ยามขิมรัวแว่วเย็นแว่วคล้ายเสียงเย็นฝน
จินตนาการภาพธรรมชาติ
จึงถ่ายทอดออกมาเป็นร้อยกรอง
สอดรับ ทำนองเพลงดังกล่าวนี้
เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้อ่านได้ฟังกัน
(ช่วงต้นเพลงบรรเลงเป็น intro
จากนั้นพอขิมบรรเลง
ก็จะเริ่มต้นส่วนของเนื้อความที่เขียน
เปิดฟังเพลงที่
http://ramaniyo.webs.com/sleepy_child2.mp3)
----------------------------
พลิ้ว ลมพริ้ว พรมริ้วลมรื่น
ชื้น ชลฟ้า โปรยมาสู่ดิน
ใบ ข้าวโอน โอบลมฝนริน
ชื่น ชีวินอาบลม..
ฝน โปรยฝน โปรยสายชลฉ่ำ
น้ำ คือน้ำ ประทานจากพรหม
เย็น ชื่นบาน ด้วยธารทิพย์รมย์
ชื่น ใจชมชวนหา...
..... ฟ้า...งามตายิ่งเอย
(พลัน)..เผยแพรรุ้งทอ
เทพประทาน ถิ่นงามชื่นบาน ลออ ขอจำจดจาร..
สา-ยัณห์คล้อย ลอยแสงยออ่อน
ลด แรงร้อน อาวรณ์ล่วงวาร
เพ็ญ ผ่องนวล กว่านวลไหนปาน
ผ่อง ตระการนภา...
ฟ้า งามฟ้า ดาวท้าเดือนต้อง
พริบพราวพร้องเพรียกมองสบตา
งามยั่วยวน ชื่นชวนนิทรา
ชื่นวิญญาณ์ โลมขวัญ..
..... ฝัน...วิมาน รุ่งราม
(พลอย)..หวามใจไหวครวญ
ห่วงอาทร หมู่มวลหทัย มิตรไกล ใคร่ชวนร่วมชม...
หวัง วอนหวัง ใจหวังวอนว่า
รักษ์ ดินฟ้า ธารารื่นรมย์
คง ถิ่นไทย ให้งามขำคม
เอก อุดมแดนหวัง...
..... เอก.. อุดม..แดนหวัง...
22 เมษายน 2551 01:37 น.
รัมณีย์
นึกคืนฝันวันหนึ่งฝันมีลูก
ยังพันผูกกลางหทัยไม่เลือนหาย
ตื่นจากฝันใจยังสั่นแสนเสียดาย
ยังปองหมายอุ้มขวัญกล่อมฝันนอน
(ตัวจริงยังโสด แต่ในฝันแปลกนั้นก็รักลูกสุดหัวใจ
คืนฝันผันผ่านมาเป็นปี จนเดียวนี้ก็ยังอยากฝันใหม่)
19 เมษายน 2551 23:55 น.
รัมณีย์
หลับตาลืมตา...ปรารถนาอยู่เพียงโลกฝัน
โลกที่เราอยู่ร่วมกัน....ด้วยสุขสันต์และมิตรไมตรี
ไม่มีชิงชัง...แค้นคลั่งเข่นฆ่าราวี
มีแต่เมตตาปรานี...ร่วมยินดีในสุขทุกคน
ใครมีให้ปัน....ช่วยเหลือกันในทุกแห่งหน
ไม่แบ่งคนรวยคนจน ....ทุก ๆ มีสิทธิ์เท่าเทียม
โลกแห่งความฝัน....ที่อาจสรรค์สร้างอย่างยอดเยี่ยม
น้ำใจรินไหลเต็มเปี่ยม....ฝันโลกเทียมเป็นโลกของจริง
16 เมษายน 2551 06:30 น.
รัมณีย์
สองล้อเลื่อนด้วยแรงสองแข้งปั่น
ใจมุ่งมั่นถึงหาดที่ปรารถนา
ถีบเพลิน ๆ พอสุขใจในมรรคา
คงไม่ช้าได้ถึงที่พึงใจ
ดวงอาทิตย์ใกล้อัสดงลงช้าช้า
แรงถีบก็แรงล้า..ว่าต้องไหว
จะถอยถอนกลางทางได้อย่างไร
ถึงทางไกลก็มิใช่ต้องแพ้ทาง
ถีบต่อไปอีกนิดจิตตระหนก
โอ้เอ๋ยอกมีฝูงหมาวิ่งมาขวาง
มันวิ่งเห่ากวดไล่ไม่ยอมวาง
ต้องถีบอย่างสุดแรงแข่งสู้มัน
พอรอดพ้นคมเขี้ยวขบเฉี่ยวแข้ง
ก็หมดแรงแกร่งกล้าเคยท้าฝัน
แต่..จะย้อนกลับไปอย่างไรกัน
เมื่อเราปั่นมาถึงเกินครึ่งแล้ว
ละอายใจหากยอมย้อนแพ้ก่อนถึง
รวมแรงใจเป็นหนึ่งแนบแน่แน่ว
ทะยานต่อถ้าไม่ท้อย่อมมีแวว
ได้ถึงยังหาดแก้วที่ต้องการ
ดวงอาทิตย์จวนอัสดงลงริมฟ้า
สองขากับหนึ่งใจร่วมใจผสาน
สุดท้ายถึงซึ่งหาดที่มุ่งมาน
แต่..หาดมิได้ตระการดังคิดไว้
เพราะดวงอาทิตย์มิดลาลับ
จึงไร้แสงส่องจับคลื่นวับไหว
หาดมืดหมองแว่วเหมือนร้องไห้ไกล ๆ
มาพ้องเสียงหัวใจร้องไห้ครวญ
ระหว่างที่ขี่มาหาน้อยนิด
ประสบการณ์สอนชีวิตมีครบถ้วน
รอเพียงแสงอรุณส่องผ่องฟ้านวล
ที่มุ่งหวังทั้งมวลย่อมสมจินต์
12 เมษายน 2551 22:49 น.
รัมณีย์
อ่อนโหยโอยอ่อนล้า แรงโรย
น้ำตาอาบตาโปรย เปียกหน้า
ลมบนพัดลมโบย โบกเศร้า บงทรวง
ชวดดาวร้าวถึงหล้า โศกซ้ำกำสรวล