13 มิถุนายน 2551 00:20 น.
รัมณีย์
เจ้าปักษิณ
เจ้าจะบินกี่หลา
เกิดมาในเมือง
ที่ซอกกระเบื้องใต้หลังคา
นอนรังเศษกระดาษ
ด้วยขาดใบไม้ใบหญ้า
เกาะจับสายไฟแทนกิ่งไม้
อาหารเลี้ยงกาย..คือเศษข้าวร้านค้า
อยู่กับตึกรามและแสงเสียงสี
ความวุ่นวายมากมีดังเมืองบ้า
เมืองกรุงแน่หรือเมืองศิวิไลซ์
ที่เห็นเป็นไปอาจลวงตา
หมอกม่านควันพิษคลุมอากาศ
ห่างไกลธรรมชาติที่ปรารถนา
หรือว่าสภาวะภายใน
กักขังหัวใจให้ด้านชา
ขอบขัณฑ์กางกั้นเป็นบริบท
ควรหรือ..ให้กำหนดโชคชะตา
บินเถิด..บินเถิด..เจ้าปักษิณ
จงโบยบินคืนถิ่นพนา
ตึกรามหาใช่คุกขัง
หากมีความหวังและความกล้า
ขุนเขาลำธารป่าไม้
รอสองปีกติดหัวใจบินไปหา
อิสระเริ่มต้นที่ใจ
บินเถิด..บินไป..สู่นภา
8 มิถุนายน 2551 02:35 น.
รัมณีย์
เธอไปขวาฉันว่าจะไปซ้าย
ใช่ต้องมองแง่ร้ายหมายเดียดฉันท์
แม้จุดยืน ความคิด ผิดแผกกัน
ก็อาจร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์คุณ
เพียงเดินสวนคนละด้านของวงล้อ
จะเกิดก่อแรงขันดันล้อหมุน
จุดร่วมคือตรงกลางวางสมดุล
เปลี่ยนแรงต้านเป็นแรงหนุนทุ่นกำลัง
ใช้ปัญญาหาคุณค่าของความต่าง
จัดระบบจัดวางร่างแผนผัง
ไร้โทสะอคติมืดบอดบัง
ย่อมอาจยังความเจริญให้เดินไป
31 พฤษภาคม 2551 00:07 น.
รัมณีย์
สบายดีไหมเจ้าดาวราวฟ้า
หอบความคิดถึงมากระบุงใหญ่
กับของขวัญคือหนึ่งดวงใจ
แด่คนไกล..พยาบาล..ที่แสนดี
เจ้าตรากตรำค่ำเช้าเข้างานหนัก
เพราะใจรักมิใช่เพราะเพียงหน้าที่
เพราะความเมตตาเต็มเปี่ยมดวงฤดี
ยอมพลีเพื่อต่อชีวีของผู้คน
ยอมเหนื่อยเพื่อให้คนไข้หาย
ทนฝืนร่างกายมิได้บ่น
คอยดูแลคนป่วยปานญาติตน
ผู้ทุกข์ทนเจ็บไข้ได้พึ่งพา
เมื่อลมหายใจสุดท้ายจวนทิ้งร่าง
หญิงชราเคว้งคว้างห่างใครหา
มีเพียงเธอ เพียงเธอ แก้วกานดา
คอยจับมือหญิงชราให้อุ่นใจ
อีกหลากหลายเรื่องราวน่าชื่นชม
รับฟังแล้วอารมณ์พลอยแจ่มใส
เจ้าเหน็ดเหนื่อยโปรดรู้พี่ห่วงใย
กลัวเจ้าเจ็บป่วยไปน่ะดารา
คิดถึงจริงยิ่งนักนะดาวน้อย
ใจยังคงยังคอยปรารถนา
ทั้งรักทั้งภักดิ์ทั้งบูชา
ชื่นชมงามตาไม่ผันแปร
.....ดอกเอ๋ย
เจ้าดอกสวีแด
รักยิ่งจริงแท้
แม่ดาวนภาเอย...
14 พฤษภาคม 2551 23:17 น.
รัมณีย์
ลมพัดโชยชาย
ฝนตกโปรยปราย
แต่ว่าใคร ๆ กลับเงียบหาย
ฉันเลยรู้สึกเหงาเดียวดาย
ทำงานแทบตาย
พลีเพื่อเจ้านาย
กว่าจะเลิกงานก็สาย
เมื่อยล้าร่างกาย
แวะมาเขียนกลอนผ่อนคลาย
เห็นเธออ่านและทักทาย
ดีใจหลายหลาย
ความเหนื่อยพลันหาย
ขอขอบใจเธอมากมาย
ยามนี้ฝนยังโปรยปราย
สายลมยังพัดโชยชาย
ขอให้เธอสุขสบาย
8 พฤษภาคม 2551 21:26 น.
รัมณีย์
วันนั้นเธอถามฉันว่า "เป็นแฟนกันไหม"
ให้ฉันรีบตัดสินใจ..ไวอย่าช้า
ฉันตกใจ สะดุ้งในถ้อยวาจา
ไม่รู้ว่าเธอบ้าหรือว่าไร
ก่อนหน้านี้เชียร์ฉันให้คบคนนั้น
มาคบกันกับคนนี้จะดีไหม
คบคนนู้นก็ดูสิ น่าสนใจ
ยัดเยียดให้ฉันมีคู่ชีวา
เธอเคยบอกว่าฉันไม่น่าสน
ดูไม่ชวนชื่นกมลน่าค้นหา
รูปไม่หล่อแล้วยังเปิ่นเกินธรรมดา
คงยากที่จะต้องตาสาวคนใด
"เป็นแฟนกันไหม" คำนี้ ยังแว่วค้าง
คนที่เหงาอ้างว้างย่อมหวั่นไหว
เธอพูดเล่นหรือพูดจริงพูดจากใจ
หรือเป็นเพียงหลอกให้ฉันละเมอ
"เป็นแฟนกันไหม..เป็นแฟนกันไหม..."
ยังวนเวียน หลอนฤทัย ในข้อเสนอ
.. ฉันโทรไป เธอไม่รับ อีกแล้วนะเธอ
งั้น..ที่เพ้อพร่ำมา..ฉันบ้าเอง..