21 กรกฎาคม 2547 16:28 น.
รัถยา
ถึงยามเย็นเยี่ยมยล มนต์ทุ่งกว้าง
ล้วนสล้าง ริ้วเรียวพลิ้วเพรียวเหมือน
พื้นพรมเขียวแผ่ยวนให้ชวนเยือน
ไร้มลเปื้อนมอบปัน ให้ฝันไกล
อ้อมเวิ้งฟ้าพื้นกว้างไม่ร้างรับ
พร้อมศานต์ซับสุมสม อารมณ์ใส
ให้ขุ่นเลือน เคลื่อนลับ กลับพิไล
มีเงื่อนไข แห่งขุนเขาให้เราคิด
เพียงได้ใฝ่ในฝันชั่วพลันพบ
ก่อนฟ้าหลบมืดลับดับสนิท
มีดวงใจจรัสจ้า ไม่ล้าลิด
เพื่อดวงจิตลบจางลางคำนึง
เลาะริมไพรหลงเพลินเผลอเดินผ่าน
ริมเวิ้งลานหญ้าไล้ พอใกล้ถึง
กระแตแต้แวด แวดใส่ให้ตะลึง
บินโผผึงแผดร้อง เสียงก้องดัง
ดั่งเสียงเตือนสะดุ้งตื่น ให้ฟื้นฝัน
ให้กลับพลันลืมพ้นความหนหลัง
แลวันหน้าท้าย่างอย่างจีรัง
หรือจะยั้งหยุดใจเพื่อไตร่ตรอง
นกกระแตแต้แวด : ตามไปพบรังเล็กๆบนเนินดินกลางทุ่งเห็นไข่อยู่ 3 ฟอง คงจะเป็นนางสาวกระแตแต้แวด ไม่ได้แน่
15 กรกฎาคม 2547 23:52 น.
รัถยา
เมื่อแนบอณูอุระคละเคล้า ก็คละเนาคณาครอง
โอษฐ์เอื้อนก็อุ่นมธุละออง ก็กระอวลและชวนฝัน
มอบมิ่งละมุนกมลหมาย มลคลายสลายครัน
ล้าจงละจรอุระ ธ ผัน จะละลายมิกลายผล
ขอขวัญ ธ ฝันสุภะจรัส สุมะชัดชโลมชนม์
รายล้อมสุรางคณะคละปรน ดุริย์ร่ำประโลมจอง
โปรยกลีบผกาและคละสุคันธ์ ฤ ก็สรรคสีทอง
ปานรุ้งละเรียงดุจะละออง ตละปรอยก็ช้อยปราย
รื่นลิ้มผลาทิพยรับ รสซับกำซาบกาย
ปุยเมฆคล้อยจรก็คล้าย รชะรัตน์จรัสแฝง
รำเพยพระพายทิพประพรม อภิรมย์และฟื้นแรง
ก่อนสายสุรีย์จรสแสง วธุชื่น ณ คืนนี้
12 กรกฎาคม 2547 17:58 น.
รัถยา
หรีดหริ่งร่ำจำเรียงกรีดเสียงใส
ครวญคร่ำไขคล้องขับหลังลับฝน
บรรเลงร้อยรับช่วงทั้งห้วงชล
พร่ำเพลงกลกล่อมจิต ก่อนนิทรา
กระท่อมน้อยริมธาร ท้ายลานทุ่ง
เคยจำรูงร้อยฝัน ให้หันหา
พวงโสนพราวพร้อยเหลืองร้อยทา
ทาบอุรารายชื่นให้รื่นรมย์
เจ้าโสนดอกนั้น หายไปไหน
เคยเเซมใจแซมจิตสนิทสนม
เคยชูช่อชัดช้อยให้คอยชม
เคยเผยฉม ผ่องพริ้มที่ริมชาน
เฝ้าสอดส่ายหมายหาผกาเจ้า
แต่รุ่งเช้าชะเง้อคอย รอสร้อยขาน
หรือละทิ้งทุ่งทอง ลืมท้องธาร
จนลืมลานแหล่งรัก สลักเรา
ไผ่สีกอคลอเสียงถึงยามสาย
สำเนียงคล้ายครวญครองทำนองเศร้า
ไห้โหยลึกล้ำใจ ไม่คลายเงา
เสียงคลอเคล้าห้วงคำนึง คิดถึงนาง
คงลืมลานแล้วหนอ โสนน้อย
คงลืมรอยแห่งรักสมัครสมาน
คำสัญญายังอยู่ คงคู่ธาร
ดวงวิญญาณยังคอย เรียงร้อยมน
7 กรกฎาคม 2547 02:01 น.
รัถยา
จำหลักลึกลงในกลางใจแล้ว
ดั่งพฤกษ์แพรวผ่องผาย พรายไสว
แผ่สยายใบพลิ้วระริ้วไกว
ระย้าดอกแย้มใน ดวงวิญญา
คงหยัดสูงล้อแสงสุรีย์สาด
มั่นผงาดเย้ยลมที่พรมผา
มีร่มเย็นหลบร้อน ผ่อนอุรา
เพื่อกำลังแกร่งกล้าสู่ทางไกล
กาลเวลาหมุนเลยมิเคยหลับ
เพียงขยับหมุนยามเพียงความไข
สรรพสิ่งสับเลื่อน ได้เคลื่อนไคล
ไม่อาจพรากดวงใจให้จากจร
บางจังหวะแห่งวารหยุดขานขับ
เพื่อจัดจับใจพลั้งให้รั้งถอน
จัดวิถีถูกอันไม่สั่นคลอน
มอบอาทรเสมอมิตรสนิทมน