11 เมษายน 2547 01:04 น.
รัถยา
....เคียงเนาแนบหนึ่งฟ้า........ดังฝัน
เพียงซับเศษกาลสรร........แบ่งเสี้ยว
ครวญคำคู่สุคันธ์...............คลอชื่น
จูงจริตนิมิตเลี้ยว...............ร่ำรั้งฤทัยหวน
....ดังผกาโชยกลิ่นย้ำ............ยวนกมล
หอมชื่นระรื่นยล...................ยิ่งเจ้า
มวลหลอมไม่รวมปน.............แปลกอื่น
อวลดั่งปรางนวลเย้า...............จึ่งย้ำรอยหอม
....ลมรำเพยผ่านพลิ้ว.............สะพรึงพราย
กระหน่ำพรูกรำราย.................เร่งกร้าว
หวนระรินกลิ่นเพียงกราย........กาลก่น
ใจหวั่นระรานร้าว...................รื่นเร้นเลือนหาย
....รำพึงพรางห่างสร้อย...........ทรวงไหว
ถึงค่ำหวิวหวามใจ..................ต่อเจ้า
คงอวลอุ่นละมุนไอ..................อกอื่น
คลอคู่เคียงหยอกเคล้า............ค่ำเคล้าคืนสวรรค์
....หวนหอมดอมแปร่งเปื้อน....แปลกหอม
ปรายเปลี่ยนปานรวมปลอม.....ปร่าดั้ง
เพียงพิศจิตพะยอม.................ยลห่าง
ใจสะดุดฉุดให้ยั้ง....................อย่าซ้ำรอยหอม
10 เมษายน 2547 00:24 น.
รัถยา
..อยากหยุดย้อน วันเคียง เยี่ยงวันเก่า
อยากหยุดเงา วันเคย เงยหน้าเห็น
อยากหยุดเรา วันคลอ ล้อเดือนเพ็ญ
อยากหยุดเย็น วันคืน ยื่นมาปัน
คืนวอนคำหวาน คลอผ่านม่านฝัน
เคยเพ้อรำพัน เคียงจันทร์รัญจวน
ย้อนรวงพวงพักตร์ เงารักหักหวน
เราสองล่องทวน เย็นยวนชวนหา
........................................๑๑ มี.ค. ๔๗
8 เมษายน 2547 23:45 น.
รัถยา
วสันตดิลก ๑๔
คือพันธพัทธ์จิรทิพา รติตราผจงตรอง
นับเนาคะนึงมนสนอง กลมานละเมอมนต์
ริ้วเมฆเลื่อนทิชถลา ดุจลาระพีลน
ดั่งดวงฤดีระอุลุดล อุระร้อนภิรมย์ลับ
แผ่วเสียงผสานดุริยซ้อง สิคะนองคะนึงจับ
แทรกซ้อนพิสิฐพจนซับ ดุจแซมผดุงสันต์
เติมคิดประโคมหทยขาด ดรดาดประดาดัน
ปันพูนประพนธมนผัน ดลผองประไพผาย
ตราบชนม์เผชิญสุริยฉาบ มลคราบก็ครองคาย
เสพสุขกำซาบรมยสาย ก็มิสิ้นกำสรวลสาน
ตรองตรึกสติรถยะตาม ดุจท่ามระริ้วธาร
ล่องโผนสะพัดศิขรผ่าน มิสะพรั่นสะพรึงผอง
อารมณ์ประลาต ฤ ก็เตลิด ก็กระเจิดกระเจิงจอง
ยื้อหยุดจะยั้ง ฤ ก็ผยอง ก็ทะยานพยศยัง
๑๑ ธ.ค. ๔๖
8 เมษายน 2547 18:17 น.
รัถยา
วสันตดิลก ๑๔
คือทิพย์ประทานวรหทัย กลนัยน์นิศากาล
แลส่องพิสิฐนภผสาน ธรนินประทินแสง
เคล้าพริ้วพระพายพิริยะพรม สิริรมยรื่นแรง
จานจิตร์ประจงจินตแจง นิจเนืองและเรืองรอง
นับผ่านทิพาสมัครภัก- ดิสลักวิไลครอง
สุขทุกข์ก็ทานประดุจะทอง ก็มิคลายประกายวาว
พร้อมชัดเผชิญสุริยะฉาน ก็สราญจรัล ราว
ท้องห้วงละหานผจญหาว มิระเหิดระเหยหาย
กรานสรวง ธ สรรอภิประสาท ปิยมาสจรัสราย
สู่มัคคะมั่นมนัสหมาย สิสะล้างกระจ่างหน
ตราบจันทร์ประเจิดรชประจิต จะประดิฐประดับดล
ทุกยามก็เยือนกมลยล ณ ฤทัยก็คือ เธอ
............................................๙ ก.พ. ๔๗
6 เมษายน 2547 22:17 น.
รัถยา
..................................อิทิสังฉันท์ ๒๐
พราวประภาสครามนภาสะคราญ
วิหคเหินละริมละหาน.......และผวนหัน
ริ้วพระพายละชายประชัฏประชัน
ผะพลิ้วระทิวสุพรรณธัญ......ณ ทุ่งทอง
เยือนประทับก็นับคณาประคอง
ณ ธรรมชาติตรึง สนอง.......ณ ทรวงใน
เทียมพธูถนอมทิพาอำไพ
พิทักษมานสมานชไม.......กระชับมน
ถ้อยทยอยประทานสราญระคน
ขจิตประดิษฐธรรมดล........ประดับแด
จารลิขิต ประจักษจิตตะแล
ถนอมนิรันดร์ผิวารจะแปร......มิปลิดปลง
ฝากจำนรรจ์ผสานสุรีย์ประสงค์
จรูญสำราญภิรมยองค์........ปริยาอร
.............................................๑๔ ธ.ค.๔๖