16 เมษายน 2547 20:45 น.
รัถยา
กลิ่นโชยระโรยล่อง ก็เตะต้องจมูกหอม
ลิ้มชมรสกลมกล่อม แต่ละคำที่ผ่านคอ
ปลาร้ามือแม่สับ ครั้งเคยรับและคอยรอ
ปรุงได้น้ำลายสอ ก็กลมกลืนระรื่นรส
color=#007800>หอมแดงกระเทียมแกะ พริกแกวและก็ยังสด
ตะไคร้กระชาย..ลด กลิ่นคาวค้างให้จางหาย
ใบโหระพาหอม ใส่พอดอมหอมปร่าปราย
สับปนปลาร้า.กลาย ละเอียดเห็นเป็นเนื้อเดียว
คั้นน้ำมะขามเปียก ละลายเรียกให้พอเปรี้ยว
วางละซักประเดี๋ยว กระทะลั่นน้ำมันร้อน
โรยราดกระเทียมแหลก ให้กลิ่นแจกกระจายจร
จึ่งเทปลาร้าก้อน แล้วเคล้าคลุกสุกทั่วกอง
..ปุด.ปุด..ผุดฟองเดือด น้ำเริ่มเหือดระวังมอง
เกรียมไหม้ไม่น่าลอง จะเสียรสอร่อยคง
ตักใส่ถ้วยใบน้อย โปรยฝอยใบมะกรูดลง
ฉีกแฉกผักชีชง พอชิ้นเล็กละเลียดเรียง
หัวปลี ก็ ดอกกล้วย ลอกกลีบสวยเหลือขาว เพียง
ผ่าซีกปลีกแยกเคียง กับข้าวสวยสุกร้อนร้อน!
แม่คอยละห้อยหา ลูกกลับมาด้วยอาทร
ความรักไม่ยักหย่อน ยังยิ่งใหญ่หาใดเหมือน
ขอเพียงได้พบหน้า ที่เหนื่อยล้าก็ลาเลือน
อิ่มอาบฉาบหน้าเกลื่อน คืออิ่มเราที่เข้าเคลีย
นั่งรอ..อาทิตย์ลับ ใจกระสับกระส่ายเพลีย
เนิ่นช้าหน้าระเหี่ย รันทดเศร้าและเหงาซม
เสียงแจ้ว ! เเว่วเสียงเรา ระร่ำเร้าฤทัยรมย์
ชื่นใจหาใดสม ยิ่งกำซาบเมื่อกราบเท้า
มื้อนี้น้ำมือแม่ มิเคยแปรกับข้าวเรา
รู้ได้ไม่ต้องเดา ปลาร้าสับกับหัวปลี
12 เมษายน 2547 00:53 น.
รัถยา
...คำสัญญา นิยามแห่งความหมาย...
...สัญญา ใสสาดดาดฟ้า
สัญญา ลอยรวงยวงใส
สัญญา เคียงอยู่คู่ไกล
สัญญา สองใจจักอนันต์
...ถ้อยเอ่ยอิ่มไอไล้จิต
ผองผลิตผาดผ่านม่านฝัน
ช้อยชมฉานเช่นเพ็ญจันทร์
นิรันดร์สองผลิมิจาง
...นานแล้วแสงลับดับหาย
จันทร์ฉายจางจบลบร่าง
เวลาพาลับเลือนลาง
ฟ้าหมางหม่นเหงาเศร้านัก
...คำนั้นคงมั่นอยู่ไหม
ถามใจเพื่อจะประจักษ์
นานแล้วจากร้างทางรัก
ยังถักหรือถอนรอนเลือน
...สายใยยังเหนียวเกลียวแก่น
หรือกร่อนไร้แกนล่อนเกลื่อน
ดังฟ้าเคียงดาวไร้เดือน
เพียงเยือนนิยาม ความหมาย
(กาพย์ยานี 11)
...ย้ำถามคำสัญญา ..........ดับลับลาหรือคงราย
สานต่อหรือตัดสาย...........ใยสัมพันธ์ที่สรรค์สอง.
.....สุดท้ายคำนั้น คำสัญญา ....
(กาพย์ยานี 11)
..พรูพลิ้วลมผิวพัด.....แห่งเคยนัดคำนึงนอง
นานนับยังกลับกอง........กำจายเกลื่อนไล้เรือนทรวง
..ย้ำหยอกดอกบุพผา.....หอมโชยพาอุราทวง
ถ้อยถึงเคยตรึงดวง.......ใจคู่นั้นผูกพันเผย
..เสียงแผ่วแว่วผวา........ผ่านทิวผาพนาเกย
ตรงใส่ใจล้ำเลย...........ถึงแก่นลึกแห่งผลึกใจ
..วันนี้ทางสายนั้น.........ทางร้อยฝันอันอำไพ
เส้นสันคั่นสองไกล........กลายสองฝั่งเกินรั้งหลอม
..กล้ำกลืนสุดฝืนอก......เค้นคำยกยื่นจำยอม
ขอบคุณนะที่น้อม.........แห่งความนัย คำตอบนั้น
..ซมซานแสนเปลี่ยวเดียวดายนัก
ตระหนักตำนานแห่งลานฝัน
สัจจะแห่งใจเฝ้าไฝ่ปัน
สุดท้ายทางสรรค์..สุดทางแล้ว
11 เมษายน 2547 01:50 น.
รัถยา
วสันตดิลก ๑๔
..ครากลีบกุหลาบผลิตริ้ว.............ก็ระลิวสลวยราย
พร้อมสรรพสรรค์สนธสาย.......จิตะสองสิปองสรวง
..ทุกยามก็ยื่นพิรุณหยาด.............สิพิลาสภิรมย์รวง
ซ้องสรวลกระซิกมธุลุทรวง....เสนาะซึ้งและตรึงซอน
..ถึงทินละทาบรถยะทอด..............อุระถอดละอาทร
กลีบเรียวจะโรยพนธะรอน...........ก็ละกิ่งและร่วงกรู
..เมื่อนั้นจะนองสุขไฉน...............ชลนัยน์ละไหลพรู
ทุกหนจะแห้งหทยหู่................ตละแห่งระแหงเห็น
อินทรวิเชียร ๑๑
..ความรักอะคร้าวเรือง................นิจเนื่องนิยามเป็น
นานาระย้าเย็น....................สุภร้อย ณ รอยกาล
..กลีบรัก ฤ จักลับ...................จะระยับลำยองนาน
ซ้อนใสหทัยสาน...........และคละคล้อง ณ ครองสม
..เรืองรัก ฤ เลือนร้าง..................ก็สล้างมิซ่อนรมย์
คงรอพะนอพรม.......................มนพันธะปันปอง
..หากสบก็ลองสาน....................สิสมานสมัครจอง
เพียงเสี้ยวเกาะเกลียวสอง.............จะกำซาบเสน่หา
11 เมษายน 2547 01:04 น.
รัถยา
....เคียงเนาแนบหนึ่งฟ้า........ดังฝัน
เพียงซับเศษกาลสรร........แบ่งเสี้ยว
ครวญคำคู่สุคันธ์...............คลอชื่น
จูงจริตนิมิตเลี้ยว...............ร่ำรั้งฤทัยหวน
....ดังผกาโชยกลิ่นย้ำ............ยวนกมล
หอมชื่นระรื่นยล...................ยิ่งเจ้า
มวลหลอมไม่รวมปน.............แปลกอื่น
อวลดั่งปรางนวลเย้า...............จึ่งย้ำรอยหอม
....ลมรำเพยผ่านพลิ้ว.............สะพรึงพราย
กระหน่ำพรูกรำราย.................เร่งกร้าว
หวนระรินกลิ่นเพียงกราย........กาลก่น
ใจหวั่นระรานร้าว...................รื่นเร้นเลือนหาย
....รำพึงพรางห่างสร้อย...........ทรวงไหว
ถึงค่ำหวิวหวามใจ..................ต่อเจ้า
คงอวลอุ่นละมุนไอ..................อกอื่น
คลอคู่เคียงหยอกเคล้า............ค่ำเคล้าคืนสวรรค์
....หวนหอมดอมแปร่งเปื้อน....แปลกหอม
ปรายเปลี่ยนปานรวมปลอม.....ปร่าดั้ง
เพียงพิศจิตพะยอม.................ยลห่าง
ใจสะดุดฉุดให้ยั้ง....................อย่าซ้ำรอยหอม
10 เมษายน 2547 00:24 น.
รัถยา
..อยากหยุดย้อน วันเคียง เยี่ยงวันเก่า
อยากหยุดเงา วันเคย เงยหน้าเห็น
อยากหยุดเรา วันคลอ ล้อเดือนเพ็ญ
อยากหยุดเย็น วันคืน ยื่นมาปัน
คืนวอนคำหวาน คลอผ่านม่านฝัน
เคยเพ้อรำพัน เคียงจันทร์รัญจวน
ย้อนรวงพวงพักตร์ เงารักหักหวน
เราสองล่องทวน เย็นยวนชวนหา
........................................๑๑ มี.ค. ๔๗