19 มกราคม 2552 16:02 น.
รักษ์บุญ เสาวณีย์
เอาละทุกคนพร้อมนะ ศาสตราจารย์มหิธิ หันมาตรวจความพร้อมของลูกทีม ซึ่งมีศาสตราจารย์มาก และดร.ทนง นั่งเป็นผู้ช่วยซ้าย ขวา
วันนี้พวกเราจะเดินทางข้ามกาลเวลา เพื่อทดสอบเครื่อง สหสวัต ซึ่งเป็นเครื่องผ่าเวลาสู่อนาคต
ศ.มหิธิ ตั้งเครื่องผ่าเวลาเป็น ค.ศ.4000 ถึงแม้ตัวเขาเองจะรู้ว่าเครื่องนี้ยัง ไม่สมบรูณ์ดี แต่สิ่งที่เขาเชื่อก็คือ เครื่องสามารถนำเขาสู่อนาคตได้แน่นอน
เมิ่อเขาตั้ง ค.ศ.เรียบร้อย เขาหันไปมองลูกทีมนิดหนึ่งก่อน กด Enter ซึ่งเครื่องเริ่มนับถอยหลัง
ขณะนี้ทุกท่านคงอยู่ในสภาพพร้อมแล้ว เราคือเครื่อง สหสวัต จะนำทุกท่านเดินทางสู่ ค.ศ.4000 ณ บัดนี้ 10,9,8,7,6,5,4,3,2,1,0 ขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ เสียงคอมพิวเตอร์ตอบรับการกด Enter ของ ศ.มหิธิ
ยานเริ่มออกเดินทางทันทีที่เสียตอบรับสิ้นสุดลง
วูบๆๆๆทั้งสามเหมือนจะสติดับวูบไปชั่วขณะ
......................................................................................................................
เร็วลูก! เร็วคุณ! ดร.ทนงพูดเสียงดังด้วยความร้อนใจ
เรากำลังจะไปไหนกันคะพ่อ
ลูกสาวถามด้วยความสงสัย ส่วนลูกชายที่อายุพึ่งขวบ เล่นของเล่นบนบ่าพ่อไม่สนใจสิ่งรอบตัว
ไม่มีอะไรจ๊ะ พ่อกับแม่กำลังจะพาลูกๆไปเที่ยว
ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวเสียงอ่อนโยน ยิ้มแย้ม แต่หันกลับไปสบตาสามีด้วยสีหน้าที่อมทุกข์ ปนตื่นตะหนก
คุณค่ะเรารีบลงไปเถอะคะ เดี๋ยวถึงเวลาให้นมตาหนูแล้ว
หญิงสาวเอ่ยเบาๆ
ดร.ทนง ไม่รอช้ารีบกดลิฟท์ชั้นที่ 100 เป็นชั้นต่ำสุดทันที
มันเป็นลิฟท์ลงใต้ดิน ซึ่งเขาได้ลงทุนอย่างมหาศาล สร้างลิฟท์นี้ขึ้นมา
มีความลึก 2,000 เมตร สร้างด้วยวัสดุทนความร้อนสูงสุดถึง 2,000,000 องศา มีบันไดเหล็กสร้างติดข้างๆลิฟท์ ป้องกันความพิดพลาดหากลิฟท์ใช้การไม่ได้
ทุก 100 เมตรจะมีวัสดุหนา 1 เมตร ยาวกว้างเมตรครึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติกันความร้อนได้เช่นเดียวกับลิฟท์ ติดอยู่ข้างๆลิฟท์ มันจะเลื่อนปิดทุกครั้งที่ลิฟท์วิ่งลงผ่าน นั่นหมายความว่าจะมีสิ่งนี้อยู่ถึง 99 ชิ้นเลยทีเดียว
ลิฟท์จะมีอากาศเพียงพอเสมอ ถึงแม้จะลงใต้ดินเรื่อยๆเพราะท่ออากาศติดอยู่ข้างๆลิฟท์นั่นเอง
ส่วนชั้นล่างสุด มีอุปกรณ์บรรจุอากาศ ที่จะทำให้คนสี่คนอาศัยอยู่ได้ 2 เดือนแบบสบายๆ เครื่องปันไฟที่มโหฬารมีใช้แบบไม่อั้น
เหตุผลในการสร้างนะหรือเพื่อ..
คิดอะไรอยู่หรือค่ะคุณ
เสียงภรรยาดังขึ้น ปลุกให้ ดร.ทนงตื่นจากภวังค์
อ้อ..คิดถึงพรุ่งนี้ว่าจะเป็นยังไง ตอบพร้อมทำท่าครุ่นคิด
เอาล่ะถึงแล้วจ๊ะลูก
ผู้เป็นพ่อหันไปบอกลูกสาว
เย้..สวยจังค่ะ แพทชอบจังเลย
ลูกสาวตัวน้อย ดีใจออกหน้าออกตา กระโดดโลดเต้นไปมา ผิดกับสีหน้าของพ่อและแแม่ ที่วิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
........................................................................................................................
อือ...ถึงแล้วหรือนี่
ศ.มหิธิ ขยี้ตามองดูรอบๆ ปลดสายนิรภัย ก่อนลุกไปปลุกลูกทีม
มากๆ! ดร.ๆ! ตื่นได้แล้ว เราถึงที่หมายแล้ว
เขย่าตัวคนโน้นทีคนนี้ที
ถึงแล้วหรือครับ ผมกำลังฝันดีอยู่เลย
ศ.มากปลดสายนิรภัยก่อนหันไปมองคนหนุ่มซึ่งก็กำลังขมักเขม้นปลดสายนิรภัยเหมือนเขา
โอ.....คุณพระช่วย
เสียง ศ.มหิธิ ร้องด้วยน้ำเสียงตกใจ ทั้งสองคนที่เหลือจึงรีบไปที่หน้าคอมพิวเตอร์
3025 ทั้งสองอุทานพร้อมกัน จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อตอนมา ตั้งจุดมุ่งหมายที่ พ.ศ. 4000
นี่มันเดินทางผิดพลาดตั้ง 975 ปีทีเดียว!
ไปเล่าให้ใครเขาฟังอายเขาตาย ทั้งสามนั่งคิดหนัก ต่างก้มหน้าใช้ความคิด
เอายังไงดีครับท่านศาสตราจารย์
ดร.ทนงทำลายความเงียบ มองผู้อาวุโสคนโน้นทีคนนี้ที
เอาไงคุณมหิธิ ผมมึนไปหมดแล้ว
ศ.มากมองหน้าผู้ถูกถามอย่างขอความเห็น
อือ.....เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ไหนๆก็ไหนๆ เราก็ลงไปสำรวจดูซักนิดก็แล้วกัน ยังไงก็ถือว่าเราประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง"
"ฮ่าๆ นี่เราสามารถผ่าเวลามาสู่อนาคตได้จริงๆศ.มหิธิหัวเราะเสียงดังออกมา หลังจากเงียบไปนาน
ทั้งสามจึงออกสำรวจด้านนอก พ.ศ.3025 และผลก็คือพวกเขาสามารถหาที่พักบริเวณนั้นได้ พ.ศ.3025 นี้ มีสภาพที่ไม่ต่างจากพ.ศ.3000ที่พวกเขาอาศัยอยู่มากนัก เนื่องจากห่างกันเพียง 25 ปี
เป็นไง ดร.ทนง กลับไปที่สถาบันวิจัยของเรามีคนจำคุณได้ไหม ผมขำตัวผมเองมาก หัวล้านไม่มีผมซักเสันน่าเกลียดมากๆ แปลกจัง
ศ.มหิธิบ่นอึบ
อ้อ....ไม่มีใครจำได้เลยครับ และที่น่าแปลกใจก็คือ ผมในอนาคตไม่อยู่ในสถาบันวิจัย เห็นเขาว่ากันว่า ผมในอนาคตระยะหลังไม่รู้หายไปไหน
ดร.ทนงสงสัยว่าในอนาคต(พ.ศ.นี้)เขาไปอยู่ไหน ทำอะไรอยู่
คุณล่ะ ศ.มาก เป็นไงบ้าง ศ.มหิธิหันไปถามอีกคน
ฮ่าๆ ผมก็ไม่ต่างจากคุณหรอก หัวล้านไม่มีผมซักเส้น หน้าดำคร่ำเครียด แถมตื่นกลัวตลอดเวลาเหมือนกลัวอะไรซักอย่าง ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนมาซัก 5,6 ปี ได้มั้ง ผมใน พ.ศ.นี้เป็นอะไรนะ
วัน อังคาร ที่ 20 เดือน มกราคม พ.ศ. 3025 เวลา 18.00 น.
ศาสตรจารย์ครับ มาดูอะไรนี่เร็วครับ!
เสียง ดร.ทนง ร้องเสียงดังลั่น ทำให้คนที่ได้ยินเสียงทั้งสองคน ต้องเรียบวิ่งตามเสียงเรียกทันที
ข่าวด่วน! สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้มนุษย์กำลังเผชิญกับมหันตภัยครั้งใหญ่ มหันตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นในประเทศที่เริ่มรับอรุณยามเช้า "
แสงสว่างซึ่งเคยให้ประโยชน์กับมนุษย์ กลับกลายเป็นแสงสีดำ มีอนุภาพทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนสิ้นซาก มีความร้อนที่ประมาณกันว่า ร้อนถึงล้านองศา ขณะนี้ประเทศซีกโลกตะวันตก ถูกทำลายไปเกือบจะห้าสิบเปอร์เซนต์แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงบางส่วนและซีกโลกฝั่งเราเท่านั้น"
"ดังนั้น ตอนนี้ใครจะหนีตายยังไงก็รีบทำนะครับ ก่อนที่แสงแดดสีดำจะมาถึง จบข่าว ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงาน
จากนั้นนักข่าวที่รายงานเสร็จ ยังไม่ทันจะสวัสดีก็รีบวิ่งออกจากห้องส่งทันที
ข่าวทุกช่องเริ่มส่งภาพที่ถ่ายข้ามประเทศ ซึ่งสามารถเห็น แสงสีดำ ได้อย่างชัดเจน
ภาพที่ผู้คนกำลังวิ่งหนีตายกันอลม่าน
ภาพของตึกรามบ้านช่องที่ถูกทำลายราบเหลือแต่ฝุ่นผง เพราะความร้อนเป็นล้านองศา
ช่างเป็นภาพที่โหดร้ายยิ่งนัก
ธรรมชาติทำไมทำกับมนุษย์อย่างนี้
ทั้งสามสะดุ้งโหย่งเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมพวกเขาใน พ.ศ นี้ ถึงต้องหัวล้าน ถึงต้องเป็นโรคกลัวอย่างไม่มีเหตุผล
ทำยังไงดีครับ ทำยังไงดี
ดร.ทนงดูจะลนลานกว่าผู้อาวุโสทั้ง
เอาๆใจเย็นๆดอกเตอร์ ผมว่าเอาอย่างนี้นะศ.มหิธิ ดร.ทนง การที่ผมได้เห็นตัวผมในอนาคตที่อยู่ในพ.ศ.นี้ ทำให้ผมเชื่อว่าเราต้องรอดกลับไปยังที่เรามา
ดังนั้น ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำ คือ กลับไปนั่งอยู่ในยานผ่าเวลา จิบกาแฟร้อน แล้วนั่งดูภาพของแสงแดดสีดำ ที่กำลังทำลายโลกมนุษย์อย่างไม่ปรานี เก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดก่อนเช้า และรอจนถึงวินาทีสุดท้าย ให้เห็นกับตาว่าประเทศของเรา โลกของเรา ได้ถูกทำลายจริงแล้วเราค่อยไป
ศ.มาก ออกความเห็นยาวเหยียด ฟังดูแล้วมีเหตุผล อีกสองคนนั่งเงียบกริบคิดตาม
ทั้งสามตกลงใจที่จะอยู่จนถึงเช้า เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นทางโทรทัศน์คือเรื่องจริง
........................................................................
อ้ากๆๆ
คุณๆเป็นอะไรคะ
เสาวนีปลุกสามีที่ร้องลั่นทั้งที่ยังไม่ตื่น เธอปลุกสามีกลางดึกทุกคืนอย่างนี้เป็นเวลา 24 ปีกว่าแล้ว
เขาฝันร้ายทุกคืน ฝันซ้ำๆแต่เรื่องเดิม ๆ
เวลา 24 ปีกว่านั้นจริงๆมันจะครบ 25 ปีเต็มในวันพรุ่งนี้
เพราะพรุ่งนี้คือ วัน พุธ ที่ 21 เดือน มกราคม พ.ศ. 3025
ฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว
ดร.ทนงตอบภรรยา เหงื่อไหลย้อย อย่างน่าสงสาร
เวลาเท่าไหร่แล้วคุณ
เช็ดเหงื่อเสร็จ หันมาถามภรรยา
6 โมงเช้าแล้วคะ
เสียงตอบเบาๆ ทำให้คนถามหัวใจแทบหยุดเต้น
งั้นก็...อีก 5 นาทีแล้วซิ
เหงื่อที่เช็ดเมื่อกี้เริ่มไหลอีก
เราจะรอดไหมคะ
ภรรยาถาม
รอดซิ เราต้องรอด
ตอบเอาใจภรรยา
ทั้งที่เขาก็ไม่มั่น ใจนัก เพราะจากการศึกษา การเกิดแดดดำอยู่หลายปี ทำให้เขารู้ว่า แดดดำคือสารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นสารกัมมันตภาพรังสีที่ทดลองขีปนาวุป หรือทดลองระเบิดนิวเครียร์ สารซีเอฟซี คาบอนมอนออกไซด์และสารพิษอื่นๆอีกมากมาย ลอยไปเกาะตัวกันในอากาศ รวมตัวกันมาเป็นพันๆปี
และวันหนึ่งสารเหล่านี้ก็จะทำปฏิกิริยากัน แล้วแตกตัวผสมกับแสงแดดเป็นเนื้อเดียวกัน จนกลายเป็นแดดดำ มีอนุภาคการทำลายล้าง โดยวิธี ที่สารเหล่านั้นจะแตกตัวทำให้แดดดำมีความร้อนสูงถึงล้านองศาทีเดียว
และวันนี้คงจะเป็นวันพิพากษาโลก
จากน้ำมือมนุษย์บนดิน เองไม่รู้จะเสียใจหรือสมน้ำหน้าดี
ขณะนี้เวลา หกนาฬิกาห้านาที
นาฬิกาที่ตั้งปลุกตั้งขึ้น
คุณ...
วูบๆๆโครมๆๆๆ
(ที่เครื่องผ่าเวลาเดินทางไม่ถึง พ.ศ. 4000 เพราะหลัง พ.ศ.3025 ไม่ปรากฏว่ามีมนุษย์อยู่เลย เครื่องนี้ สร้างเพื่อสำรวจความเป็นอยู่ของมนุษย์ เท่านั้น)