18 กรกฎาคม 2553 13:33 น.
รักษา
ยามความเหงากรายมาทำหน้าที่
ในบางทีเหมือนว่าน่าสงสัย
ปาดน้ำตาคราจรตอนจากไกล
เมื่อไร้ใครห่วงหาเอื้ออาทร
ต่างคนต่างก็มีที่ยึดเหนี่ยว
ความกลมเกลียวถึงครามาถอดถอน
จำเอ่ยปากจากลาแม้อาวรณ์
ต้องตัดรอนก่อนหลักรักคลอนแคลน
นั่งเงียบงำย้ำหมองครองใบหน้า
เพราะรู้ว่าฟ้าห่างสุดกว้างแสน
ใจเอ๋ยใจคราไกลมากจากดินแดน
สุดหวงแหนอาลัยให้วังเวง
เมื่อต่างไม่มีใครในวันนี้
วันวันที่ห่างไกลใจโหวงเหวง
วันลมร้อนย้อนส่ายร่ายบทเพลง
เพื่อบรรเลงเรียงร้อยถ้อยอำลา
สัญญาใจอยู่ไหนใครเคยบอก
ไม่ลวงหลอกบอกไปปลอบใจหนา
ทวนความจำช้ำหทัย-รื้นนัยตา
ฝืนยิ้มร่าหลอกทุกคน-เว้นตนเอง
++++++++++++++++++++++++
16 กรกฎาคม 2553 11:52 น.
รักษา
เป้ใบเดียวเกี่ยวไหล่ในวันเก่า
กับวัยเยาว์ย้อมฝันในวันโน้น
ราวให้ดอยคอยท่ามาปลอบโยน
ท่ามกลางโพ้นฟ้ากว้างทางแสนไกล
ตั้งโรงเรียนเขียนอ่านการศึกษา
ปลูกปัญญาเยี่ยงแสงแห่งเทียนไข
ลุยเมฆขาวพราวต่ำเรี่ยรำไร
รักษาใจดวงหนาวและร้าวราน
หลายดงดอยดิบเปลี่ยวทวนเที่ยวย่ำ
ป่ามืดดำเดินชินปานถิ่นฐาน
มิได้อยากฝากชื่อลือตำนาน
เพียงมุ่งสานเสริมหวังได้ตั้งจินต์
หนทางชื้นแฉะชันในวันเริ่ม
ดอนดงเดิมลุยฝ่าชลาสินธุ์
ยามฝนหลั่งสะพรั่งฟ้าไหลบ่าริน
นิทานดินและดาวยังเฝ้าจำ
เมื่อไฟหวังตั้งใจยังไม่มอด
หนทางทอดยังแรงปลายแสงย้ำ
ให้หัวใจใสซื่อมั่นถือคำ
เป็นทางนำชีวิตติดตัวมา
ยังไม่ลืมคืนวันเธอผันเปลี่ยน
ฤทัยเจียนดับด้วยเสน่หา
เก็บดวงใจใสวาวกล่าวอำลา
มิรู้ว่าคราไหนจะได้คืน
มุ่งไปสู่ไพรกว้างอย่างคนเหงา
และยึดเอาแรงฝันฝ่าฟันฝืน
ความผิดหวังดั่งเป็นเช่นไฟฟืน
ปลุกชีพชื่นเชิดหน้าอย่างท้าทาย
วางทุกสิ่งทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง
เก็บพลังหวังรุดสู่จุดหมาย
ทุ่มเททุกใจหวังพลังกาย
เพื่อสานสายเส้นทางแม้นร้างคน
เป้ใบเดิมเริ่มมาแต่ครานั้น
เก็บความฝันแฝงใจไปทุกหน
เชื่อมครรลองช่องว่างระหว่างคน
ลบใจหม่นหมองปานผลาญชีวี
เมื่อมุ่งหน้ามาไกลคงไม่กลับ
เมื่อลาลับโลกแล้งหลบแสงสี
เติมหัวใจไฟหวังที่ยังมี
อุ่นฤดีดวงกล้าให้ท้าทาย
หลายดงดอยคอยเวียนเพียรเที่ยวย่ำ
ทุกคราวค่ำคืนรุดสู่จุดหมาย
เมื่อหนทางข้างหน้ายังท้าทาย
แม้ความตายหาอาจขวางคนอย่างเธอ
+++++++++++++
14 กรกฎาคม 2553 18:46 น.
รักษา
คิดคำนึงรำพึงหาครากระโน้น
ถูกปลอบโยนด้วยเยาว์วัยในคืนหนาว
ลมพัดโบกโยกใบไม้ไหวกราว
ฟังเรื่องราวเล่าขานตำนานเดิม
ลมทะเลเห่กล่อมพยอมขวัญ
กลางเพ็ญจันทร์แจ่มจ้าดาราเสริม
เอาไฟฝันวันเยาว์เข้าต่อเติม
ทรายปานเจิมกระแจะจันทร์ทุกวันมา
ลมหอบคลื่นเคลียหาดฟองดาดขาว
เป็นรอยราวฤๅให้ใจหรรษา
เห็นฟองฟอดทอดยาวพรายพราวตา
แสงจันทราทาวาดหาดประจำ
เกิดเป็นริ้วรอยทรายหลายหลายริ้ว
เหมือนเมฆปลิวเหมือนขนง-วงคิ้วขำ
เหมือนคลื่นลอนวอนทรายไม่ลืมคำ
และยังย้ำว่าทรายอย่าคลายคลอน
ในรอยทรายหลายรอยที่คอยคลื่น
มาเกลี่ยคืนกลืนกลายคล้ายหลอกหลอน
ดั่งสายใยใจหวงห่วงอาวรณ์
มิอาจถอนพาพรากจากเยื่อใย
หวังรอยทรายคงมั่นมิผันเปลี่ยน
ยามคลื่นเวียนจูบทรายไม่ไปไหน
จูบทุกคราท่าทรายคล้ายเปลี่ยนไป
เกิดรอยใหม่ทุกยามตามคลื่นโลม
เมื่อทุกอย่างต่างเปลี่ยนวนเวียนหมุน
ใจอบอุ่นเวียนว่ายใต้เพ็ญโสม
ทรายเม็ดน้อยคอยคลื่นชื่นชโลม
ยามถาโถมซัดฝั่งทุกครั้งไป
และเรื่องราวคราวนั้นฝันแสนสวย
ประดับด้วยดวงจิตนิมิตใส
เมื่อลมลาพาคลื่นกลับคืนไกล
จึงหัวใจเคยปลื้มคงลืมพลัน
เราราวคลื่นทะเลที่เหว่ว้า
ลอยทะเลเวลาฝ่าฝั่งฝัน
ท่ามลมพัดสบัดแรงล้อแสงจันทร์
หวังพบขวัญคืนค่อยจูบรอยทราย