12 ธันวาคม 2547 01:44 น.

“ความเหงา = ความรักที่ยิ่งใหญ่”

ระเบียงดาว

เธอรู้ไหม? ดาวบนฟ้ามีกี่ดวง  ลองนับดูซิ  1 ดวง.. 2 ดวง.... 100 ดวง...... 1,999 ดวง นับเท่าไรก็ดูไม่น้อยลงเลย อาจเพราะท้องฟ้ามันกว้างใหญ่เกินไป หรืออาจเพราะดวงดาวเล็กเกินไปกันแน่ ดาวถึงนับไม่ถ้วนสักที การนับที่ดูจะไม่สิ้นสุดชวนสับสน  ทำให้เธอท้อใจใช่ไหม?  อยากเลิกนับแล้วใช่ไหม?  แต่ทุกค่ำคืน...เมื่อใดก็ตามที่มองเห็นดาวส่งประกายเรืองรองบนฟากฟ้าก็อดไม่ได้ที่จะนับทีละดวง ทีละดวง  คงเหมือนฉันที่ไม่อาจถอนสายตาจากท้องฟ้า  แม้จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆเลย  มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ถึงแม้จะถูกความเหงาโอบรัดไว้  ฉันก็ยังมีความสุขที่ได้เห็นแสงเล็กบนฟากฟ้า  ได้นั่งนับดาวที่ทอแสงบนท้องฟ้า  ใครบางคนที่รออยู่ตรงนี้ คือ ท้องฟ้าที่ฉันไม่อาจละสายตาไปได้  ทุกๆวันขอเพียงเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขก็เหมือนได้เห็นดาวบนท้องฟ้า  ฉันเฝ้าคอยทำทุกอย่างเพื่อให้ดาวเหล่านั้นเพิ่มจำนวนทีละดวง  คอยนับเพิ่มทีละดวง  ให้ดาวส่องประกายสดใสเต็มท้องฟ้า  ให้ใครคนนั้นมีความสุขในทุกๆวันจนไม่อาจนับได้  ถึงรู้ว่าทุกอย่างที่ทำไปอาจแลกกับความท้อแท้  มีเพียงความเหงาที่เวียนวนอยู่รอบตัว  อาจเป็นการก้าวเดินบนความว่างเปล่า  แต่ชั่วขณะหนึ่งไออุ่นของการที่เห็นรอยยิ้มใครคนนั้น ก็สามารถเติมความสุขเล็กๆในใจให้ส่องประกาย  มีคนถามว่าไม่เสียดายเวลาบ้างเลยหรือ?  ฉันไม่อาจตอบได้  สิ่งที่รู้มีเพียงฉันไม่เคยเสียใจที่ทำให้ใครคนนั้นมีความสุข  หากจะมีสิ่งที่เสียดายอาจเป็นเวลาที่ไม่อาจสร้างดาวดวงน้อยให้ประดับบนฟ้าได้  ไม่อาจทำเพื่อคนที่รักได้  บนทางเดินอาจไร้คนร่วมทาง  ได้แต่เดินไปเพียงลำพัง  แต่เมื่อมองบนท้องฟ้าจะพบดวงดาวนับแสน นับล้านอยู่  ซึ่งเป็นเครื่องหมายของความรักที่เรามีต่อใครคนหนึ่ง  ความรักที่นับไม่ได้  ความรักที่ส่องประกายสดใส ให้คนเหงาๆได้มีรอยยิ้มก็พอแล้ว
ความเหงาของใครบางคน อาจสร้างความสุขให้ใครอีกคน หากเป็นเช่นนั้นได้ ความเหงาคงเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด				
12 พฤศจิกายน 2547 23:57 น.

พระอาทิตย์วันวาน ดวงดาววันนี้

ระเบียงดาว

เธอรู้ไหม ?  ดาว...พระจันทร์...พระอาทิตย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งใด ? คำถามไม่ว่าใครก็ตอบว่า พระอาทิตย์อย่างแน่นอน ความยิ่งใหญ่ ความส่องสว่าง ความอบอุ่นของพระอาทิตย์เป็นที่หนึ่งและมีเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทน  แต่ก็อีกนั้นแหละ......บางครั้งคนเราก็หลงเข้าใจผิดไปว่า ดวงดาวนั้นยิ่งใหญ่ หรือพระจันทร์นั้นสำคัญที่สุด  ซึ่งหากชีวิตเราดังท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามีเพียงความมืดเท่านั้น แสงสว่างที่ปรากฏบนท้องฟ้าดวงแรกย่อมให้ความรู้สึกสุกสว่างที่สุด และนั้นก็จะกลายเป็นแสงที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด แต่หากวันใดเราพบแสงที่สว่างกว่า เราก็จะเห็นว่าแสงที่ผ่านมาเป็นเพียงดวงไฟเล็กๆบนฟากฟ้า คงเหมือนที่เธอได้พบกับความรัก ในครั้งแรกดูทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งใหญ่ สำคัญ เมื่อต้องสูญเสียไปก็เจ็บปวดดั่งแสงสว่างในชีวิตดับไป หมดความหวังกำลังจะเดินต่อไป แต่เมื่อเวลาผ่านมาเธอได้พบความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า สำคัญกว่า เธอจะพบว่าเรื่องราวที่ผ่านเป็นเพียงความสุข ความทุกข์ที่เล็กน้อยซึ่งไม่แตกต่างกับแสงแรกที่เธอเจอและคิดว่าเป็นแสงตะวัน เมื่อเวลาผ่านไปมันอาจกลายเป็นเพียงแสงดาว และแสงที่เจอในตอนนี้......ไม่แน่ในอนาคตอาจกลายเป็นแค่แสงจันทร์ เธออาจไม่รู้ว่าต้องผ่านดาวสักกี่ดวง ผ่านดวงจันทร์สักกี่หน แต่ที่เธอมั่นใจได้แน่คือ......เมื่อถึงตอนสุดท้ายเธอจะต้องได้พบพระอาทิตย์พระอาทิตย์ที่แท้จริง ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดเพียงหนึ่งเดียวของเธอ อย่าปล่อยให้ท้องฟ้าต้องโศกเศร้ากับแสงสว่างเล็กน้อยที่ลาลับไป ขอเพียงเธอก้าวเดินต่อไปแล้วแสงทองของดวงอาทิตย์ก็ต้องค่อยๆปรากฏบนท้องฟ้าของเธออย่างแน่นอน
สิ่งแรกที่เจออาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด.........สิ่งสุดท้ายต่างหากที่ดี และสำคัญที่สุดในชีวิต				
12 พฤศจิกายน 2547 23:43 น.

ทรายในขวดแก้ว

ระเบียงดาว

อยากรู้ไหม?....ทำไมนาฬิกาทรายต้องมี 2 ด้าน แล้วทำไมต้องมีด้านหนึ่งเต็มด้านหนึ่งว่างเปล่า?........เธอรู้ไหมทำไม ฉันก็ไม่รู้ รู้แค่ทุกครั้งที่พลิกนาฬิกาทราย ทรายแต่เม็ดก็จะไปรวมกันเสมอ ไม่ว่าพลิกกี่ครั้งก็เหมือนเดิม  เธอเคยได้ยินไหมว่า...นาฬิกาทรายคือความรักแบบหนึ่ง แบบที่ไม่มีวันหมดเวลา เพราะความรักจะไหลเวียนวนอยู่ในขวดแก้วตลอดเวลา แต่ก็คนสงสัยว่าจะเป็นความรักที่มีความสุขแน่เหรอ? ในเมื่อต้องมีด้านหนึ่งที่ว่างเปล่า ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเต็ม นั่นก็จริงอยู่ แต่ในตอนแรกของความรักนั้นนาฬิกาทรายไม่ได้ตั้งตรงหรอก แต่นอนกลิ้งอยู่บนพื้น แต่ละด้านของนาฬิกาจะมีทรายที่เท่ากัน มีส่วนที่ขาดเท่ากัน ยังหาจุดเชื่อมของแต่ละด้านยังไม่เจอ รอเวลาให้มีคนจับมันตั้งขึ้นแล้วทรายแต่ละเม็ดก็ค่อยไหลลงไปรวมกัน ทรายจากอีกด้านหนึ่งไปเติมเต็มอีกด้านหนึ่ง.....สุดท้ายแล้วทรายทั้งหมดก็รวมกันเป็นหนึ่ง  เมื่ออีกด้านหนึ่งขาด ทรายอีกด้านก็จะไหลไปเติมอีกด้านให้เต็มเป็นอย่างนี้เรื่อยไป เหมือนความรักที่ผลัดกันเติมในส่วนที่ขาดหายของกันและกัน มีฝ่ายรับและมีฝ่ายให้ตลอดเวลา เริ่มด้วยพรหมลิขิต สานต่อด้วยความเข้าใจ....ใส่ใจ.....ให้ความรักได้ส่งให้กันเสมอไป เมื่อใดที่ความรักขาดหายนั้นก็หมายถึงนาฬิกาทรายนั้นได้ดับสูญ เธอหานาฬิกาทรายของเธอเจอหรือยัง? ไม่ใช่เป็นคนที่ให้ทั้งที่สูญเปล่ามีแต่เหนื่อยใจไปวันๆ หรือเป็นคนรับแต่ไม่มีเยื่อใยใดๆเกิดขึ้นเลย  อย่าอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รัก อย่ารักคนที่เขาไม่รักเธอต่อไปเลย แต่จงรอเถอะ....รอส่วนที่เติมเต็มเธอได้ เขากำลังเดินตามเข็นนาฬิกามาหาเธอ.....คนที่เขารักเธอได้เหมือนๆกับที่เธอรักเขา				
26 ตุลาคม 2547 00:36 น.

แสงสว่างในความมืด

ระเบียงดาว

มีคนเคยพูดว่า การมีความรักคือการก้าวสู่ความมืดมิดในจิตใจ กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าตัวเองจมดิ่งสู่ความดำมืดที่หาทางออกไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นคนมากมายก็ยังคงก้าวเกินเข้าหาความรัก หากความรักคือหนทางแห่งความมืดไร้ทางออกก็คงเป็นเส้นทางมืดมิดที่มีความสุขที่สุด คนหลายคนต้องเดินหลงทางอยู่กับความรักที่วกวน และอีกหลายคนเช่นกันที่ต้องได้รับบาดแผลจากเส้นทางเส้นนี้ แต่ทุกคนก็ยังคงที่จะก้าวเดินไปในเส้นทางนี้ต่อไป ความมืดรอบตัวในบางครั้งก็ทำให้ท้อแท้หมดหวัง อยากหยุดเพียงเท่านี้ แต่หากหยุดก็จะถูกความมืดดูดกลืนหายไป การเดินไปในเส้นทางที่ไม่รู้จุดหมาย ไม่เห็นจุดจบ ท่ามกลางความมืดมน ก็คือ การเดินผ่านเวลา ผ่านผู้คนเพื่อหาใครคนนั้น...คนที่มีคนเดียวในโลก โดยไม่รู้จุดหมาย ไม่รู้ที่อยู่ มีเพียงความหวัง เมื่อความฝันถูกปูเส้นทาง คนเราก็มักจะเดินตามฝันไปโดยไม่ย่อท้อ หรือเข็ดกับความเจ็บปวดที่ได้รับระหว่างทาง เพื่อความสุขข้างหน้า ซึ่งเส้นทางของหัวใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนเจอเร็ว บางคนเจอช้าหรืออาจไม่เจอเลย ความมืดมิดของเส้นทางนี้อาจสร้างความเจ็บปวด แต่หากเมื่อใดได้พบแสงสว่างที่ส่องจากปลายทางความสุขที่รอคอยก็จะค่อยๆส่องมาถึง และเมื่อเราเดินมาจุดที่แสงแห่งความสุขส่องนำทาง เธอก็จะพบว่าเส้นทางเส้นเดิมได้เชื่อมกับเส้นทางอีกเส้น เพื่อเดินไปด้วยกัน ทางเดินนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางความสุขที่เฝ้าคอย ขอเพียงเชื่อว่าเส้นทางที่จะมาบรรจบกับเราเท่านั้น ทางเดินแห่งความหวังย่อมไปถึงจุดหมายแห่งความสุขแน่นอน				
22 ตุลาคม 2547 00:10 น.

พระจันทร์กับพระอาทิตย์

ระเบียงดาว

ฟ้าก่อนฝนตกล้วนเต็มไปด้วยเมฆฝนที่มืดครึ้มชวนให้รู้สึกสับสน เหมือนคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง ใครคนหนึ่งเคยถามคำถามข้อหนึ่งกับดวงดาว คำถามที่ใครหลายคนก็ยังคงสงสัยว่า ความรู้สึกแบบไหนที่ทำให้เพื่อนกับคนรักแตกต่างกัน ดาวน้อยที่ส่องแสงสีเงินตอบอย่างอ่อนโยนว่า หากเมื่อใดเรารู้ว่าพระจันทร์กับพระอาทิตย์ต่างกันเช่นไร เพื่อนกับคนรักก็ต่างกันเช่นนั้น พระจันทร์ คือ แสงสว่างในยามค่ำคืนช่วยให้ท้องฟ้าไม่เงียบเหงา ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำเมื่อได้เห็น แต่หากขาดไปกลับให้ความรู้สึกเหน็บหนาวใจ ส่วนดวงอาทิตย์ คือ แสงสว่างในตอนกลางวัน ช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เริ่มต้นวันใหม่ ให้ความอบอุ่นทุกครั้งที่ได้พบ เมื่อใดดวงอาทิตย์สูญหายไปความรุ่มร้อนใจก็จะเกิดขึ้น ม่านมายาของพระจันทร์มักทำให้ผู้คนหลงใหลคิดไปว่านั้นคือแสงที่ใจต้องการ ขอเพียงเธอมองให้ลึกซึ้งว่าแสงจันทร์ที่ส่องสว่างพอให้เห็นสิ่งใกล้ตัว กับแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างให้ทุกสิ่งในโลกปรากฏขึ้น ความอบอุ่นใจกับความชุ่มชื่นใจ สิ่งใดคือคำตอบที่สำคัญของหัวใจ หากเธอคือฟ้า เพื่อนคือพระจันทร์ คนรัก คือ พระอาทิตย์ ฟ้าที่ไร้พระจันทร์ยังมีดาว แต่ฟ้าที่ไร้พระอาทิตย์จะมีแต่ความมืด ในอวกาศอาจมีดวงจันทร์หลายดวง แต่มีดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียว จงมองหาแสงที่แท้จริงของหัวใจ แล้วเธอจะมีสีสันแห่งความสุข ดั่งท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีด้วยแสงอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟระเบียงดาว
Lovings  ระเบียงดาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟระเบียงดาว
Lovings  ระเบียงดาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟระเบียงดาว
Lovings  ระเบียงดาว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงระเบียงดาว