27 กรกฎาคม 2549 09:37 น.
รวิวรี
อย่าตัดสินหนังสือว่าดี แค่ปกสวยๆ
...อย่าบอกว่า.น่ารักเหลือเกิน แค่คุยกันหนเดียว
คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลยใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกที่ชอบไม่ได้
คนที่บอกว่าจะไม่แต่งงานมักแซงหน้าแจกการ์ดก่อนคนอื่นเสมอ
...อย่าตกใจเมื่ออ่านหนังสือระดับ Best Seller แล้วไม่ชอบ
...ถ้ารักคนคนเดียวกับที่คนอื่นรัก...คงแย่งกันน่าดู
การชอบหนังสือสักเล่มไม่ได้หมายความว่า..หนังสือเล่มนั้น..เนื้อหาดีทุกหน้า
การรู้สึกดีกับใครสักคน..ไม่จำเป็นว่า..เขาต้องไม่มีข้อเสียอะไรเลย***
...อย่าเสียดายเวลา ถ้าอ่านหนังสือบางเล่มจบแล้วพบว่า..ไม่ใช่แบบที่ชอบ
จงรู้สึกดีกับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็มที่...
เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมา ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างแน่นอน
...แม้วันหนึ่งจะรู้ว่า เขาหรือเธอคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด
เพราะอย่างน้อย...เราก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นและพร้อมที่จะตามหาคนของเราต่อไป
การอ่านหนังสือสักเล่มต้องใช้เวลา
...เราไม่สามารถรู้จักใครสักคนได้ดีตั้งแต่วันแรก
...หนังสือมีสิ่งต่างๆ หลากหลายให้ศึกษา
ทดลองอ่านดูก่อนที่จะตัดสินว่าน่าเบื่อ
... บางครั้งสิ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์และมองผ่านมันไป.
วันหนึ่งมันอาจจะมีค่าสำหรับเราแล้วในตอนจบ
ก็จะรู้ว่าหนังสือประเภทไหนเหมาะกับเราที่สุด
เหมือนกับความรัก
...ทุกครั้งที่เรามีความรักกับใครสักคนนั้น แม้ทุกอย่างจะเดินมาถึงจุดจบ
แต่คนทั้งคู่ย่อมได้รับอะไรจากสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาโดยไม่รู้ตัว
อย่างน้อยที่สุดก็ได้บทเรียนที่มีค่าเพิ่มอีกบทหนึ่งบทเรียน
ที่จะนำไปสร้างความรักครั้งใหม่ให้มีรากฐานที่ดีกว่าที่ผ่านมา
สำหรับฉัน "ความรัก" เปรียบเหมือน..
... การได้อ่านหนังสือหลายๆ เล่ม (อ่านทีละเล่มนะจ๊ะ)
แต่ละเล่มที่ผ่านไปสอนให้ฉันเข้มแข็ง
สอนให้ฉันรู้จักโลกที่เป็นจริง
และสอนให้ฉันรู้จักใจของตัวเอง
แม้ว่าตอนจบของแต่ละเล่มจะไม่สมใจ
แต่ฉันก็ไม่คิดจะหยุด ท้อ หรือกลัวที่จะค้นหา
ฉันจะอ่านต่อไป จนกว่าจะเจอ "หนังสือของฉัน" ^-^
คุณล่ะเจอรึยัง?
ถ้าเจอแล้วอย่าลังเลที่จะหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน
อย่ากลัวที่จะเสียเวลาและผิดหวัง
ไม่แน่นะเล่มที่อยู่ในมือตอนนี้น่ะ
อาจจะตรงกับความรู้สึกของคุณที่สุดก็ได้
27 กรกฎาคม 2549 09:32 น.
รวิวรี
แอบรัก
ฉันชอบความรู้สึกของการได้ "แอบรัก" ใครซักคน
หนึ่งชีวิตของคนเราถ้าได้รู้สึกถึง... "ความรักแบบไม่ครอบครอง"
บ้างก้อคงจะดีไม่น้อยโลกคงไม่วุ่นวายไม่ยื้อแย่งไม่ครอบครอง
และความรักก้อคงจะไม่ "เห็นแก่ตัว" อย่างที่ดำเนินอยู่
ขึ้นชื่อว่า "แอบรัก" แล้วล่ะก้อ...
ฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่อาการที่ต้องการจะเปิดเผยตัวไม่อยากให้ใครได้รู้ได้เห็น
ความสุขเกิดขึ้นได้ในมุมเงียบๆและปราศจากการครอบครอง
ความรักแบบเงียบกริบสอนให้คนปล่อยวาง และหัวใจอ่อนโยน
ไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการได้รัก
และมากที่สุดก้อคงจะเป็นแค่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า
..."รัก"
เท่านั้นเองที่ความรักต้องการ...
คงเหมือนกับไม่ขีดไฟแอบหลงรักดอกทานตะวัน
สุดท้ายมันก้อต้องการแค่เพียงแค่ให้ดอกทานตะวันหันมองแสงอันน้อยนิดของมัน...
แม้จะเป็นแสงสุดท้ายที่ถูกจุดขึ้นเพื่อดับลงตลอดกาลก้อตาม
เชื่อไหม???...
ฉันเคยรู้จักคนๆนึงที่แอบรักใครอีกคนได้นานเป็นปีๆ
โดยไม่เคยแสดงตัวต่อความรักของเขา
หญิงสาวใช้โทรศัพท์เป็นสื่อแสดงความรู้สึกตลอดมา
ทุกคืน...เธอจะยกหูโทรหาเขา แม้บางครั้งด้วยคำพูดสั้นๆแค่ว่า
"นอนหลับฝันดี" เท่านั้นก้อตาม
ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าเธอ
ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นเธออยู่รอบตัวเค้าตลอดเวลา
...เธอเคยเดินผ่านเขาใกล้กันแค่เอื้อมมือคว้า
แต่เขาไม่รู้จักเธอ...
...เธอเคยสบตาเขาแต่เขาไม่เห็นแววตาเธอ...
...เธอเคยยืนตรงหน้าเขาแล้ว(แอบ)ฟังเขาพุดคุยกับเพื่อนของเขา
แต่เค้าไม่ได้พูดกับเธอ...
ทั้งหมดเป็นความสุขของหญิงสาว...
"สุขที่ได้เห็นเขาโดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องเห็นเธอ"
การติดต่อของเค้าและเธอสิ้นสุดลง
ในวันที่ชายหนุ่มมีคนรักที่แสดงตัวอย่างชัดเจน
เค้าเลือกที่จะรักคนอื่นเพราะในความคิดของเค้า
...หญิงสาวไม่มีตัวตน...
หญิงสาวห่างออกมาไม่อนุญาตให้ตัวเองเข้าใกล้เค้าอีก
เธอคำนึงถึงความถูกต้องและ...ทุกอย่างย่อมมีเจ้าของเมื่อถึงเวลา
...ความรักของเธอบริสุทธิ์เกินกว่าจะทำร้ายใคร...
ในเมื่อชายหนุ่มเลือกที่ปักดอกไม้อื่นลงบนแจกันของเค้า
ต่อให้เธอสวยงามกว่าดอกไม้ดอกนั้นเพียงใดเธอก้อไม่อาจแสดงตัวได้...
แต่เธออนุญาตหัวใจให้รักเค้าได้เท่าเดิมและคงจะไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
เพราะ "รักแท้" สอนให้เธอมีความสุขได้
แม้ "ไม่ได้เป็นเจ้าของ" หรือ "ถูกครอบครอง"
และ "รักแท้" นี่เองที่จะทำให้ดอกไม้อย่างเธอไม่มีวันแห้งเหี่ยว
"แม้ว่าเธอจะเป็นดอกไม้ไร้ชื่อ...
ที่ไร้แจกันตลอดไป...ก้อตาม"
25 กรกฎาคม 2549 12:25 น.
รวิวรี
จะรู้ว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่
ก็ต่อเมื่อเราได้ออกเดินทาง
จะรู้คุณค่าของอะไรในสักอย่าง
ก็ต่อเมื่อเราได้เสียมันไป
จะรู้ความหมายของฟ้าหลังฝน
ก็ต่อเมื่อเราผ่านพ้นมันมาได้
จะรู้ว่ายังมีเรื่องอีกมากมาย
ก็ต่อเมื่อเราเปิดใจยอมรับมัน
จะรู้ว่าในหนังสือมีอะไร
ก็ต่อเมื่อเราได้ลองเปิดอ่าน
จะรู้เวลา..ของดอกไม้บาน
ก็ต่อเมื่อเราเฝ้าตามอยู่อย่างนั้น
จะรู้ว่าเสียงหัวเราะมันมีค่า
ก็ต่อเมื่อเราเสียน้ำตาในสักวัน
จะรู้ถึงความในใจของกันและกัน
ก็ต่อเมื่อเราได้พูดมันออกไป
จะรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าคิดถึง
ก็ต่อเมื่อในความคิดคำนึงมีใครสักคน
จะรู้ความหมายในคำรักสักหน
ก็ต่อเมื่อมีใครบางคนให้หวั่นไหว
จะรู้ว่าค่ำคืนนี้คงไม่เงียบเหงา
ก็ต่อเมื่อทุกเรื่องเล่าได้มีโอกาสบอกไป
จะรู้ว่าเป็น เธอ เท่านั้น.ที่ฉันมีให้
ก็ต่อเมื่อทุกครั้งที่เขียนอะไรลงไป
จะมีแต่ภาพเธอในใจที่เกิดขึ้นมา
20 กรกฎาคม 2549 13:24 น.
รวิวรี
เพราะ..........อุทกภัยทางวาจา
วาตภัยแห่งการกระทำ
และ............อัคคีภัยจากสายตาของเธอ
คือเหตุผลทั้งหมด
ที่ทำให้ฉันต้องเดินจากมา
++..................................................++
20 กรกฎาคม 2549 13:13 น.
รวิวรี
อาจไม่มี...เรื่องอะไรให้ค้นหา
อาจไม่มี...ช่วงเวลาพูดล้อเล่น
อาจไม่มี...มากคำหวานที่ชัดเจน
เพราะไม่มี...ความจำเป็นเท่าจริงใจ
มีเพียงตา...คอยมองมาเพื่อรับรู้
มีเพียงมือ...จับกันอยู่ไม่ห่างหาย
มีเพียงใจ...ที่พูดกันตลอดไป
อยู่ที่เรา...เฝ้าห่วงใยไม่เปลี่ยนแปลง
++..............................................++