23 มิถุนายน 2547 21:17 น.

หนึ่งเดียวในดวงใจ

รพี

จากถิ่นเกิดกันดารในบ้านป่า 
มุ่งไขว่คว้าสิ่งที่มีความหมาย 
เป็นอาภรณ์ประดับสำหรับกาย 
เชิดเชื้อสายให้มั่นคงกว่าวงศ์วาร 

สู่มหาวิทยาลัยในเมืองหลวง 
เข้าตักตวงวิชามหาศาล 
ไม่ท้อถอยบากบั่นขยันการ 
หวังให้ผ่านศาสตร์ศิลป์ปริญญา 

ความหิวโหยโบยชีพอย่างรีบร้อน 
ที่หลับนอนที่กินแทบสิ้นท่า 
เพราะความจนทุรนทุรายติดกายมา 
แล้วเวลาความสำเร็จก็เสร็จลง 

ลาแล้วเอยเมืองฟ้าขอลาก่อน 
จะกลับดอนถิ่นหลังดังประสงค์ 
สร้างหลักฐานที่นั่นให้มั่นคง 
สืบเผ่าพงศ์รากหญ้าฝ่าฟันไป 

กลับถึงบ้านคลานมาหาตักแม่ 
คนขี้แยคนเดิมเริ่มร่ำไห้ 
ซบตักแม่ซาบซึ้งก้นบึ้งใจ 
จากแม่ไกลแล้วกลับนับว่าบุญ 

ยกทูนเทิดทั้งสองมือของแม่ 
รอยยิ้มแผ่เปื้อนปร่าน้ำตาอุ่น 
มือแห่งแม่คู่นี้มีบุญคุณ 
ความการุณย์จากอกแม่ปกมา 

เคยป้อนข้าวป้อนน้ำพร่ำสอนสั่ง 
ตอนที่ยังอ่อนวัยไม่ประสา 
จะลำบากยากใจไม่นำพา 
ความเมตตาท่วมท้นทั้งต้นปลาย 

ณ วันนี้ลูกมาหาแม่แล้ว 
อยู่กับแก้วดวงงามเปี่ยมความหมาย 
หวังกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงแม่ที่แก่กาย 
จะไม่หายห่างแม่.....แม้เพียงวัน.				
19 มิถุนายน 2547 00:48 น.

อยาก

รพี

ยึดนาครเป็นแดนงามแห่งความฝัน
ตื่นตาพลันพบแผกผิดแปลกฉงาย
ในปลักตมกิเลสคนวนวุ่นวาย
สร้างอุบายชาติชั่วด้วยมัวเมา
                  อยากหลับใหลในโลกงามเปี่ยมความรัก
                  แต่ประจักษ์ว่าตนแค่คนเขลา
                  ในสังคมแย่งยื้อถือเขาเรา
                  ตัณหาเผาแผดกระหน่ำทำท้อใจ
ออกท่องเที่ยวเดียวดายรายพงพฤกษ์
ผ่านหุบลึกแนวละหารธารน้ำใส
ข้ามสันเขาเพิงถ้ำเงื้อมง้ำไกล
เทือกไศลลดหลั่นกีดกั้นตา
	แลลิบลิบสูงสล้างกลางกลุ่มเมฆ
	ดังสร้างเสกโดยสวรรค์บรรโลมหล้า
	ครั้งแสงสูรย์ส่งประกายฉายฉานมา
	สุดปลายฟ้าเรื่อเรืองเหลืองดั่งทอง
ยามสายฝนสาดโปรยโชยความชื่น
ในป่ารื่นรมณีย์ไม่มีหมอง
ครั้นใกล้สนธยาเข้ามาครอง
ท่วงทำนองแห่งทิวาเลือนลาไป
	อยากพำนักฝากใจไว้ในป่า
	ฝากกายากับโขดเขินเนินไศล
	อาบแสงดาววาววับระยับใย
	แอบอิงไพรจนกว่าชีวาวาย.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรพี
Lovings  รพี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรพี
Lovings  รพี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรพี
Lovings  รพี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงรพี