8 มีนาคม 2547 17:11 น.
รพี พรรณราย
สายลมร้อนผ่าวแห้งแฝงความหม่น
คล้ายดังคนร้างเล่ห์เสน่หา
กลีบดอกแคพลิ้วเห็นเจนนัยน์ตา
เกลื่อนท้องนาร้าวระแหงยามแล้งเยือน
เลยทิวทุ่งเทือกเขาเนาว์ลิบลิ่ว
ให้วาบหวิวอกใจหาใดเหมือน
เมื่อจำจากหลายปีมิคืนเรือน
แต่ไม่เลือนถิ่นเกิดกำเนิดกาย
กลับสู่ทุ่งอีกครั้งหวังใจว่า
จะตั้งหน้ารีบรุดสู่จุดหมาย
จินตนาแห่งอารมณ์อันคมคาย
เคยแพรวพรายอยู่ในฝันอันพิไล
จักสรรสร้างบ้านนาให้กล้าแกร่ง
ทุ่มทอดแรงทุ่มชีวิตอุทิศให้
กู้ศักดิ์ศรีบรรดาชาวนาไทย
มิให้ใครหยามเย้ยเหมือนเคยมา.
6 มีนาคม 2547 14:25 น.
รพี พรรณราย
โอ้...สวรรค์....วันนี้ไม่มีแล้ว
ไร้วี่แวววาวแสงแห่งแดนสรวง
เมื่อพร่างดาวพราวพร้อยลอยเลือนดวง
กลับมาห่วงหวลหาน้ำตาคลอ
วันที่ความจริงใจมาไร้ค่า
ไม่มีแม้คำลาอนาถหนอ
ถึงเจ็บปวดยับเยินจนเกินพอ
ไม่อาจง้องอนได้ดังใจคิด
ถึงวันเก่าเคยรักกันหนักแน่น
เมื่อคลอนแคลนแล้วก็ไม่ขอสิทธิ์
อยากถมทับความหลังฝังให้มิด
เรื่องถูกผิดจงลับหายกับสายลม
แม้น้อยใจหลายหนพอทนสู้
กับถ้อยหลู่เหลือฝืนความขื่นขม
ขอปล่อยใจรองรับซับความตรม
ทนทานจมอยู่กับดินจวบสิ้นใจ.
5 มีนาคม 2547 16:07 น.
รพี พรรณราย
อุษาสางสายสิ้นไร้กลิ่นเสียง
ดอกหญ้าเพียงสะบัดส่ายระบายฝัน
เชิดชูกลีบแย้มท้าดวงตาวัน
อวดสีสันสวยใสในทิวา
แม้ต้อยต่ำกว่าใครในโลกล้วน
ใครไม่หวลคิดถึงคะนึงหา
ก็ขออยู่อย่างเขียมเจียมอุรา
แค่ดอกหญ้าต่ำเตี้ยเรี่ยพื้นดิน!!!!.
1 มีนาคม 2547 22:10 น.
รพี พรรณราย
ภาพใสสดงดงามของความหลัง
ริมฟากฝั่งตาปีที่ยิ่งใหญ่
สองเราเคยเห่กล่อมหล่อหลอมใจ
หยิบยื่นให้เป็นพันธะสัญญา
แล้ววันจากแห่งเราก็ก้าวผ่าน
สุดร้าวรานอกสั่นขวัญผวา
ช่อดอกรักเคยบานในลานนา
เหี่ยวโรยราจากนั้นจนวันนี้.