27 กุมภาพันธ์ 2546 21:58 น.
ยังแคร์
ดูปฏิทินที่เปื้อนรอยปากกา
นับจากวันที่เราลา เธอรู้ไหมว่ามันนานแค่ไหน
ชีวิตเปลี่ยนวัน แต่รอยขีดฆ่าเหล่านั้นไม่เคยเปลี่ยนหัวใจ
วันสุดท้ายที่รู้สึกว่ายืนอยู่ได้ คือวันที่เธอลา
หากไดอารี่จะบอกการเดินทางของใครหนึ่งคน
วันเดือนปีที่เขียนไว้ตรงมุมซ้ายด้านบนคงไร้ค่า
นับจากวันที่เธอไป ไดอารี่หน้าสุดท้ายยังเปื้อนน้ำตา
ชีวิตเหมือนถูกหยุดเวลา คำสุดท้ายของไดอารี่หนึ่งหน้าคือ เธอหมดใจ
ทุกจังหวะของลมหายใจ ยังคว้าไขว่ให้เธอกลับมา
ฉันเติบโตไปพร้อมเวลา และหัวใจเหมือนเข็มนาฬิกาที่หยุดเคลื่อนไหว
กลับมาเถิดคนดี หากฉันคนนี้ต้องก้าวเดินต่อไป
กลับมาเป็นแรงของหัวใจ ฉันกลัวไดอารี่หน้าใหม่ยังเปื้อนน้ำตา
25 กุมภาพันธ์ 2546 21:37 น.
ยังแคร์
ไม่เหลือแม้ใครให้คิดถึง
เพราะครั้งหนึ่งที่เคยมีมันจบสิ้น
ดอกไม้ยังแกล้งปลิดกลีบ ให้น้ำตาริน
นกสีขาวจงใจโบยบิน..จากลา
เนิ่นนาน ที่อยู่กับการร้องไห้
นานจนลืมว่ามีหัวใจ นานจนตัวเองกลายเป็นคนแปลกหน้า
ความเดียวดาย มันเปลี่ยนความเคยชินกับกลิ่นของน้ำตา
ไม่รู้จะเดินไปได้อีกกี่รอบเข็มนาฬิกา..จะมีแรงเป็นคนไร้ค่าได้อีกกี่วัน
18 กุมภาพันธ์ 2546 09:19 น.
ยังแคร์
ไม่ใช่คืนแรกที่การข่มตาเป็นเรื่องยาก
แต่เป็นอีกคืนต่างหากที่ภาพเธอมาวนเวียนอยู่ในหัว
เรื่องราวเก่าๆ ในความทรงจำบางเบาไม่เคยพร่ามัว
กว่าจะรู้ตัวก็กำลังคิดถึงเธอเสียเต็มหัวใจ
มันทรมานเมื่อการรักใครกลายเป็นเรื่องผิด
แต่บางข้อต้องห้ามของชีวิตมันก็ยากเกินทำได้ไหว
ขออนุญาตตัวเองให้เพลงความรักบรรเลงในหัวใจ
อย่างน้อยคืนนี้ก็จะผ่านไป แม้ต้องรับผิดชอบด้วยการหม่นไหม้ก็ยอม
14 กุมภาพันธ์ 2546 17:27 น.
ยังแคร์
แค่การได้อยู่ใกล้..ได้มองความเป็นไปอยู่ห่างๆ
ได้พูดคุยได้เติมช่องว่างที่อยากให้เธออยู่ที่นั่น
ได้สบตา ได้ยิ้มให้ ได้ทักทายกัน
แล้วแอบร้องเพลงรักให้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์
ความสุขมันก็วางอยู่ตรงหน้า
แม้เธอจะไม่เห็นค่า ไม่รู้ว่าฉันรักเธอแค่ไหน
แต่มิตรภาพที่เธอให้ฉัน...แค่นั้นก็สุขใจ
วันนี้ก็เป็นวัน ไม่มีใคร ที่ฉันอุ่นใจและรู้สึกดี
พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นวันธรรมดา
ฉันอาจไม่พบเธออยู่ตรงหน้า ฟ้าอาจเปลี่ยนสี
โลกสีชมพูในหัวใจยังให้เธอนะคนดี..
เพราะเธอไม่สำคัญแค่วันนี้ แต่สำคัญที่ตลอดไป
11 กุมภาพันธ์ 2546 07:38 น.
ยังแคร์
ค่ำคืนเดินทางมีถึงแล้ว
แว่วๆไหมเสียงจากความฝัน
หลับตาลงเถอะนะใต้เงาจันทร์
แล้วฉันจะเล่านิทานให้ฟังอย่างค่อยๆ
คืนเงียบ..ดาวเต็มฟ้า
ผืนหญ้าพูดคุยกับหิ่งห้อย
ดอกไม้ทักทายสายลมลอย
แล้วค่อยๆเบ่งบานใต้เงาจันทร์
เด็กน้อย..ขดตัวใต้ผ้าห่ม
พยายามข่มตาเพื่อหลับฝัน
แต่คืนนี้ความเหงาแสนเงียบงัน
กอดตัวเองไปพลันเพราะอ้างว้าง
นานแสนนานในค่ำคืน
เด็กน้อยจึงลุกขึ้นยืน..ไปที่หน้าต่าง
อธิษฐานกับดาวที่พรายพร่าง
อยากมีใครอยู่ข้างๆในคืนนี้
อยากฟังนิทานก่อนนอน
อยากมีคนอวยพรให้ฝันดี
อยากได้อ้อมกอดอุ่นในคืนนี้
แล้วน้ำตาที่มี ก็รินไหล
ดาวน้อยกระซิบบอกท้องฟ้า
ผืนหญ้าบอกหิ่งห้อยแสงใส
ดอกไม้พลิ้วตามลม..เอ่ยจากหัวใจ
เด็กน้อยกำลังร้องไห้..อย่างเงียบเศร้า
เพราะค่ำคืน..ห่างไกลแสงสว่าง
ความอ้างว้างจึงก่อตัวในความเหงา
เพราะเด็กน้อยหัวใจยังบางเบา
น้ำตาจึงรินเศร้า..ดูอ่อนไหว
ดวงดาวจึงเปล่งแสงสว่าง
ทิ้งตัวจากฟ้ากว้าง..แสนห่างไกล
ต้นหญ้าเต้นระบำกับดอกไม้
สายลมพัดกระทบไป เป็นเสียงดนตรี
หิ่งห้อยเปล่งแสงสีขาว
คล้ายดวงดาวบนฟ้าเมื่อครู่นี้
แล้วเต้นรำเคล้าคลอเสียงดนตรี
เป็นดวงดาว..แสนดี..อยู่ใกล้ๆ
เด็กน้อยยิ้มละไม..ใจอบอุ่น
ขอบคุณดวงดาวที่เคลื่อนไหว
ขอบคุณสายลมที่พัดไป
ขอบคุณดอกไม้กับต้นหญ้า
งานเต้นรำเล็กๆในห้องนอน
ดวงดาวบินว่อนจากท้องฟ้า
ดนตรีบรรเลงจากลมพา
เจ้าชายต้นหญ้า เจ้าหญิงดอกไม้
เด็กน้อยนอนหลับสบาย..ฝันดี
ฝันถึงเสียงดนตรีในปราสาทใหญ่
ฝันถึงเจ้าหญิงและเจ้าชาย
ฝันถึงดอกไม้..และดวงจันทร์
ตะวันกำลังจะขึ้นในวันใหม่
แว่วๆไหมเสียงจากความฝัน
ดอกไม้ ดวงดาว จะอยู่ใกล้ๆกัน
รอเธออยู่ในความฝัน.....ฝันดี