4 สิงหาคม 2547 04:01 น.
ม.ปณิธาน
รักของแม่อยู่ยั้ง.................ยืนยัน
หาสิ่งอื่นเทียมทัน..................ไม่ได้
แม่บอกโกรธเคืองกัน..............เพียงครู่
ดีกว่ารักลวงให้.......................อื่นนั้นไม่ยั่งยืน
รักแม่หยิบยื่นให้...............ทุกหน
คุณท่านมากเสียจน................จึ่งย้ำ
บวชเรียนเพื่อส่งผล..................บุญตอบ
เพียงแค่แทนนมน้ำ.................หนึ่งน้อยหยดเดียว
รักแม่มีต่อลูก.....................สัมพันธ์ผูกมากเหลือล้น
บวชเรียนเพียรส่งผล................แทนค่านมแม่หยดเดียว
รักของแม่แน่จริง...............ไม่มีสิ่งใดแน่นเหนียว
ยืนยันมั่นคงเจียว....................แม่รักลูกทุกเวลา
แม่บอกโกรธเคืองกัน..........แต่ใจนั้นยังห่วงหา
รักอื่นชื่นอุรา.........................ไม่เทียมเทียบเปรียบได้เลย
แม่ไม่เคยเรียกร้อง..............สิ่งใด
ยามเฒ่าเพียงหวังใจ................ลูกเฝ้า
ดูแลท่านไม่ไกล.....................หายห่าง
ยามป่วยเจ็บรุมเร้า...................อยู่เฝ้ารักษา
แม่ไม่ขอมากมาย................ยามร่างกายท่านชรา
หวังเพียงลูกคอยมา...................เอาใจใส่เฝ้าดูแล
แม่ไม่ขอมากมาย................ยามร่างกายท่านอ่อนแอ
ยามเจ็บหวังเพียงแต่..................แค่ลูกใกล้ได้รักษา
แม่ไม่ขอมากมาย................ยามต้องตายวายชีวา
หวังเพียงให้ลูกมา.....................ดูใจแม่ก่อนลาไกล
แม่ไม่เคยเรียกร้อง...............มากมาย
ยามก่อนชีวาวาย......................วอดม้วย
หวังลูกอยู่ข้างกาย.....................ก่อนจาก
ให้ลูกดูใจด้วย..........................ก่อนได้สู่สวรรค์.
สำหรับเพื่อนๆทุกคนที่พลาดการอ่านเรื่อง ...แม่...แม่คือทุกสิ่ง ซึ่งผมเขียนไว้ก่อนหน้านี้ สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_57568.php
31 กรกฎาคม 2547 02:49 น.
ม.ปณิธาน
****หยาดน้ำฟ้า ละอองฝน****
กอกก - ***ท้อ ***
ภวังค์จิตคิดท้อต่อโลกกว้าง
ใจเคว้งคว้างอ้างว้างหว่างวิถี
ไร้คนคอยเคียงข้างทางชีวี
มีเพียงที่ฝันไปแต่ในเงา
แสนดายเดียวเปลี่ยวใจได้เพียงคิด
ให้ตรมจิตหมองหม่นทนเงียบเหงา
ในโลกนี้มีใครเฉกเช่นเรา
ชีวิตเศร้าเหงาเงียบเยียบเย็นใจ
เมื่อฝนพรำฉ่ำฟ้าพาลมหวน
พัดแปรปรวนป่วนมาฟ้าหวั่นไหว
สายฟ้าแลบคำรนร้องคะนองไกล
เสียงโหยไห้ระบายทุกข์สะอื้นพลัน
หยาดน้ำฟ้าปรายฟองละอองฝน
อัสสุชลหลั่งรินสิ้นข่มกลั้น
อิงเสียงฝนพรางคำพร่ำรำพัน
ดังต้องทัณฑ์รันทดท้อทรมา
ใจหญิงหนึ่งจึงโศกวิโยคนัก
ระทมรักพรากไกลให้ห่วงหา
เหมือนอยู่สุดขอบฟ้า ณ ดารา
ไกลสุดตาสุดคว้ามาเคียงครอง.
****ละอองฝน สะพานฟ้า****
ม.ปณิธาน - ***อย่าคิดท้อ***
อย่าคิดท้อต่อโลกให้โศกเศร้า
เก็บใจเราไว้รออย่าท้อถอย
แม้ทางกว้างอ้างว้างเคว้งคว้างคอย
คงพบรอยเงาฝันอันสวยงาม
อย่าดายเดียวเปลี่ยวใจแม้เพียงคิด
อย่าตรมจิตหมองหม่นให้คนหยาม
อย่าอ่อนแอแพ้พ่ายไม่ได้ความ
อย่าปล่อยตามบุญกรรมชักนำไป
เมื่อฝนซาฟ้าใสหัวใจกระจ่าง
คงพบทางเดินได้ไม่หวั่นไหว
เสียงนกร้องก้องกังวานสำราญใจ
หัวเราะได้คลายโศกโบกโบยบิน
ละอองฝนโดนแสงก่อนแห้งหาย
กลับเป็นสายรุ้งงามยามโศกสิ้น
เป็นสะพานจากฟ้าลงมาดิน
ไม่เกินจินตนาการสะพานใจ
ส่งใจข้ามสะพานฟ้ามาหารัก
แม้ไกลนักเกินกายได้เคียงใกล้
แม้ไกลสุดหลุดขอบฟ้าดาราไกล
แต่หัวใจข้ามไปอยู่คู่เคียงกัน.
19 กรกฎาคม 2547 05:22 น.
ม.ปณิธาน
ขอเทพสวรรค์เสกสร้าง...........รังสรรค์
ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์มหันต์.................ช่วยคุ้ม
ขอคุณพระอเนกอนันต์..............หนุนส่ง
ขอแม่พ้นโศกกลุ้ม......................เรื่องร้ายมลายไป
แม่เปรียบครูท่านให้..............วิชา
แม่ดั่งเทพเทวดา........................ขจัดร้าย
แม่เป็นเช่นพรหมา.....................ของลูก
แม่เปรียบพระอรหันต์คล้าย.........ท่านให้พึ่งพิง
แม่เปรียบครูสอนสั่ง..............แม่เป็นดั่งเทวดา
แม่เป็นเช่นพรหมา....................แม่ดั่งพระเนื้อนาบุญ
ให้เกิดกำเนิดกาย.................สืบเชื้อสายโลหิตอุ่น
สอนสั่งเรื่องบาปบุญ...................ทั้งคุณธรรมจริยา
คลาน นั่ง ยืน เดิน นอน........แม่คอยสอนทุกทีท่า
อีกทั้งหัดพูดจา..........................สื่อภาษาแม่คอยฟัง
ปกป้องคุ้มครองภัย................เอาใจใส่ลูกทุกครั้ง
อันตรายแม่คอยระวัง.................ไม่พลั้งพลาดคลาดสายตา
เมตตา กรุณา.......................มุทิตา อุเบกขา
ต่อลูกไม่นำพา............................ฐานะใดไม่แคลนคลอน
เป็นที่พึ่งของลูก....................แม่คอยปลูกฝังสั่งสอน
ทำดีกับท่านทุกตอน..................มากอานิสงส์ส่งผลบุญ
รู้บุญคุณท่านเลี้ยง.................เรามา
รู้รักกตเวทิตา............................ตอบด้วย
ดำรงค์แห่งวงศา.........................สูงส่ง
รู้เมื่อยามท่านม้วย......................แผ่ให้บุญกุศล
ดลท่านให้ตั้งมั่น...................ในศาสนา
ยึดมั่น ศีล ธรรมา.......................ทั่วถ้วน
บริจาคแบ่งทานพา......................ยึดเหนี่ยว
นำท่านเกิดปัญญาล้วน................ยิ่งพร้อมประเสริฐคน.
13 กรกฎาคม 2547 17:43 น.
ม.ปณิธาน
ขอบคุณคุณพี่พร้อม................วันทา
ที่ท่านคอยกรุณา.....................กล่าวแก้
ชี้ทางแห่งปัญญา....................หนุนส่ง
ใจมุ่งสร้างมิตรแท้..................ทั่วทั้งกวีไทย
ขอบคุณพร้อมวันทา
คุณพี่มาช่วยแก้ไข
ชี้ทางสร้างแรงใจ
มุ่งหมายมิตรสนิทกัน
ประสานรอยร้าวนี้
ขอเหล่ากวีสมานฉันท์
เลิกส่อเสียดเกลียดกัน
ร่วมสร้างสรรค์วันดีดี
สร้างงานสร้างคุณค่า
ร้อยเรียงมาด้วยไมตรี
โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มี
เรียงร้อยเขียนบรรยายความ
ขอฝากโคลงกาพย์นี้
กราบคุณพี่ที่พยายาม
สร้างสรรค์จรรโลงสยาม
กวีสำราญชื่นบานใจ.
13 กรกฎาคม 2547 15:28 น.
ม.ปณิธาน
แด่...เธอผู้ซึ่งไร้................เงาใจ
เธอ...ขาดเขาหรือใคร......ใคร่รู้
ไร้...แล้วซึ่งแสงใด............สาดส่อง
เงา...ไม่อยู่ชื่นชู้.................คู่คล้องใจเธอ
เธอผู้ไร้เงาใจ
เขาหรือใครไม่ใยดี
ไร้แสงส่องนานปี
เงาไม่อยู่คู่ใจเธอ
ฉันอยากเป็นดั่งแสง
ไม่ร้องแรงส่องให้เสมอ
เพียงขอให้ได้เจอ
เงาใจกลับประดับใจ.