11 พฤศจิกายน 2545 08:34 น.
ม้าก้านกล้วย
ข้าวใหม่กำลังเหลืองเรืองดั่งทอง
แต่ข้าวปล้องน้องพี่หนีไปไหน
นาปรังกำลังกล้าเริ่มนาใหม่
แต่ดวงใจของข้ามาร้างรอน
เคยเป่าปี่ปล้องข้าวให้เจ้าฟัง
เคยเคียงนั่งหลังทุยลุยแดดร้อน
เคยแอบอิงไอรักหนุนตักนอน
เด็ดใบบอนมาบังใบให้ร่มเย็น
จู่จู่เจ้าก็จาก อยากต่อว่า
มาหนีหน้าไปไหนไม่ให้เห็น
ตะโกนกู่เรียกหาน้ำตากระเซ็น
เจ้ามาเร้นหลบพี่ชายหายห่างเหิน
คงลืมเพลงปี่ข้าวปล้องเคยร้องคลอ
คงลืมตอซังข้าวเหงาสะเทิ้น
คงลืมเคียวเกี่ยวรวงห่วงเหลือเกิน
คงเพลิดเพลินอยู่ที่ไหนจึงไม่มา
ต้นข้าวทอดถอดปล้องต้องตั้งรวง
ข้าวยังห่วงนายังคอยละห้อยหา
ทุยยังพ้อรักพ่ายอยู่ท้ายนา
เมื่อเจ้ามาจากไปน้อยใจนัก
ข้าวใหม่ในทุ่งทองต้องเก็บเกี่ยว
ข้าคนเดียวเคียวพะวงคงจะหัก
จะเก็บกำไปให้ใครเมื่อไร้รัก
ปล่อยเป็นปลัก แปลงร้าง เพราะนางลืม
(ม้าก้านกล้วย)
8 พฤศจิกายน 2545 11:39 น.
ม้าก้านกล้วย
ดาวดวงหนึ่งตรึงไว้ในสำนึก
หากรู้สึกว่าต่ำต้อยด้อยค่านัก
จึงไม่กล้าเอ่ยให้ใครได้รู้จัก
เกรงเป็นเพียงแค่ทึกทักรักน้อยนิด
ก็เจ้าสูงเกินไปในฟ้าฟาก
ก็เจ้าไกลกันมากไม่อยากผิด
ก็เพราะตรมลำพังฝังความคิด
จึงหักรักหักจิตไม่คิดรัก
แค่โบกมืออำลาดาราจรัส
เพียงสลัดฝืนฝันอันหน่วงหนัก
ฝากความคิดถึงไปไกลยิ่งนัก
แค่รู้จักก็เจียมใจไม่พยศ
จะหวังดาวหรือไรไม่เจียมจิต
ใครก็คิดหยามเย้าเราเสียหมด
วอช่อฟ้าหลังหรูดูงามงด
หาญเทียมรถหลวงราชชาติคางคก
จึงไม่คิดหวังดาวเจ้าแวววาด
สวยสะอาดค้างหาวราวกนก
ดินต้อยต่ำเพียงแค่คิดจิตระทก
ดาวไม่ตกจากฟ้ามาเชยชิด
แค่โบกมือตัดบั่นสัมพันธภาพ
หวังเพียงทราบความหลังที่ฝังจิต
ดินค่าด้อยตัดรักหักชีวิต
ขอแค่คิดถึงดินบ้าง . . .หวังเพียงรัก
ม้าก้านกล้วย
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
มิมีดาวดวงใดไกลเกินเอื้อม
แลระเลื่อมตรึงในใจแน่นหนัก
ฟ้าใดเล่าจะกว้างไกลเกินใฝ่รัก
หัวใจนี้กว้างนักรักยังตาม
หากแม้ดาวดวงน้อยนั้นผลอยร่วง
ดินจะห่วงบ้างใหมใคร่ขอถาม
หมดแรงแสงสวยสดไร้งดงาม
เพียงมาตามหารักคืนยังผืนดิน
เป็นเพียงกรวดก้อนหม่นหล่นจากหาว
ใช่เป็นดาวดังก่อนวอนถวิล
สักคำเถิดว่ารักหากได้ยิน
แม้สูญสิ้นทุกสิ่งไร้ไม่หวั่นเลย
jeminine
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
บัดนั้น เชิด
สนานใดไหนเท่าดาวเยือนหล้า
จากฟากฟ้ามาฟากฝั่งดั่งดาวเอ่ย
โชคของดินต่ำร้ายชายเชยเชย
ยอมสังเวยชีพนี้พลีเพื่อดาว
จะพาเธอถากถางทางวิบาก
สร้างวิมานจากซากจากดินด้าว
จะปลูกแตงแฟงฟักถั่วฝักยาว
จะหว่านข้าวขาวหอมยอมตรากตรำ
จะพาชมผลไม้ในแหล่งสวน
จะเชิญชวนล่องไร่ให้ชื่นฉ่ำ
จะก่อกองไฟฟ้อนอ้อนลำนำ
จะพาดำผุดว่ายในสายธาร
จะให้เป็นดาวใจให้แสนสุข
จะปลอบปลุกด้วยเพลงบรรเลงหวาน
จะทัดโสตด้วยมาลีที่เบิกบาน
จะโปรยหว่าน กลีบผกา มาพร่างพรม
บัดนั้น โอด กาเหว่า
ยินกาเหว่า โหยหวน ยวนย้ำเตือน
ฝันฟั่นเฟือน สะดุ้งตื่น ชื่นกลับขม
ดาวยังลอยเด่นดาวให้เฝ้าชม
ได้แต่ก้มหน้ารับกับชะตา
ทางช้างเผือกยังลอยเกินสอยสูง
ดาวยังรุ่งกระพริบพร่างอยู่กลางฟ้า
ฝันไปเองว่าสวรรค์นั้นเมตตา
แต่ดารายังลอยไกลไม่ปรานี
วิมานดินสร้างรอ ก็คงร้าง
ถากและถางนาไร่ไว้เต็มที่
เผยอสูงเกินไปไม่เข้าที
กล้าดี ไฉนจึง จะดึงดาว
(ม้าก้านกล้วย)
7 พฤศจิกายน 2545 14:23 น.
ม้าก้านกล้วย
ม้าก้านกล้วย
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ท้องฟ้าที่ไร้จันทร์คืนวันนี้
ใยยังมีแสงนวลล้วนสว่าง
ฉงนใจจึงมองไปในฟ้ากว้าง
พลันก็พบแถบทางอันพร่างพราว
พาดขวางกลางนภาเวลาค่ำ
บนฟ้าดำดึกดื่นรื้นรอยขาว
กระจุกจุดดารารางเป็นทางยาว
สุกสกาวกว่ากลุ่มดาวที่วาววับ
ทางช้างเผือก ลอยเด่น เป็นแถบสวย
สว่างด้วย แสงขาว ราวประดับ
เกล็ดเพ็ชรแก้ว พราวกระพริบ ระยิบระยับ
ตรึงประทับ ใจกระทั่ง ทรุดนั่งมอง
นึกถึงนวนิยายโศก
ผู้ลาโลกทั้งยังรักหักทรวงหมอง
สัญญาก่อนจากลาน้ำตานอง
จะขอครองคู่นิรันดร์บนชั้นฟ้า
เกษียรสมุทรฤามีที่นัดพบ
ฉันขาดครบคู่ฤดีที่ครวญหา
รอนคู่ร้างใครไร้เมตตา
จะไปหาคนรออยู่เป็นคู่รัก
ขอหลับฝันจะท่องทางช้างเผือกขาว
เผื่อมีสาวสวยสะพรั่งมานั่งดัก
เผื่อพบเนื้อคู่ของตนคนที่รัก
เผื่อรู้จักคนรักฉันนั้นเป็นใคร
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
Jeminine
เธอจะมองเห็นฉันใหมในคืนหนาว
ด้วยดวงดาวนับล้านร้อยคอยส่องแสง
ดาวดวงเดิมในคืนก่อนเริ่มอ่อนแรง
เกินแข่งแสงรัศมีที่วาวแวว
ตรงโค้งขาวดาวพร่างทางช้างเผือก
ดุจด้ายเชือกร้อยแสงเป็นแท่งแถว
สะบัดพริ้วริ่วร่ายไกลเป็นแนว
วับวาวแววบนฟ้ากว้างพริบพร่างพราย
ด้ายสีแดงเส้นน้อยที่ร้อยเกี่ยว
ใครคนเดียว คนนั้น ที่ฉันหมาย
จะพาเขา ก้าวข้ามทาง ห่างแสนไกล
มาพบใจ ใครคนนี้ ที่เฝ้ารอ...
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ม้าก้านกล้วย
ดาวดวงหนึ่งตรึงไว้ในสำนึก
หากรู้สึกว่าต่ำต้อยด้อยค่านัก
จึงไม่กล้าเอ่ยให้ใครได้รู้จัก
เกรงเป็นเพียงแค่ทึกทักรักน้อยนิด
ก็เจ้าสูงเกินไปในฟ้าฟาก
ก็เจ้าไกลกันมากไม่อยากผิด
ก็เพราะตรมลำพังฝังความคิด
จึงหักรักหักจิตไม่คิดรัก
แค่โบกมืออำลาดาราจรัส
เพียงสลัดฝืนฝันอันหน่วงหนัก
ฝากความคิดถึงไปไกลยิ่งนัก
แค่รู้จักก็เจียมใจไม่พยศ
จะหวังดาวหรือไรไม่เจียมจิต
ใครก็คิดหยามเย้าเราเสียหมด
วอช่อฟ้าหลังหรูดูงามงด
หาญเทียมรถหลวงราชชาติคางคก
จึงไม่คิดหวังดาวเจ้าแวววาด
สวยสะอาดค้างหาวราวกนก
ดินต้อยต่ำเพียงแค่คิดจิตระทก
ดาวไม่ตกจากฟ้ามาเชยชิด
แค่โบกมือตัดบั่นสัมพันธภาพ
หวังเพียงทราบความหลังที่ฝังจิต
ดินค่าด้อยตัดรักหักชีวิต
ขอแค่คิดถึงดินบ้าง . . .หวังเพียงรัก
(ม้าก้านกล้วย)
7 พฤศจิกายน 2545 10:09 น.
ม้าก้านกล้วย
ท้องฟ้าที่ไร้จันทร์คืนวันนี้
ใยยังมีแสงนวลล้วนสว่าง
ฉงนใจจึงมองไปในฟ้ากว้าง
พลันก็พบแถบทางอันพร่างพราว
พาดขวางกลางนภาเวลาค่ำ
บนฟ้าดำดึกดื่นรื้นรอยขาว
กระจุกจุดดารารางเป็นทางยาว
สุกสกาวกว่ากลุ่มดาวที่วาววับ
ทางช้างเผือก ลอยเด่น เป็นแถบสวย
สว่างด้วย แสงขาว ราวประดับ
เกล็ดเพ็ชรแก้ว พราวกระพริบ ระยิบระยับ
ตรึงประทับ ใจกระทั่ง ทรุดนั่งมอง
นึกถึงนวนิยายโศก
ผู้ลาโลกทั้งยังรักหักทรวงหมอง
สัญญาก่อนจากลาน้ำตานอง
จะขอครองคู่นิรันดร์บนชั้นฟ้า
เกษียรสมุทรฤามีที่นัดพบ
ฉันขาดครบคู่ฤดีที่ครวญหา
รอนคู่ร้างใครไร้เมตตา
จะไปหาคนรออยู่เป็นคู่รัก
ขอหลับฝันจะท่องทางช้างเผือกขาว
เผื่อมีสาวสวยสะพรั่งมานั่งดัก
เผื่อพบเนื้อคู่ของตนคนที่รัก
เผื่อรู้จักคนรักฉันนั้นเป็นใคร
(ม้าก้านกล้วย)
6 พฤศจิกายน 2545 08:53 น.
ม้าก้านกล้วย
ธรรมชาติสรรค์สร้างและวางบท
ไว้เป็นกฏเกณฑ์บังคับกำกับว่า
สรรพสิ่งสวยงามตามนานา
แต่ทว่าพึงสังวรมักซ่อนพิษ
กุหลาบสวยสดสีจะมีหนาม
คู่ความงามมีภัยแฝงแทงสะกิด
ไม่ระวังต้องระบมคมแผลงฤทธิ์
คงต้องติดบ่วงบาดอาจระกำ
มธุรสเลิศหวานปานน้ำสรวง
ผึ้งทั้งปวงปกป้องต้องล่วงล้ำ
แผดพิษเหล็กไนหวงหน่วงกระหน่ำ
เจ็บจนจำจึงได้ลิ้มชิมรสหวาน
แม้แต่บัวเบ่งบานนั้นว่าหอม
ชวนแมลงไต่ตอมห้อมล้อมร่าน
ใต้ใบหลบกบเขียดมาหาอาหาร
แมลงเหลิงเริงสราญพานต้องตาย
เธอเอง ก็คง จะเช่นกัน
งามเฉิดฉันท์ปานจันทร์อันเฉิดฉาย
คงเคลือบแฝงแอบฤทธิ์พิษอันร้าย
ชวนให้ชายที่หลงเพ้อต้องเผลอตัว
เธอสวยเสียจนชายลืมหายใจ
ลืมว่าอาจซ่อนภัยในสลัว
หวานลาวัณย์จนฉันนั้นนึกกลัว
อาจเผลอตัวเผลอใจไปหลงรัก
ก็ดูดูเธอก็ไร้ไม่เดียงสา
หรือว่ามารยาสาวราวสูงศักดิ์
หลอกให้เราหลงไหลจนใจภักดิ์
แล้วค่อยหักอกให้ตายในภายหลัง
หรือว่าเธอนิสัยดีบริสุทธ์
ใสประดุจฝนใสรินไหลหลั่ง
ระแวงเกินระแวงไกลไปกระมัง
ก็อยากหวังให้เธอหวานไร้มารดำ
สรุปแล้ว ตกลงว่า . . . จะรักเธอ
แม้สุดท้ายจะต้องเจอกับความช้ำ
ยอมเลือกสุขก่อนต้องหมองต้องระกำ
เธอจะทำ ร้ายอะไร ตามใจแล้ว
(ม้าก้านกล้วย)