5 กรกฎาคม 2547 11:50 น.
ม้าก้านกล้วย
ข่าวเต้า หลุดจอ ก่อกระแส
เรื่องเริ่มจากแค่แม่นางหนึ่ง
ทรวงสวยก่อกำหนัดรัดตรึง
รูปจึงแพร่หลายในหมู่ชน
ได้มาทางเมล์เขาเร่แจก
รูปแรกอวดอุ้มทุกขุมขน
ตัดมาแจกจ่ายให้หลายคน
ได้ยลโฉมนางกระจ่างตา
อดเอ๋ย อดรนทนมิได้
รูปถ่ายตะละแม่ แก้ผ้า
ใจเต้น ติ๊ก ตั๊ก หนักอุรา
อยากเอามา แพร่หลาย ให้เพื่อนฝูง
เต้าข่าว เอาไป ใส่ไข่เขียน
นั่งเทียน ว่าร่างน้อง นั้นของสูง
มือกลองกรรมหนัก โดนชักจูง
ทั้งฝูง เขาว่า ไอ้บ้ากาม
หนังโป้ ซุกซ่อน อยู่ค่อนแสน
ภาพแผ่น ตัดต่อ ก็ ล้นหลาม
หมกมุ่น ครุ่นขืน หื่นกาม
ทุกโมงยาม มั่วกำหนัด บัดซบ
สลดเอ๋ย . . สลดใจ คนขายข่าว
เรื่องอื้อฉาว ตีไข่ หลายตลบ
มือกลองต่อไป ใครจะคบ
คงต้องหลบ หนีหน้า ประชาชี
โทษที่กองถ่ายไม่กล้าแตะ
โทษแพะก็เหมา เอาแถวนี้
โทษนั้นจำจองเพียงสองปี
โทษที่ ประจานข่าว เอาที่ใคร
2 กรกฎาคม 2547 00:22 น.
ม้าก้านกล้วย
ไฉนวันแห่งความสุขสำราญ
จึงผลัดผ่านพ้นไปไวนักหนา
ไม่ทันรับลึกซึ้งให้ตรึงตรา
มาด่วนลาโหยหาไม่น่าเลย
เสพคราวสุขเพียงเสี้ยวประเดี๋ยวหาย
เหงาละลายล้นใจใครเฉลย
ร่วมระเริงสุขส่งและลงเอย
ดั่งคำเปรยธาราไหล ไม่จีรัง
วันที่สองเราร่วมเริงสราญ
อยากให้นานเนิ่นไว้เท่าใจหวัง
จะเหนี่ยวโลกดึงฉุดให้หยุดยั้ง
จะฝากฝังนาฬิกาอย่าด่วนเดิน
เพราะอยากจะจ้องหน้ามากกว่านี้
อยากจะมีวันหวานให้นานเนิ่น
ใคร่ประคอง . .เพราะรัก . . มากเหลือเกิน
หวังจะเพลินเวลารักซักร้อยปี
ใยถนนร่วมทางระหว่างเรา
จึงไม่เนานานไกลไปกว่านี้
ตั้งใจจะถักทอ ก่อไมตรี
ให้มากมียิ่งกว่า หาไหนปาน
แต่แล้ววินาทีที่ต้องจาก
ฉุดกระชากคืนวัน ฝันเคยหวาน
ตกกระจาย กลายกระเด็น กระเซ็นซ่าน
เหลือวันวานไว้ในใจให้จดจำ
ไม่อาจเปลี่ยนแปลงใดใดได้
เพียงขอให้เรามีเราทุกเช้าค่ำ
มั่นสัญญาเมื่อคราสุขทุกทุกคำ
ให้รักค้ำจุนใจแม้ไกลกัน
(ม้าก้านกล้วย)
11 มิถุนายน 2547 15:37 น.
ม้าก้านกล้วย
เจ้าแก้ว ดาริกา ของข้าเอ๋ย
ข้าขอเชยชมดาวสกาวหรู
ยามนี้เหลือบเหลืองรื่นมาชื่นชู
แต่เช้าตรู่ดาวลอยค่อยลางเลือน
คราวที่ข้าโรยล้าเพราะราร้าง
ดาวคอยข้างเคียงข้ามาเสมือน
ประดุจมิตรนำชักคอยตักเตือน
ประหนึ่งเหมือนกล่อมใจให้บรรเทา
เจ้าปลอบประโลมข้ามาทั้งคืน
ผู้ต้องตื่นตรมใจได้คลายเหงา
ผู้กล่อมกอดยอดชู้อยู่แค่เงา
และเก็บเอาความระทม มาบ่มฟัก
หลังจากรอนร้าวรั้งอยู่ตั้งนาน
หลังจากการบาดหมางอย่างแตกหัก
ไร้ทั้งคู่ คนรู้ใจ ไร้ทั้งรัก
พอได้พักใจร้าว กับดาวลอย
เด็ดหยาด น้ำตา อำลาโศก
ลืมโลกเลือน รัดทด แล้วปลดปล่อย
ชะเง้อมอง ม่านดาว เจ้าเลื่อนลอย
เจ้าเคลื่อนคล้อย อย่างช้าช้า ทว่างาม
โอ้เจ้าแก้วดาริกา. . .
ถึงครา ต้องอำลา ราตรีหวาม
อรุณร้อน เริ่มแรงรุก ทุกโมงยาม
แต่ความ ระลึกถึง พึงเพิ่มพูน
พักผ่อน เถิดดาว เมื่อคราวรุ่ง
อุ่นในอุ้ง อ้อมกระหวัด หัตถ์แห่งสูรย์
จนกว่า เบื้องจันทรา มาจำรูญ
รอเกื้อกูล ดาริกา ณ ครานั้น
(ม้าก้านกล้วย)
3 มิถุนายน 2547 13:53 น.
ม้าก้านกล้วย
อัศจรรย์ฟ้ามัวระรัวแลบ
อสุนีปลาบแปลบแทบจะคลั่ง
อกณิษฐ์คลุ้มคลอนรอนบัลลังค์
อคาธพลั้งร่วงพลัดกระจัดกระจาย
รติคลุมครอบล้วน ฤาควรเร้น
รชนิกรเด่น บ่เผ่นผาย
รชะพลุ่งคลุ้งคาดแม้วาตวาย
รณรายรวบรัดกระหวัดนวล
วธกผู้โหด ดูโกรธเกรี้ยว
วจีเฉี่ยว โฉดกระชาก สำรากร่วน
วธุน้องรองร่าง กลางรัญจวน
วปุป่วนปั่นไป ไร้ประดี
จะกรัดจะกราด ดึงดัน อันต่อต้าน
จริตจะก้าน แรงร้อน ช้อนฉวี
จะกละจะกลาม ชมชิม รสฉิมพลี
จะบันจะบี้ เบียดบด รสกามา
ปราศฤทธิ์ แล้วเพราะหลง อนงค์ขวัญ
ปฏิยุทธ โรมลั่น ถึงชั้นฟ้า
ประเดี๋ยวหนึ่ง ค่อยคลาย ค่อยไคลคลา
ประดุจว่า พายุโหม แล้วโทรมทรุด
คคณา ฟ้าอำพร ผ่อนอำพัน
คณนา รสสวรรค์ จะพลันหยุด
คนองบท จรดจบ เพื่อพลบรุจน์
คะนึงนุช ตราบตาย มิวายรัก
26 พฤษภาคม 2547 22:24 น.
ม้าก้านกล้วย
หากว่าเธอเป็นท้องฟ้า
ฉันคงเป็นได้แค่ดอกหญ้าเท่านั้น
ที่ไม่มีสิทธิ์ได้ใกล้ชิดหรือผูกพัน
ด้วยว่าเราไกลกันเหลือประมาณ
หากว่าเธอเป็นพระอาทิตย์
ฉันก็คงไม่มีอิทธิฤทธิ์หรือกล้าหาญ
ที่จะเข้าใกล้ได้อุ่นไอในดวงมาลย์
มีแต่จะแหลกรานจากพระอาทิตย์ที่ร้อนตระการเช่นเธอ
หากว่าเธอเป็นดั่งพระจันทร์
ฉันคงไม่มีสิทธิ์จะฝันหรือพร่ำเพ้อ
เพราะพระจันทร์แสนสวยและเลิศเลอ
ทำให้ฉันเป็นได้เสมอแค่กระต่ายที่หมายจันทร์
ผู้หญิงไร้เงา
ดั่งปีนป้อมพันธนามาขวางไว้
สูงเกินไปเสมอ เธอและฉัน
ไม่ใช่สูรย์หรือ นภา แม้ว่าจันทร์
ช่างห่างกันเกินจริง ยิ่งกีดขวาง
สิ่งที่ต้องการ ทุกลมหายใจ
ลดเงื่อนไข เปิดใจให้กันบ้าง
ทุกเวลานาทีมิเว้นวาง
หวังจะสร้างมิตรภาพตราบวันตาย
แต่พบกำแพงจิตนาการ
เหมือนม่านบดบังตนจนแพ้พ่าย
เธอสร้างเกราะ สิ้นหวังกำบังกาย
และเร้นร้าย หลอกตัวเอง ว่าเกรงช้ำ
อยากจะแกะปมเงื่อนเพื่อเลือนโศก
จะเปิดโลกความจริง ยิ่งดื่มด่ำ
ยังมีหลายมุมมอง ลองกระทำ
และจดจำวันดีดีอย่างนี้ไว้
จะมิเหิน ห่างกัน แม้วันหน้า
จอเธออย่า บิดเบือนด้วยเงิ่อนไข
ฉันพร้อมจะก้าวย่างข้างคู่ใจ
ตลอดไป ไม่ขอไกล ไปจากเธอ