5 มกราคม 2545 21:21 น.

กล่อมนางนอน

ม้าก้านกล้วย

จะเอื้อมดารารายเป็นสายสร้อย
มาร้อยสรวมศอห้อยจี้จันทร์ฉาย
ทางช้างเผือกทำสไบใช้ห่มกราย
เอาหมอกสายเป็นนวมรองให้น้องนวล
เอาราตรีที่วังเวงเป็นเพลงกล่อม
ในกระท่อมกลางไพรเรไรหวล
กลิ่นพยอมดอกน้อยลอยอบอวล
ท่ามกลางมวลหมู่ผกาพนารมณ์
มีแค่เพียงสองเราในโลกกว้าง
สรรสร้างความฝันอันสวยสม
พิศเจ้างามนงรามยามบรรทม
เนตรเจ้าคม แม้นหลับไป ใจยังจำ
หลับเถิดเจ้า อันตัวพี่ นี้คอยป้อง
มิให้แก้มนวลน้อง หม่นหมองคล้ำ
ยุงเหลือบ ริ้นไร จะกรายกล้ำ
มันต้องย่ำ ศพพี่ นี้ข้ามไป
ดึกดื่น คืนสงัด ลมสงบ
เดือนหลบ เร้นลง ตรงแนวไม้
แม้นไร้จันทร์ พักตร์อันแจ่ม เพียงเดือนพราย
ยังคงฉาย แสงอร่าม ยามรุ่งราง
กาเหว่าร้องลั่นป่าว่าเช้าแล้ว
ไก่ขันแจ้วแว่วมาเมื่อฟ้าสาง
รอค่อนคืน เพียงพบ สบเนตรนาง
จนสว่าง เพียงคอย แค่รอยยิ้ม 
    (ม้าก้านกล้วย)--				
3 มกราคม 2545 21:21 น.

ร่าย บรรยายเพลงไท

ม้าก้านกล้วย

(ร่ายโบราณ)
 มาจะกล่าวบทไป เรื่องเพลงไทพื้นบ้าน นับเนื่องนานกว่าเนิ่น
ตามดำเนินเรื่องไป จะขอไขขานคำ ไว้เป็นทำนองร่าย
เพื่อจะได้จารึก ไว้ให้ตรึกตรองจำ ไว้ให้ทำตามดู ดังมี

สุโขทัยธานี มีเพลงเล่นมากมาย สาธยายไล่ลด ก็มิหมดมิสิ้น
เช่นเคยยินฟังมา ว่าเพลงพิษฐาน จะขับขานเกี้ยวกัน
เล่นตามบันไดโบถส์ ฤาเอื้อนโอษฐ์เพลงแหล่ ล้วนมาแต่เมืองเดิม นั้นนอ

ลานนาเล่นเพลงซอ ค่าวคะยอคะยั้น นั้นเป็นเพลงโบราณ
ตามสถานทั่วไป ล้วนเล่นได้สนาน ล้วนคำอ่านคำอ้าง 
บทจะวางไว้วน แล้วให้คนร้องแก้ แพ้ชนะตามใจ ใคร่ทำ

อันลุ่มราบน้ำต่ำ ลำนำเจ้าพระยา มีบรรดาเพลงร้อง
พ้องตามกาลเล่น เช่นเพลงพวงมาลัย คล้ายกับเพลงลำตัด
ล้วนจะหัดเพลงฉ่อย มีไม่น้อยท่าที เพลงแม่ศรีแม่สาก สิงสู่

ครั้นจะดูทักษิณ ถิ่นเพลงโนราร่ำ ชอบจำทำเพลงบอก
จำจากนอกก็มี เช่นบารนียีเก ไททะเลร้องเล่น
หรือจะเป็นรองเงง เคยบรรเลงเคยหัด เคยร้องซัดชาตรี นี้แล

ไททางลุ่มลำโขง ล้วนจรรโลงเผยแพร่ ล้วนแต่เพลงกลอนลำ 
ทำนองเพลงตังหวาย ได้ลำเรื่องต่อกลอน หรือว่าวอนกันตรึม
พึมพนำเพลงเต้ย  ก็ได้เคยฟังอยู่ ล้วนได้ดูได้ชม  ซั่นดอกวา  
 
เหิงแต่เดิมนานมา เรามีวาระเล่น เช่นว่าเพลงเกี่ยวข้าว
หรือคราวเซิ้งบั้งไฟ ก็จะไปร่วมร้อง ตามทำนองเกราะกรับ
ล้วนจะขับขานคำ ทำเป็นคนต่อแหล่ เป็นพ่อเพลงแม่เพลง รุยราย 

ขอให้รุ่นใหม่ จำไปใช้บ้าง นำไปใช้บ้าง 
เพื่อจะวางแบบแผนให้ คนไทในภายหน้า เออ
คนไท ในภายหน้า  ได้รักษาวัฒนาต่อไป  เป๊กพ่อ 
              -(ม้าก้านกล้วย)-				
1 มกราคม 2545 21:36 น.

คิดคี คิดร้าย

ม้าก้านกล้วย

ความแตกต่างและคล้ายคลึงระหว่างคำ
เหมือนจะย้ำเตือนไว้ให้ได้คิด
บ้างว่าดี บ้างร้าย คล้ายสะกิด
ตรองสักนิด ดูสักหน่อยค่อยคล้อยตาม
ใครก็ว่าคนซื่อ คือคนโง่
เขลาเหมือนโคถึกทึ่ม ขรึมวางก้าม
ยอมทนให้คนใช้ไปแบกหาม
ยอมทำตามไม่โต้ถากปากเสียงแย้ง
บ้างก็ว่าเป็นเรื่องอนุรักษ์
ไม่หาญหักไม่โหมให้ใครหน่ายแหนง
ก็ยังถาก ว่าดักดาน พาลตระแบง
กว่าจะแจ้งไล่เรียง ต้องเถียงกัน
จะทำการบางอย่างพลางตั้งใจ
ทุ่มเทให้ หมดตัวไม่กลัวหวั่น
พวกปากร้าย ว่าดันทุรังกัน
ลองจะรั้นมองโลกได้ แง่ร้ายลง
แม้นหากรักมากมายทุ่มใจหมด
เหมือนกำหนดเขาว่าไว้ว่าไหลหลง
คนปากกล้าหาว่าปากพาจน
ใครกล้าชนเผชิญหน้าก็ว่าควาย
เหมือนกระจกสองหน้าขนานกั้น
มีดีชั่วคู่กันคันฉ่องฉาย
จะพูดดีก็ดีมากปากเป็นนาย
จะพูดร้ายก็ร้ายสิ้นลิ้นละเลง

-    (ม้าก้านกล้วย)   -				
1 มกราคม 2545 15:07 น.

พระธาตุมงคล 12 นักษัตร

ม้าก้านกล้วย

ร่ายกลอนสรภัญ มากำนัลแก่สหาย
สาระหลากหลายราย ลำเลียงเล่าให้เจ้าฟัง
โบราณนั้นมีมนต์ เรื่องราวดลเป็นมนต์ขลัง
จะเสริมชะตาตัน ให้ไปวันทาเจดีย์
มงคลของขวบครบ ตามบรรจบจักรราศรี
ดอกไม้ทั้งหลายมี ธูปเทียนนี้นบบูชา
ปีชวดไปไหว้ที่  พระธาตุศรีจอมทองทา
เชิงดอยยอดอ่างกา อินทวิชชยานนท์
พระธาตุลำปางหลวง ของปวงฉลูคู่ตน
ตั้งใจให้ดั้นด้น  ไปบูชาผลาหาร
ช่อแฮ เมืองแป้ปู้น  คู่ขวัญคูณ ค้ำปีขาล
เล่ามาก็ช้านาน ตามโบราณจารึกกลอน
ปีเถาะจงเลาะเรียง ไปเมืองน่านกันดารร้อน
ธาตุแช่แห้งแสงซ้อน จะได้พรได้พลัง
มะโรงวัดพระสิงห์ มะเส็งกริ่งไกลเกินหวัง
พุทธคยาตั้ง อยู่แดนไกลในอินเดีย
ธาตุชะเวดากอง มงคลของปีมะเมีย
นบไหว้ตั้งใจเสีย แม้นอยู่ไกลใจเคารพ
ดอยสุเทพข้างเวียง โดยเผดียงครรลองครบ
เวียนใหว้มาหลายจบ ธาตุแห่งศรี ปีมะแม
ปีวอกปีกบิล คงเคยยินบ้างแน่แท้
ธาตุพนมมาแต่ เมืองเรณูนพนคร
ระกามาลำพูน  หริภุญชัยบัญชร
มาลามาลัยอ่อน ขอพรเอาอำนวยมี
ปีจอก็มิช้า ธาตุมหาจุฬามณี
เกตุการามนี้ เมืองเชียงใหม่ ในเวียงพิงค์
สุดท้ายถึงปีกุน เหมือนมีบุญอันใหญ่ยิ่ง
ดอยตุงขององค์หญิง แม่ฟ้าหลวงของปวงราษฎร์
เอ่ยมาตามนักษัตร ตรงตามวัตรมิได้ขาด
แม้นทำใจสะอาด ไปไหว้สา หามงคล
      -ม้าก้านกล้วย-				
1 มกราคม 2545 00:14 น.

แม่ปิงกับสาวล้านนา

ม้าก้านกล้วย

แม่ปิง ไหลหลาก ละลิ่วล่อง
จากช่อง ออบแอ่ง แก่งดอยผา
หล่อเลี้ยง หลากหล่าย หลายล้านนา
กว่าจะมา เลาะลัด ละลานเมือง
ยามที่หมอก เหน็บหนาว ละล่องลอย
นึกถึงน้อย ไจยา ประสาเซื่อง
อาลัยรัก ร่ำให้ ใจขุ่นเคือง
ซึ่งเป็นเรื่อง เล่าขาน มานานนัก
คิดฮอดสาว เครือฟ้า ที่ร้าวราน
คิดถึงครู บัวบาน ผู้พลั้งรัก
ยอมพลีกาย ยอมตาย ให้ประจักษ์
แม้จะหัก หาญใจรอน อย่าห่อนทำ
สาวเหนือ ใจสูง ดังยอดดอย
รักพล่อย รักเล่น เข่นกลืนกล้ำ
รักแล้ว หลอกลวงให้ ใจชอกช้ำ
ขออย่านำ มาเสนอ ให้เธอเลย
กาสะลอง จะผลิ จะบานสวย
เกตถวา จะระรวย ละอองเหมย
คำปู้จู้ จะเลิศล้ำ ดั่งคำเชย
หอมไก๋ ไพรรำเพย ตามสมควร

แม่ปิง ไหลหลาก จากลานนา
ไหลมา แล้วลับ มิกลับหวน
เช่นความสาว แสนหวาน นั้นเย้ายวน
ลองใคร่ครวญ ให้จงหนัก จะรักใคร
ยินสะล้อ ซึงแผ่ว แว่วค่าวเพลง
กล่อมบรรเลง ล้านนา มาแต่ไหน
ล้วนหองนวล หวงนาง ช่างกระไร
แล้วใยเจ้า มิจำ ตำนานรัก
หันปู้อ้าย เปิ้นล่อง มาแอ่วหนาว
มาอู้อวด เงินเอา กระเป๋าหนัก
หันเฮาง่าว หื้อจุ๊เอา เขลาเสียนัก
หื้อเปิ้นหัก เพราะหลงลม คำเปิ้นลวง
แล้วเปิ้น ก็ปิ๊ก บ้านไป
หลังจากได้ ชื่นชมสิ่ง หญิงแหนหวง
แล้วลูกหลาน ล้านนา ก็ถูกลวง
เป็นเจ้าดวง ดอกไม้ ที่ชายทิ้ง
   -   (ม้าก้านกล้วย)   -				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงม้าก้านกล้วย