13 มกราคม 2545 22:33 น.
ม้าก้านกล้วย
ที่ผ่านมา งานเร่ง รัดเหลือเกิน
ไม่ได้เพลิน ใจพัก สักเท่าไหร่
วันนี้ว่าง พอดี พี่เต็มใจ
พาน้องไป เอนกาย คลายดวงมาลย์
จะชักชวนเจ้านอนเปลญวนสาย
แล้วแกว่งไกวโยกย้ายให้ฝันหวาน
ฮัมเพลงซึ้ง กล่อมเจ้า เล่านิทาน
เรื่องตำนาน ผ่านร้อยพัน อันอำนวย
เสกท้องฟ้า เป็นห้อง ท้องพระโรง
ดาราโยง เป็นโคมฉาย แสงสลวย
หมอกระเรื่อ เกลื่อนไอดิน กลิ่นระรวย
ยอดหญ้าช่วย บังใบร่ม เป็นพรมพื้น
เอาเมฆาแต่งเป็นตัวละคร
แต่ละก้อนแต่ละหมู่ดูดาดดื่น
ให้เป็นพระ เป็นนาง พลางครึกครื้น
ให้เจ้าสม อารมณ์รื่น ตื่นตาชม
โน่นเป็นยักษาใหญ่ที่ใจร้าย
มันมาตรหมาย อาละวาด พิฆาตข่ม
แล้วโน่นไง พระเจ้าตา ในอาศรม
มาอบรม พระเอกเรา เอาชนะ
สอนมนต์ สยบมาร ราญยักษ์ใหญ่
รากษส พ่ายไป ไม่ยี่หระ
มานพหนุ่มแกร่งอาคมกลมภะ
จึงคิดจะพานางไปนั่งเมือง
และพำนักระหว่างทางระหว่างไพร
แล้วผูกเปล สายไกว ไว้เล่าเรื่อง
เช่นพี่นี้ ผูกใจเร้า แม้นเจ้าเคือง
ที่พี่เพ้อ เฟ้อเฟื่อง จงอย่าฟัง
นอนซะเจ้า นอนเถิด เสียนะเจ้า
ให้หลับฝันเรื่องราวที่เจ้าหวัง
ให้ตื่นมาสู้โลกนี้ อย่างมีพลัง
แค่พี่นั่ง แกว่งเปลให้ พอใจแล้ว
(ม้าก้านกล้วย)
12 มกราคม 2545 23:31 น.
ม้าก้านกล้วย
(กลอนเสภา)
ไหลหลาก จากแดน กันดารไกล
ชะไช ฝุ่นดิน ถิ่นแล้งล้า
ไกลก้ำ กวาดกลืน กัดกร่อนกล้า
หินผา แกร่งกรัง ยังทะลาย
จึงเป็น สีปูน ขุ่นคละคั่ง
สองฝั่ง เก็บกรัน ตะกอนไว้
อุดม สมบูรณ์ พูนสันทราย
หลากหลาย ไพรพันธุ์ นั้นเนืองนอง
กว่าร้อย ร่วมร่าย สายนที
ผ่านสี่ พันดอน ก่อนจะล่อง
แบ่งพรม แดนตั้ง ฝั่งพี่น้อง
สิบสอง พันนา ห้าหัวพัน
จึงได้ สมญา ว่าล้านช้าง
นที กว้างขวาง สร้างแนวกั้น
จำแนก แดนลาว เขาผีปัน
กันล้าน นาเพียง เวียงกามกุม
ครั้นกลาย เป็นผอง สองประเทศ
แบ่งเขต ลาวเทิง อีสานลุ่ม
ป่าเขา แผกเผ่า เข้าเกาะกลุ่ม
ประชุม หมู่ชน บนเส้นธาร
ไหลหลาก จากแดน กันดารนัก
น้ำโขง สายหลัก ไทอีสาน
สีปูน ขุ่นข้น ปนฝุ่นซ่าน
ร้อยคำ ตำนาน ล้วนเอ่ยนาม
(ม้าก้านกล้วย)
7 มกราคม 2545 23:02 น.
ม้าก้านกล้วย
ตัวพี่นี้หวังปองน้องมานาน
ไม่กล้าหาญเพียงพอจะขอรัก
เฝ้ารวบรวมความกล้ามาหน่วงหนัก
จะบอกรักวันนี้ดีไหมนะ. . .
สรรคำร้อยพันมาปั้นแต่ง
ก็สิ้นแรงลิ้นลมประสมสระ
หยิบหนังสือพิมพ์ข่าวเอามาคละ
แล้วกางกะรวมคำกระทำการ
จะฉุดคร่า เข้าป่า แล้วบอกรัก
พอทายทักแล้วล่าถอยปล่อยกลับบ้าน
จะรวบรวมมิตรมาประชาพิจารณ์
ตั้งกรรมาธิการชำนาญกิจ
แม้ไม่ได้รับ รายงาน การก้าวหน้า
ต้องเร่งมาวิสามัญจำนรรจ์จิต
จัดระเบียบสังคมใหม่ ให้ใกล้ชิด
แล้วก็คิดการใหญ่ ให้เธอยอม
ดูดัชนีดาวโจนส์ และหั่งเส็ง
มิหวั่นเกรงสั่งคอมมานโดล้อม
จับหัวใจเธอให้ได้โดยละม่อม
แม้นเธอยอมรับรักจักยินดี
ไม่ขอแทรกแซงกิจการภายในใจ
จะอย่างไรขอให้เชื่อใจพี่
ยอมผิดพลั้งอย่างจำนงประสงค์ดี
จะยอมพลีทั้งตัวและหัวใจ
แม้ส.ส.รัฐบาลท่านยังรวมพรรค
แล้วเจ้าจัก มิรักพี่ ฤาไฉน
มาดีดี มารับไมตรีไป
อย่าให้ต้อง ยุบสภา ไปหาเธอ
- (ม้าก้านกล้วย) -
6 มกราคม 2545 16:19 น.
ม้าก้านกล้วย
เคยสัญญากับลูกไว้ ในวันเด็ก
จะพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวบ้าง
พ่อทำงานขับรถล่องต้องจำห่าง
แล้ววันว่างอยากกลับมาพาลูกไป
วันนี้ วันเด็กแล้ว ยังไม่ว่าง
หากหนทางห่างกว่าไปหาได้
แต่สัญญาพันผูกลูกผู้ชาย
ยอมเร่งรวดงวดสุดท้ายจะได้พัก
ส่งของเสร็จแล้วต้องรีบล่อง
ไม่มองซ้ายขวาล่าเลยนัก
แม้นข้างหน้ากันดารมีด่านดัก
กูจะหักด่านไปให้ท่วงทัน
ยอมอัดยาบ้าใช้ให้ตาตื่น
ดึกดื่นแค่ไหนแม้นใจสั่น
ไม่หยุดรถเหนื่อยล้าลงเริ่มงงงัน
ยานั้นช่วยไว้ไม่ให้ทรุด
ถึงเมืองล่วงเลยไปบ่ายกว่ากว่า
ไฟแดงข้างหน้าขวางไม่ยั้งหยุด
ปาดซ้ายแซงขวาคราเร่งรุด
อุตลุดจนพลาดเกี่ยวเฉี่ยวข้างทาง
โดนเด็กขายพวงมาลัยเข้า
โอเจ้าโชคร้ายใยมาขวาง
ต้องรีบไปจำใจข้าไม่ว่าง
แต่ในรางเลือนสุดท้ายคล้ายลูกเรา.
- ( ม้าก้านกล้วย ) -
6 มกราคม 2545 16:19 น.
ม้าก้านกล้วย
จะวันเด็กหรือวันไหนไม่เคยได้เล่น
ต้องมาเป็นคนโศกเหมือนโชคแกล้ง
ขายดอกไม้พวงมาลัยตามไฟแดง
เงินที่แบ่ง ปันได้ เอาให้แม่
เป็นเด็กน้อยกลางสลัมน้ำครำเหนียว
เพียงเศษเสี้ยวเงินเหลือเขาเผื่อแผ่
อดสูสู้ทนคนรังแก
มีกินแค่วันต่อวันพอกันตาย
พ่อเป็นคนเร่ขับสิบล้อ
ส่วนแม่ก็เก็บขวดถุงขยะขาย
นานนานทีพ่อจะมาหาลูกชาย
ก็เมามายทะเลาะด่าท้าตบตี
วันนั้นพ่อสัญญาจะพาไป
เที่ยวได้ตามพอใจในทุกที่
แล้วก็ถึงเวลามาวันนี้
วันเด็กที่ใครใครได้แสดง
ป่านนี้ พ่อยังไม่มา
ได้เวลาไปเร่ขายมาลัยแผง
สิบล้อบึ่งกระแทกแหกไฟแดง
ปาดแซงเฉี่ยวเจ้าเข้าเต็มรัก
วูบสุดท้ายเด็กชายได้เห็นพ่อ
ก่อนจะท้อทอดกายคลายกระอัก
ร่างร่องแร่งปานเชือดเลือดทะลัก
ไม่ทันทัก ทายพ่อ เจ้าก็ตาย
- (ม้าก้านกล้วย)--