26 เมษายน 2546 22:37 น.
ม้าก้านกล้วย
ช่อเอยช่ออัญชันพันรั้วไผ่
ทั้งพุ่มใบแน่นหนาพากันชื่น
เบ่งช่อบ่งส่งช่อดอกออกดกดื่น
เลื้อยพันผืนยื่นพันพวงมาควงคลอ
ม่วงก็ไม่ เหมือนม่วงหม่น ปนสีเหลือบ
ครามก็เคลือบ แซมขาว พราวทั้งช่อ
แม้นมิโชย กลิ่นขจร อ่อนละออ
กลีบก็ล้อ ใจรวน ชวนละเมอ
แม้นหนึ่งดอก ออกดาดดาด อาจไม่เด่น
หากแต่เป็น เล่ห์สลอน ซ้อนเผยอ
หลงเสน่ห์ ช่อสล้าง พลางพร่ำเพ้อ
แทรกเสนอ ทรวงสนาน หว่านสกล
เก็บดอกเกลื่อน มาพะนอ ก็กระไร
เมื่อดอกใหม่ ก็แย่งแย้ม แกมฉงน
แลละลาน บานระบาย คล้ายจะดล
กล่อมกมล จนฉ่ำชื่น รื่นสราญ
ไม่นึกเลย จะลุ่มหลง ดงดอกม่วง
เล่ห์ใดลวง หรือมนตรา มาเสกสาน
ต้องคำสาป เป็นภู่ผึ้ง ซึ่งร้าวราญ
และต้องการ มธุธาร หวานบำเรอ
ตรึงตราช่อ อัญชัน อันโดดเด่น
ราวจะเป็น ภักษา มาเสนอ
มิอาจเลี่ยง หลบได้ ร่ายละเมอ
ราวได้เจอ สิ่งที่ใจ หวังไว้นาน
(ม้าก้านกล้วย)
25 เมษายน 2546 19:42 น.
ม้าก้านกล้วย
เมฆจ๋า ไม่เห็นหน้า ตั้งนาน
ล่องลอยผ่าน ลมบน อยู่หนไหน
กระจายคลี่ คลุมฟ้า นภาใด
หายไป ไร้วี่แวว ลืมแล้วหรือ
ฉันฝากให้ เฝ้าใคร ไว้คนหนึ่ง
ความคิดถึง ที่มากมาย จากใจสื่อ
คนที่เคย กอดประคอง ด้วยสองมือ
คนที่คือ ทั้งหัวใจ ก็ไม่ปาน
ฉันจากมา ทางนี้ ไม่มีเมฆ
ฟ้าวิเวก ลมวังเวง บรรเลงผสาน
ดวงดารา ระยับตา น่าร้าวราน
เมฆไม่ผ่าน เอาห่วงใย ไปส่งเลย
ร้อนเร่า ไม่เทียบเท่า กมลห่วง
ถ้อยทั้งปวง ฝากจากใจ ไปเปิดเผย
คำซ้ำซ้ำ ซึ้งละมุน ซึ่งคุ้นเคย
กระไรเลย ไม่สนใจ ไม่นำพา
เมฆเอ๋ย จำได้ไหม ใครร้องขอ
ให้ช่วยต่อ สายสัมพันธ์ วันห่วงหา
ให้เชื่อมใจ สองผู้ห่าง อย่าร้างรา
ไม่รู้ว่า คนทางนั้น เป็นฉันใด
คนทางฟาก ฟ้านี้ มีแต่หวัง
เพียงพลัง ของคิดถึง จึงฝันใฝ่
สักวันหนึ่ง จะข้ามฟ้า มาปลอบใจ
จะเนิ่นนาน เพียงใด ใจยังรัก
(ม้าก้านกล้วย)
24 เมษายน 2546 19:06 น.
ม้าก้านกล้วย
เธอ รู้ไหม ใจฉันนั้นใจน้อย
เธอให้คอยเช้าค่ำกับคำมั่น
คำสัญญาที่กำลังจะฆ่าฉัน
คำรำพันวันวานพาลถูกลืม
ก่อนเธอลาจากมาหาความจริง
ก่อนทุกสิ่งจะจบลงตรงปลาบปลื้ม
ก่อนบอกกันมั่นใจให้ด่ำดื่ม
ก่อนหยิบยืมคำหวานมาพรรณา
จะจากกันเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวก็กลับ
ไม่ลาลับจงรอเพราะโหยหา
จะฝากลมฝากเมฆินทร์ฝากดินฟ้า
ไม่เกินกว่าอึดใจจะใกล้ชิด
แต่แล้วก็ห่างหายกลายห่างเหิน
เหมือนเธอเมินมิกังวลคนสนิท
ที่เคยเอ่ยว่ารักมากฝากชีวิต
ใยไม่คิดว่าคนรอ จะท้อใจ
ลืมแล้วกระมังว่าสัญญามั่น
ลืมคืนวันหยอกเย้าเอาใจใส่
ลืมก้อยเรียวเกี่ยวคล้องสองหัวใจ
ลืมว่าใครถูกทิ้งร้างท่ามกลางฝัน
จมน้ำตากับสัญญาว่าจะกลับ
แล้วลาลับลืมเลยเคยสุขสันต์
กลับกลอกกันเกินไปไม่ผูกพัน
เหลือแต่ฉันกับสัญญาบ้าบ้าบอบอ
(ม้าก้านกล้วย)
23 เมษายน 2546 18:54 น.
ม้าก้านกล้วย
ความรักเขาว่ามาว่าเหมือนฝัน
ด้วยรักนั้นบันดาลดลกมลหวาม
เพราะรักชักจูงใจให้สวยงาม
และรักตามกวนใจให้ครุ่นครวญ
เป็นห้วงหรรษาสุขทุกย่างก้าว
อุ่นไอผ่าวราวผสานสำราญสรวล
ทิพชลชโลมชุ่มนุ่มและนวล
ดั่งอบอวลมวลมาลีที่หอมเย็น
ให้สูดดมชมกรุ่นดรุณกลิ่น
จะโบยบินผ่านยุคอันทุกข์เข็ญ
อาบละอองของวิมานซ่านกระเซ็น
และก็เป็นพลังใจให้เต้นรัว
เป็นเชื้อชุบชีวามาโลดแล่น
เปรียบแม้นแสงสะอาดปราศสลัว
ยุยงให้ลุ่มหลงลงพันพัว
ลืมตัวลืมตายได้ทุกครั้ง
เขาว่ามาฉันใดไม่เคยทราบ
ฉันเข็ดหลาบขลาดหัวใจไม่เคยหวัง
มิรับรู้รักว่าเยี่ยมเปี่ยมพลัง
เพราะใจยังอ่อนเยาว์เขลาและกลัว
กังวลว่ารักแรกจะแตกต่าง
ด้วยคำอ้างโอ่เอาเย้าหยอกยั่ว
เกินความจริงเกินไปใจจึงกลัว
ได้แต่มัวลังเลใจไม่กล้ารัก
ม้าก้านกล้วย)
21 เมษายน 2546 21:02 น.
ม้าก้านกล้วย
แปรปรวนเหลือเกินแล้วฤดูกาล
เพียงวันวานที่ฝนหล่นจากฟ้า
วันนี้ร้อนรุมเร่าเผาอุรา
มิรู้ว่าพรุ่งพลันจะฉันท์ใด
ดูเหมือนจะแกล้งทั้งแล้งฝน
ให้ใจเราวกวนจนหวั่นไหว
จะหนาวแล้งหรือฝนหลั่งกังวลใจ
ฟ้าจะมาไม้ไหนไม่รู้เลย
เหมือนดั่งฤดูกาลพาลหลอนหลอก
สัพยอกหยอกเย้าเอาแต่เฉย
เหมือนโลเลไม่จริงใจไม่คุ้นเคย
ไม่สนเลยว่าคนรอจะท้อใจ
อยากให้ฟ้าฝนนั้นหล่นมา
อยากจะเห็นนภาฟ้าสดใส
หากจะหนาวเย็นเพราะฝนมาดลใจ
ไม่เป็นไรไออุ่นเรากรุ่นพอ
แม้นจะแล้งขอจงแล้งอย่างแกร่งเก่ง
ดอกไม้เบ่งเบิกบานร่านลมล้อ
กระพริบพราวน้ำค้างพร่างพนอ
สะบัดช่อตามฤดูหรูระบาย
อย่าแปรเปลี่ยนรวนเรเที่ยวเร่ร่อน
ให้รู้ไว้ใจอ่อนอ้อนวอนไหว้
อย่าปรวนแปรเรื่อยไปนะใจร้าย
ขอความหมายแห่งเวลากลับมานะ
(ม้าก้านกล้วย)