28 กรกฎาคม 2549 15:06 น.
ม้าก้านกล้วย
Desert Rose
Why do you live alone
If you are sad
I'll make you leave this life
Are you white, blue or bloody red
All I can see is drowning in cold grey sand
กุหลาบงาม ท่ามแล้ง แห่งทรายผง
เจ้ายืนยง อยู่เปลี่ยว เดียวไฉน
แม้นว่า ทรวงเจ้า เศร้าทหัย
ข้านี้ไง ช่วยพราก จากเงื้อมเงา
สีกลีบเจ้า ขาว? ฟ้า ฤาจ้าแดง
ที่ทุกแห่งหนเห็นเป็นทรายเหงา
บรรยากาศ วาดยี ด้วยสีเทา
ที่คลุกเคล้า เต็มตา เวลานี้
The winds of time
You knock me to the ground
I'm dying of thirst
I wanna run away
I don't know how to set me free to live
My mind cries out feeling pain
วาโย แห่งห้วง วาระผัน
มันนั้น พัดผัน ข้าขวัญหนี
กระหายโหยโรยรา ล้าเต็มที
มิมี ที่ใดเช่น ให้เร้นกาย
อยากจะเบือน หน้าหนี แล้วลี้หลบ
แต่มิพบ เส้นทาง เหมือนจางหาย
จะเลี่ยงหลีก เร้นไหน ให้รอดกาย
น้ำตาสาย ร่ำลั่น มันวังเวง
I've been roaming to find myself
How long have I been feeling endless hurt
Falling down, rain flows into my heart
In the pain I'm waiting for you
Can't go back
No place to go back to
Life is lost, Flowers fall
If it's all dreams
Now wake me up
If it's all real
Just kill me
วิงเวียน ในวังวน ให้ค้นหา
นับเวลา นานไหมในข่มเหง
ทดท้อ ระทวยท้น ฝนบรรเลง
เป็นบทเพลง กระหน่ำซ้ำ ย้ำภวังค์
ไม่มีเส้น เดินทางไปข้างหน้า
ไม่แม้หา เส้นทางไปข้างหลัง
ชีวิต สูญสิ้นทาง อย่างลำพัง
ฝันหรือฝัง ควรเฉลย เผยความจริง
I'm making the wall inside my heart
I don't wanna let my emotions get out
It scares me to look at the world
Don't want to find myself lost in your eyes
I tried to drown my past in grey
I never wanna feel more pain
Ran away from you without saying any words
What I don't wanna lose is love
ปกป้อง จิตใจ ไม่ให้เห็น
เหมือนเป็น กำแพงหนา กว่าทุกสิ่ง
กลัวการ รับรู้ สู้ความจริง
และยิ่ง กว่านั้น ที่ฉันกลัว
เกรงจะแหลกสลาย ไปตรงหน้า
ซ่อนหา อดีตกลาง ลางสลัว
หลบลี้ ใครต่อใคร ไม่รู้ตัว
ไม่มามัว ทนลำบาก มากกว่านี้
Through my eyes
Time goes by like tears
My emotion's losing the color of life
Kill my heart
Release all my pain
I'm shouting out loud
Insanity takes hold over me
Turning away from the wall
Nothing I can see
The scream deep inside
reflecting another person in my heart
He calls me from within
"All existence you see before you
must be wiped out :
Dream, Reality, Memories,
and Yourself"
เท่าที่เห็น กระเซ็นซ่าน ม่านน้ำตา
เหมือนเวลา ผ่านไป ไร้แสงสี
จมชีวิต ในตมอุ่น ขุ่นเต็มที
จบชีวี ฉันด้วย ช่วยปลดช้ำ
เมินหนี จากม่าน กำแพงกั้น
กรีดลั่น คั้นคลั่ง ดังกระหน่ำ
แต่ไร้เสียง ออกจากแด แม้เพียงคำ
เหลือเสียงย้ำ ดังมาก จากข้างใน
สู ได้สูญ ตัวตน ไปจนหมด
มิยินรส ความฝัน อันสดใจ
สูมิรับ ความจริง ทุกสิ่งไป
สูจะไร้ ทรงจำ อมฤต
I begin to lose control of myself
My lust is so blind, destroys my mind
Nobody can stop my turning to madness
No matter how you try to hold me in your heart
Why do you wanna raise these walls
I don't know the meaning of hatred
My brain gets blown away hearing words of lies
I only want to hold your love
Stab the dolls filled with hate
Wash yourself with their blood
Drive into the raging current of time
Swing your murderous weapon into the belly
"the earth"
Shout and start creating confusion
Shed your blood for pleasure
And what? For love?
What am I supposed to do?
พลันนั้น ฉัน พลาด ขาดสติ
มิจฉาทิฐิ สิบ่า สิลิขิต
ล้นหลั่ง คลั่งบ่า มามากมิด
แม้คิด ไม่สามารถ จะกราดกัน
ทำไมเธอ ทำไม ไม่เปิดตัว
เธอมัว แต่แปลง กำแพงกั้น
แล้วกลับ บอกไว้ เข้าใจกัน
กรอกหัวฉัน ด้วยเล่ห์หลอก กรอกจนเต็ม
ดุจอุ้มโอบตุ๊ก - ตาน้อย
แต่คอย ทิ่มแทง ด้วยแรงเข็ม
ร่างอาบ เลือดไหลแรง จนแดงเข้ม
ไหลลงเต็ม อุทร ธรณี
ขว้างซัด อาวุธสาด อย่างกราดเกรี้ยว
คำรามเกรียว กราวกร่าง อย่างเต็มที่
เพราะเพื่อ อะไร ใครตอบที
ทำฉะนี้ รักหรือไร ไม่รู้เลย
I believe in the madness called "Now"
Time goes flowing, breaking my heart
Wanna live
Can't let my heart kill myself
Still I haven't found what I'm looking for
Art of life
I try to stop myself
But my heart goes to destroy the truth
Tell me why
I want the meaning of my life
Do I try to live,Do I try to love
in my dream
I'm breaking the wall inside my heart
I just wanna let my emotions get out
Nobody can stop
I'm running to freedom
No matter how you try to hold me in your world
Like a doll carried by the flow of time
I sacrificed the present moment for the future
I was in chains of memory half-blinded
Losing my heart, walking in the sea of dreams
Dreams can make me mad
I can't leave my dream
I can't stop myself
Don't know what I am
What lies are truth?
What truths are lies?
ข้ายกย่อง อารมณ์ บ่มบ้าคลั่ง
ไร้กรงขัง แห่งอดีต ขีดเฉลย
ไม่มีคุก อนาคต บทจำเลย
มิเปิดเผย ความมืดบอด ตลอดกาล
แต่ ในตัวตน อับ กลับเรียกร้อง
หาครรลอง รักฝัน อันหอมหวาน
บนแผงกั้น ความรวดร้าว ที่ยาวนาน
ยังต้องการ รักละไม ให้ชีวิต
ทิ่มแทง ฝันไฝ่ เพราะใจคลั่ง
พ่ายพัง ความจริง ทิ้งลิขิต
ไม่อาจ เยียวยาใจให้พ้นพิษ
เพียงแพ้ฤทธิ์ น้ำตาโหย จนโรงแรง
Close my eyes
Time breathes I can hear
All love and sadness
melt in my heart
Dry my tears
Wipe my bloody face
I wanna feel me living my life
outside my walls
หลับตาลง ยินเพียง เสียงหายใจ
แห่งเวลา คลาไคลในระแหง
ปาดน้ำตา ซับเลือด จนเหือดแห้ง
ฟื้นฟูแรง เรียกหารัก จักมั่นคง
You can't draw a picture of yesterday, so
You're painting your heart with your blood
You can't say "No"
Only turning the wheel of time
with a rope around your neck
You build a wall of morality and take a breath
from between the bricks
You make up imaginary enemies and are chased by them
You're trying to commit suicide
You're satisfied with your prologue
Now you're painting your first chapter black
You are putting the scraps of life together
and trying to make an asylum for yourself
You're hitting a bell at the edge of the stage
and
You are trying to kill me
ภาพวันวาน เป็นไฉน ไยต้องจำ
เพื่อลำนำ รักใหม่ ไยลุ่มหลง
เจ้าต้องวาด ภาพใหม่ ใจมั่นคง
ระบายลง ด้วยเลือดแดง แห่งชีวิต
ปล่อยร่าง ตามวันเ วลาผัน
ด้วยพันธนาการ ขานลิขิต
กรอบกฏเกณฑ์ ใหม่ ในทุกทิศ
เพ่งพินิจ จะต่อสู้ ศตรูร้าย
ครั้งหนึ่ง เจ้าเคย จะบีฑา
ถึงฆ่า ตนลับ ลงดับหาย
ให้ถือ ที่แล้วมา นั้น เจ้าตาย
แล้วเกิดกาย ใหม่นี้ เป็นสีนิล
เริ่มกำจัด ตัวข้า ท้ารบ
เสียงระฆัง ดังกลบ สงบสิ้น
รวบรวม ตัวตนเหนือมลทิน
หมายหมื่น มั่นดั่ง จะตั้งตน
I believe in the madness called "Now"
Time goes flowing, breaking my heart
Wanna live
Can't let my heart kill myself
Still I haven't found what I'm looking for
Art of life
I try to stop myself
But my heart goes to destroy the truth
Tell me why
I want the meaning of my life
Do I try to live,Do I try to love
in my dream
ข้ายกย่อง อารมณ์ บ่มบ้าคลั่ง
ไร้กรงขัง แห่งอดีต ที่กรีดก่น
อยากอยู่ต่อ อย่างมาก อยากดิ้นรน
ไม่อยากพ้น กายเนื้อ เพื่อดับฝัน
ในสองฟากฝั่งใจ ไม่สมาน
อีกหนึ่งด้านร้ายแรงแกล้งบีบคั้น
ทั้งที่ตัวตนข้าแทบจาบัลย์
อยากจะฝันค้นหา ทว่าไม่เจอ
22 กรกฎาคม 2549 14:20 น.
ม้าก้านกล้วย
บุหลัน ลอยโรจน์รุ่ง จรุงฟ้า
อยู่เอกา กลางรัต ติกาลเหงา
มีฉากแห่ง แสงประพริม ที่พริ้มเพรา
เละมีเงา มืดหม่น บนดวงเดียว
บางคืน ก็สว่าง บ้างก็แรม
บางคืนแสง เปล่งกระแส แค่เพียงเสี้ยว
ในคมแห่งเคียงสว่างที่บางเรียว
มาเก็บเกี่ยว ใจเหงา เอาไปฝัง
จันทร์ลอยโผล่ พ้นฟ้า เวลาค่ำ
ดั่งนาวา ลอยลำ ข้ามสองฝั่ง
ฝ่ายหนึ่งนั้น คึกขรม ด้วยสมหวัง
อีกฝ่ายวัง เวงใจ ในระทม
อยู่ที่เธอ จะข้ามฝั่ง ไปยังฝ่าย
ที่แพ้พ่าย ไร้ชื่น และขี่นขม
จันทร์จะลับ แรมร้าง กลางระบม
และเจ็บจม หายลับ ไปกับช้ำ
แต่หากเธอ ลอยพา นาวาไสว
ข้ามฝั่งไป พบรักปลื้ม ที่ดื่มด่ำ
เหมือนจันทรา จ้ากระจ่าง กลางคืนค่ำ
เงามืดดำ ก็คงคลาย ได้เพราะเพ็ญ
ฉะนั้นจันทร์ ไปได้ คล้ายเภตรา
สุดจะพา ล่องไป อย่างใจเห็น
แล้วแต่ มโนฝัน ให้มันเป็น
ชื่นหรือเช่น เข็นขม ด้วยลมใจ
จึงก่อนที่ จะมองจันทร์ จงฝันหวาน
เพื่อพาผ่าน ช้ำชา พาสดใส
เพื่อข้ามขม ชมลิ้ม ยิ้มละไม
แล้วหัวใจ จะชุ่มชื่น ในคืนรัก
(ม้าก้านกล้วย)
17 กรกฎาคม 2549 19:02 น.
ม้าก้านกล้วย
เหตุผลที่ไม่ร้องไห้
มิใช่หัวใจไม่เจ็บร้าว
ทุกวันที่ระลึกเรื่องราว
กลับเหน็บหนาวทุกครั้งครา
แต่น้ำตากลับตกใน
ไหลอยู่กลางใจ ไห้โหยหา
เมื่อไร เขาจะกลับมา
อยากให้รู้ว่า ระทม
จะไม่ร้องไห้ ให้ใครเห็น
จะเป็นคนฝืน ขื่นขม
ยิ้มได้ ทั้งทั้ง ยังระบม
เก็บบ่มความช้ำ ครอบงำไว้
จนเมื่อเธอกลับมารับขวัญ
ฉันนั้น จึงจะร่ำไห้
ซบ อกแอบริ้น น้ำตาไหล
เปื้อนไป รดใน หัวใจเธอ
ใจดำดวงนั้น ให้มันล้าง
บางเบาลงบ้าง อย่าพลั้งเผลอ
ปล่อยให้เรา รอเก้อ
รอเธอ กลับมา เหมือนบ้าบอ
แล้วจะเอ่ยรั้งเธอไว้
อย่าไปไกลกัน ฉันร้องขอ
เจ็บนะ รู้ไหม เมื่อใจรอ
ทดท้อ จนเบื่อ เหลือเกินแล้ว
(ม้าก้านกล้วย)
7 มิถุนายน 2549 21:02 น.
ม้าก้านกล้วย
ให้ห้ามฟ้าหยุดสว่างในกลางวัน
ให้ห้ามจันทร์หยุดแรมแซมสลวย
ให้ห้ามหมอกเหมยหนาอย่าอำนวย
ลอยระรวย ลงเกลี่ย ลงเรื่ยพื้น
ให้ห้ามนก ทั้งหล้า อย่าร้องกู่
และห้ามหมู่ แมกไม้ ไร้ร่มรื่น
ห้ามกลางวัน อย่าไคลคลา หากลางคืน
ห้ามฟอนฟืน อย่าโชนไฟ ไม่ลุกลาม
ให้หยุดมวล ล้วนเหล่า ลำเนานั้น
หยุดสีสัน มณีพลอย ค่อยมาห้าม
หยุดไม่ให้ ใจฉันตรึก และนึกตาม
จมในความ ติดตรึง คิดถึงเธอ
ก็เมื่อตื่น ใจตรง พะวงหวัง
สายก็ยัง คนึง ถึงเสมอ
บ่ายลุกลน จนลำบาก เพราะอยากเจอ
เย็นละเมอ แม้ไม่นอน อาวรณ์ถึง
แล้วจะห้าม ได้อย่างไร ไม่มาเจอ
ในเมื่อเธอ อยู่ใน ดวงใจซึ่ง
ทุกจังหวะ เต้นตาม ลามรำพึง
ฉะนั้นจึง แจ้งไว้ ให้เธอรู้
ยามคลาด ขาดใจ เหมือนไร้ชีพ
เร่งรีบ รอเวลา จะมาสู่
กระวน กระวายใจ เธอไม่รู้
แค่อยากอยู่ เหมือนเป็นเงา เคล้าเธอคลอ
แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 49 21:07:32
21 มีนาคม 2549 22:40 น.
ม้าก้านกล้วย
ต้องหยุดยืนตื่นตั้งภวังค์เพริด
ลอยเตลิดตกตะลึงตรึงตรงหน้า
สดับสำเนียงเสนาะไพเราะพา
อดีตลอยละห้อยหากับมาหวน
กระหวัดจิดคิดสดับจับสติ
กุหลาบผลิเบิกบานสราญร่วน
กระหวัดกอดยอดสอางค์เนื้อปรางนวล
สนิทสรวลเนิ่นนานสนานเนา
ประหนึ่งดังสถิตห้วงสรวงสวรรค์
ถวิลวันตระกองกอดสอดกระเส่า
กวีหนึ่งซึ่งประพันธ์อันแผ่วเบา
ประสานเคล้าดนตรีหวานปานมธุ
ขยับย่างร่างลอยจะคล้อยเคลื่อน
จะรองเลื่อนรอยกมลบนพสุ
กำหนดหนึ่งโหมเรื้อเชื้อประทุ
กมลคุ คุกคาม กับความคิด
ลีลาศท่ามตามกำกับ ระดับเสียง
ขยับเพียง เพลงกำหนด บทประดิษฐ์
ประครองนวล ยวนใจ จนใกล้ชิด
แล้วกลับปิดเพลงนั้น พลันชะงัก
สลัดหน้า เบีอนหนี ดนตรีช้ำ
จะตอกย้ำ ใจสลาย ร่ายสลัก
ทำนองร้อง คำอันงาม ถึงความรัก
ก็ทึกทัก เพียงพ้อง เรื่องสองเรา
ก้าวย่างต่างจังหวะ ขณะหนึ่ง
รุนแรงถึงรวดร้าว ถึงคราวเหงา
สุดแต่สอง ตรองตรึก จะนึกเอา
แล้วร่างเงารักเราสอง ต้องเลิกรา
สดับใดไม่สะท้านปานสะอื้น
จนต้องหยุดยืนฝึนประหม่า
สะดุดบทอดีตหนึ่งที่ตรึงตา
จนก้าวขาแทบมิออก มันตอกย้ำ