25 กุมภาพันธ์ 2553 16:12 น.
มโนราห์
ธารน้ำใสไหลนองเป็นคลองคด
แล้วเลี้ยวลดตามตรอกซอกภูผา
ผ่านโขดเขินเนินไพรในพนา
มัสยาแฝงกายในสายชล
กระท่อมน้อยสร้างไว้ใกล้ธารใส
ชานเรือนใช้รับลมชมสายฝน
ห้องหนังสือลดหลั่นจากชั้นบน
ห้องนอนเราสองคน ข้างสายธาร
มีทางเดินลัดเลาะอย่างเหมาะสม
สายลมพรมเจื้อยแจ้วแว่วขับขาน
เสียงลำนำน้ำค้างกังสดาล
ผสมผสานเรไรกล่อมไพรพง
กอไผ่ริมธาราปลาว่ายแหวก
ตะแบกบอกอำลาคราลมส่ง
เรียมลับลาแรมร้างยังคืนคง
ข้าวหลามดงยังอยู่หรืออย่างไร
ทุเรียนน้ำ ยางพาราถ้ายังอยู่
อยากจะรู้ โตมากสักเพียงไหน
มะฮอกกานี มะไฟมะเฟืองเจ้าเคืองใคร
เป็นไฉนแล้วหนอ หลงรอคอย
อาทิตย์ลาแรมลับกับเหลี่ยมเขา
ยังคงเคล้าเศร้าสุขทุกข์เหงาหงอย
ต้นสักงามยามนี้กี่มากน้อย
พอฝนคล้อยฉ่ำชื่นระรื่นครัน
ไม่ว่าแห่งหนที่คนดีอยู่
โปรดรับรู้ สู้ไปอย่าไหวหวั่น
แม้วันนี้สิ้นใยสายสัมพันธ์
แต่ความฝันยืนยาว จงก้าวไป
ตราบใดห้วยยายจิ๋วไม่แห้งเหือด
วะตะแบกไม่เดือดเหือดโหยไห้
เทพสถิต สถิตย์อยู่คู่กายใจ
คงฝันใฝ่ ไปเยือนเพื่อนเหมือนเดิม
16 กุมภาพันธ์ 2553 14:34 น.
มโนราห์
.........หอมเอย................
ใจคนเคยคลอเคล้าเฝ้าหวงห่วง
ข้าวหลามดงหอมกรุ่นละมุนทรวง
เคยเด็ดดวงหยอกเย้าใต้เงาจันทร์
เป็นตำนานบ้านสวนนวลแขไข
หริ่งเรไร ไพรกว้างต่างหนาวสั่น
ใต้โสร่งโปงเดียวเราเกี่ยวพัน
สัญญามั่นจะมิเลือนเหมือนวันนี้
หวลคำนึงถึงขวัญวันลาเลื่อน
หลบดาวเดือนแรมร้างกลางวิถี
นองน้ำตาไหลหยดรดพงพี
ก้มหน้าหนีเดินห่างอย่างเข้าใจ
หอมไอดินกลิ่นฝนหล่นวันนี้.......
อยากจะรู้คนดีมีสุขไหม...............
ข้าวหลามดงคงกรุ่นละมุนลมัย....
หรือถูกโค่นทิ้งไปสิ้นใยดี...........
17 มกราคม 2553 11:04 น.
มโนราห์
มโนราห์ไหว้ครู..... ( ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ )
ประสานกรนมัสกราบ
มโนภาพชลาธาร
ประสิทธิ์สอนพลังกานท์
สหัสาอัธยาศิลป์
ขจรจารย์สว่างไสว
ชโลมใจมิรู้สิ้น
พิไลล้ำสิยลยิน
ถวิลเลิศประเสริฐกาล
คะเนฝันจะสรรสู่
ชรอยผู้ประสิทธิ์สาน
จะเพ่งพิศสิดลดาล
ทยอยผ่านฤตเวรี
เสถียรเจตน์เสน่หา
สกาวกล้าวจีศรี
พเยียร้อยระยับพลี
ธรสรื่นมโนราห์...............