20 กุมภาพันธ์ 2548 11:47 น.
มารแมงมุม
เขาเขียนคำว่า เหงา ตัวเท่าบ้าน
เราเดินผ่านเข้าใจในความเหงา
กลับมาบ้านเขียนคำ เบื่อ เหลือบรรเทา
ตัวใหญ่เท่าเนื้อสมองที่ตรองดู
อันความเหงาเศร้าระทมแกมขมขื่น
โลกหยิบยื่นให้หลายหนจนหดหู่
เป็นสีโศกทุกข์ระทมดั่งพรมปู
จึงจำอยู่กับโลกหม่นจำทนมัน
แต่ไม่คิดลาโลกที่โศกหม่น
ที่ว่าทนยังพอไหวไม่เหลือกลั้น
อาการหนักที่เห็นวันเว้นวัน
ความเชื่อมั่นไม่เคยเพิ่มเริ่มเลือนราง
กลัวจะเป็นคนตายด้านพาลตายดับ
ชีพล้มพับตายทั้งเป็นเย็นทั่วร่าง
อยู่ไปแบบวันวันฝันอำพราง
ไม่อาจสร้างคุณธรรมไว้ค้ำชู
ยกป้ายทิ้งคำว่าเบื่อเหลือจะเหงา
เอาความเศร้าโยนทิ้งไกลไม่หดหู่
เอาพระธรรมมาจับสดับดู
เพียงเปิดหูเปิดตาปากปิดไป
ก็พอจะดำรงความคงอยู่
ได้เรียนรู้โลกสีเทา...เราสีไหน
เราสีเทาเช่นโลกโศกไปไย
โลกไม่ใช่แค่มี...สีขาวดำ
ขาวก็เคยมีบางมุมที่สุมสุข
เทาก็ทุกข์หม่นหมองต้องครวญคร่ำ
วันทำใจโลกที่เห็นเป็นประจำ
ก็พอร่ำรอยยิ้มเป็นพิมพ์ใจ
เพราะมนุษย์เวียนว่ายตายและเกิด
ความเลอเลิศอย่าค้นหาว่าอยู่ไหน
ชีวิตแต่ขอยืมมา...ไม่ช้าไป
ก็ต้องไกลคืนเขา...แท้...เปล่าดาย
จึงไม่มีมิตรแท้แน่ใจนัก
ศัตรูจักถอดถอนก่อนลาหาย
ทางสายกลางแหละหนาพาสบาย
ทำไม่ง่ายแต่ลองทำย้ำว่าควร
คำว่า เหงา ตัวเท่าบ้านลบนานแล้ว
บอกแน่แน่วจะไม่เหงาเศร้ากำสรวล
ชีวิตใหม่คิดใหม่ในกระบวน
ก็สำรวลยิ้มได้ในทุกวัน
12 กุมภาพันธ์ 2548 10:54 น.
มารแมงมุม
วันไหนไหนก็รักกัน 14กุมภาพันธ์
แค่วันกำหนดกฎเกณฑ์
ความรักใช่ซากกากเดน รักแท้รักเล่น
ได้ชื่อว่า รัก เหมือนกัน
สองคนหญิงชายผูกพัน ก่อร่างสร้างฝัน
ค้นหาจุดหมายปลายทาง
ชาย-ชาย.หญิง-หญิงสรรสร้าง สานรักถากถาง
เรียกขานอื่นใดได้ฤๅ
ควรเรียกว่ารัก...ยึดถือ รูปแบบใดหรือ
นิยามเรียกขานกันเอง
มีรักต้องใจนักเลง กระฉับกระเฉง
ใช่ขีดเส้นกรอบรอบวง
รักต้องสุขุมนุ่มลง มิใช่ลุ่มหลง
ไขว่คว้ายึดยื้อถือครอง
หัวใจนั้นมีสี่ห้อง เปี่ยมรักจับจอง
ใครกล้าเสนอตัวตน
ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านฝน โลกเปลี่ยนเวียนวน
ฉันยังอยู่นี่เหมือนเดิม
ก้าวผ่านมาต่อก่อเติม เอารักมาเจิม
แทนดอกไม้งามตามใจ
จับจูงเธอเดินก้าวไป ดินน้ำลมไฟ
หลอมรวมเป็น เรา วันงาม
สิบสี่กุมภาวันหวาม แค่วันแทนความ
จริง..รักถักทอนิรันดร์
รักอยู่ในทุกทุกวัน รักของเธอฉัน
สานต่อสร้างฝัน...นานเนา
9 กุมภาพันธ์ 2548 15:46 น.
มารแมงมุม
เคยไหมเสียน้ำตาให้คนแปลกหน้า
เคยไหม เจียนบ้ากับเรื่องราวอันสับสน
เคยไหมถูกปั่นหัว..จนเกือบเสียคน
เคยไหม..ทุกข์ทนอยู่ในบ่วงอันลวงตา
เพียงแค่ปล่อยวางก็ว่างเปล่า
ไม่มีเขาหรือใครมาทำให้เราเสียหน้า
ไม่ยึดติดไม่ถือมั่น...ไม่มีอัตตา
ก็แค่ว่า...โดนสวรรค์ทดสอบเอา
บททดสอบโหดหิน..กัดกินชีวิต
แต่ยังดื้อยังถือสิทธิ์..ไม่คิดจะอับเฉา
วันนี้อาจไม่ใช่วันของเรา
แต่ยังเฝ้ารอวัน...ฉันลำพอง
7 กุมภาพันธ์ 2548 14:13 น.
มารแมงมุม
เติมพลังให้ปีกฝันอันกล้าแกร่ง
ให้มีแรงไปปลดแอกแบกศักดิ์ศรี
มีศรัทธาหาญกล้าฝ่าไพรี.
เถิด...วันนี้มีหวังกำลังใจ
แล้วพรุ่งนี้เกียรติยศปรากฏชัด
ความซื่อสัตย์หยัดยืน..ชีพชื่นได้
ฝุ่นธุลีจะเติบกล้าท้าแรงไฟ
ความเป็นใหญ่ประชาชนถูกค้นเจอ
แล้วดวงดาวจะพราวแสงแห่งผู้กล้า
ประดับฟ้าให้ได้รู้อยู่เสมอ
นามคนกล้าจะจดจารขานชื่อ เธอ
ความเลิศเลอจะติดตามทุกยามไป
หวังเพียงแต่ฟ้าจะยอมน้อมรับเธอ
หวังเสมอ เธอคือศรัทธา...กล้า...เติบใหญ่
หวังสติกำกับเธอ...เสมอใจ
หวังจะให้เธอ...ก้าว ทันตามครรลอง
กับสี่ปีที่ฉัน...วาด...ฝัน..หวัง
กับพลังที่เธอได้...ไปสนอง
มันมิใช่อำนาจ...ประกาศจอง
มิใช่ ของ เล่นเล่น...เป็นรางวัล
เธอจะต้องลงสนามนาม ต่อสู้
ความไม่รู้ ความทุกข์ยาก กากความฝัน
ไฟสงครามความคิดที่ผิดกัน
ความมุ่งมั่น จะต้องมีอย่าหนีไกล
เธออาจท้อบางหนบนความคิด
เธอมีสิทธิ์อ่อนแอ...แต่แพ้ไม่ได้
ดันทุรัง..ขอว่าอย่าทำไป
ความอ่อนไหวหากมีมาแต่อย่านาน
ฉันยังเป็นกำลังใจให้เสมอ
ขอเพียงเธอมอง ฟ้า ที่หน้าบ้าน
ดาวดวงใหม่ถักทอแสงแห่งฟ้าธาร
เธอทำ งาน ด้วยศรัทธา... ประชาชน
4 กุมภาพันธ์ 2548 06:40 น.
มารแมงมุม
ในวันที่บอบช้ำฟังคำหวาน
เหมือนเขาหว่านกล้ารักมาทักถาม
คนเคยเจ็บก็สานต่อตอบข้อความ
ที่ต่อตามก็คือเขาเป็นเงาใจ
ที่หวั่นเกรงก็แค่ทางข้างหน้าโน้น
จะอ่อนโอนหายห่างไปบ้างไหม
เมื่อเหงาเหงาเขาก้าวมา...เรากล้าไป
เล่นกับไฟหรือเปล่าเฝ้าถามตัว