11 สิงหาคม 2550 18:32 น.
มารแมงมุม
ผ่านลำน้ำขัดสี...
ผ่านนาทีของเวลา..
ไหลล่องเลยเรื่อยมา
เถื่อนท่า..พำนัก อยู่ไหนกัน
เหนื่อยเหลือเกิน...
เหงาเหลือเกิน
จะเดินต่อไปอย่างไร...
*******************
มาทางนี้ซิที่รัก
หยุดพักพำนักก่อน...อย่าจรจากไปไหน
เหนื่อย เหงา เศร้าหม่นมาอย่างไร
พักหัวใจเจ้าสักนิด....อย่าคิดกังวล
เติมความรัก
เติมความอบอุ่น
เป็นพลัง...ก่อนจะเริ่มต้นใหม่บนทางไกล
24 กรกฎาคม 2550 12:30 น.
มารแมงมุม
แด่เธอ...ที่ร้องไห้เมื่อคืนนี้
พร้อมชีวีครวญคร่ำร่ำไห้หา
ใครคนหนึ่งจากไกล...ไม่คืนมา
เพลงน้ำตากึกก้องสี่ห้องทรวง
คืนวันนี้เธอคงเหงาเศร้าหม่นหมอง
จะเที่ยวท่องไปทางใดให้นึกห่วง
ความรักเก่าคงหยอกเหมือนหลอกลวง
เหนี่ยวและหน่วงเธอไว้ในฝันงาม
เพียงแค่ฝันพลันตื่นกลับขื่นขม
คงทุกข์ตรม...เจ็บหัวใจไม่ต้องถาม
แต่อยากเติมกำลังใจให้พยายาม
เธอจะข้ามช่วงนี้ไปในความจริง
แด่เธอที่ร้องไห้เมื่อคืนนี้
ให้เธอมีคืนใหม่ในทุกสิ่ง
ใครบางคนตระหนักพักแอบอิง
ให้เธอพิงพักใจได้อีกครา
แด่เธอเจ้าดอกไม้ในค่ำนี้
แต้มด้วยสีแห่งจันทร์พร้อมขวัญกล้า
น้ำตาเธอระเหยหาย...จากนัยน์ตา
พร้อมศรัทธางามตระการสานสีทอง
เธอจะมีมุมชีวิตคิดฝันใหม่
เธอจะได้พบความจริงสิ่งถูกต้อง
คือเส้นทางที่ท้าทายหมายทดลอง
ตามครรลองวีถีทางกระจ่างธรรม
เธอจะไม่ร้องไห้ให้ใครแล้ว
เธอจะแกล้วเติบกล้าเพียงคราค่ำ
รุ่งพรุ่งเช้าเข้าพรรษามาร่ายรำ
ท่องลำนำธรรมยาตรากล้าก้าวเดิน
23 กรกฎาคม 2550 12:14 น.
มารแมงมุม
ฝนตกพรูลมกระเส่าแมงเม่าบิน
เพิ่งโผผินเจอแสงไฟไม่เคยเห็น
ระเริงร่าท้าทายหมายจะเป็น
กางปีกเล่นครั้งแรกก็แหลกลาญ
เกิดจากปลวกแทะหนังสือยื้อชีวิต
กระหายคิดซึมซาบอาบฝันหวาน
คิดว่าแน่กินหนังสือคือชำนาญ
ก็เลยหาญลองเขียนความเพียรดี
กินตำราภาษาไทยได้หลายเล่ม
เคยแทะเล็มวรรณกรรมคำได้ที่
ก็เห็นเป็นของง่ายมากหมายมี
ต่อไปนี้จะเขียนเองเก่งเกินพอ
ย้ำเตือนแล้วไม่ฟังคำที่พร่ำเอ่ย
ปลวกก็เลยปีกงอกออกบินปร๋อ
ทะยานหมายแสงไฟไม่รั้งรอ
โอ้ละหนอเป็นแมงเม่าเมาแสงไฟ
ปีกอ่อนอ่อนเกรียมไหม้ไม่เหลือซาก
แมงไร้รากหมดฝันวันไหนไหน
หวนคำนึงสำนึกได้สายเกินไป
ความเห็นใจพอจะมีที่ปลายทาง
แต่ยังมีปลวกอ่อนวัยไม่สำนึก
ยังคงคึกฮึกเหิมเติมฝันสร้าง
พอเติบกล้าปีกฝันอันบอบบาง
ก็จะกร่างเป็นแมงเม่าเฝ้าโบกบิน
เพื่อประกาศศักดาว่าแน่นัก
ไม่ประจักษ์ความเป็นไป...ไม่ถวิล
ปลวกเอยปลวกอวดฉลาดพลาดชีวิน
ปีกไหม้สิ้นตกน้ำจึงคร่ำครวญ
แทะหนังสือใช่รู้งานการอ่านเขียน
แค่พากเพียรเขียนได้เพราะขวายขวน
ทระนงหลงว่าแน่เลยแปรปรวน
เสียกระบวนให้พินิจคิดปลดปลง
เสียงหายใจหอบกระเส่าแมงเม่าน้อย
ระเริงลอยเริงร่ามากับ(ความ)หลง
เจ้าตัวจ้อยปีกอ่อนจะร่อนลง
เป็นผุยผงแหลกลาญเพราะหาญเกริม
16 กรกฎาคม 2550 13:50 น.
มารแมงมุม
ทะเลหนาวดาวเกลื่อนเป็นเพื่อนเหงา
คืนคนเศร้าหมองหม่นทุกข์ทนหา
หนาวชีวันหวั่นไหวในทรมา
จะนิทราหลับลงตรงทรวงใคร
เพราะทรวงที่วาดหวังยังไกลห่าง
เพลงแรมร้างบรรเลงเร่งขับไส
ต่างความคิดแม้จะร่วมอยากรวมใจ
ยังแสนไกลแม้เอื้อมมือสื่อถึงกัน
เกลียดตัวตนที่เราต่างสร้างเสแสร้ง
รักฤาแล้งฤาไร้ไห้โศกศัลย์
รักคือรักแน่หรือคือผูกพัน
มีคืนวันแตกต่างบนทางเดิน
เธอยังเป็นตัวเธอเสมอมั่น
ฉันเป็นฉันบนทางอันห่างเหิน
คิดถึงวันก่อนเก่าเราเคยเดิน
เคยเพลิดเพลินบน เรา ไยเก่าไป
มาเป็นเธอ เป็นฉัน อย่างวันนี้
คอยคนดี คอยตัวตน..หม่นไฉน
อัตตาตัวกีดขวางทางหัวใจ
วันนี้ไม่มีเราเหงาร้าวรอน
ทะเลดาวหนาวทั่วขั้วหัวใจ
ทะเลไม่แม้นเหมือนเยือนหนก่อน
ทะเลใจไหวหวั่นนิรันดร
ฉันจะจรต่อไปอย่างไรดี
กลับมาเยือนทะเลมาเห่ไห้
ดาวในใจในดวงตาพาริบหรี่
หนาวลมโศกทะเลหม่นเชี่ยวชลธี
ดาวตกที่ปลายฟ้าน้ำตาริน
ทะเลหนาวดาวไหม้ใจไหวหวั่น
ทุกคืนวันภาวนาพาถวิล
อยากกลับไปเริ่มต้นค้นชีวิน
หากเธอผินหันกลับมารับรอง
อยากสร้างทับกระท่อมใหม่ใกล้ทะเล
คลื่นลมเห่กล่อมฤทัยหายหม่นหมอง
เธอกับฉันนับหนึ่งใหม่ใจลำพอง
เราจะร้องเพลงรักใหม่....ได้ไหมเธอ?
25 มิถุนายน 2550 19:58 น.
มารแมงมุม
ปรารถนาแสงตะวันวันเมฆหม่น
รอคอยฝนกลางเดือนหกตกจากสรวง
ร้อนเหลือใจไฟรุมอยู่สุมทรวง
รอถามทวงข่าวรักจากคนไกล
เพราะเธอเงียบนิ่งดูดายห่างหายหน้า
สุขหรือว่าทุกข์หม่นอยู่หนไหน
เหมือนด้านหน้ามาถามความเป็นไป
รอหัวใจคนดีมีคืนมา
หากหมดรักหมดใจขอให้บอก
แม้ช้ำชอกก็จะทนไม่ค้นหา
อย่ากลัวเลยแก้วขวัญขอสัญญา
ขอแค่ว่ารู้นิยามความเป็นจริง
คำหวานที่หว่านล้อมอ้อมอกอุ่น
เป็นคล้ายฝุ่นในดวงตาประสาหญิง
ฝุ่นธุลีใช่ไม้หลักให้พักพิง
จึงจำนิ่งเขียนคำวอนอ้อนถามมา
อยู่แห่งไหนสบายดี...ยินดีด้วย
หากเธอป่วยเจ็บไข้ห่วงใยหนา
เมฆสีเทาคลุ้มฝนบนนภา
แต่ทว่ายังไม่หล่นบนผืนดิน
มีแต่เมฆทมึนมืดใจจืดเหงา
ฝนกรดเป่ารดราดใจยังไม่สิ้น
อยู่เงียบเงียบน้ำตาก็บ่าริน
ยังถวิลรสชื่นทุกคืนวัน
ปรารถนาฝนเดือนหกตกลงพื้น
เพื่อจะชื่นดับร้อนก่อนหมดฝัน
น้ำจากฟ้ายังไม่โปรยโรยรดกัน
น้ำตาฉันก็โปรยใจโรยรอน