11 พฤษภาคม 2547 23:41 น.
มารแมงมุม
คำว่า เรา เก่าก่อนตอนแรกรุ่น
เลยว้าวุ่นสับสนจนหวั่นไหว
คำสัญญาสาบานว่าต่อหน้าไฟ
ใครเล่าใครสิ้นคิดผิดสัญญา
มีมี เรา อีกแล้วต้องแคล้วคลาด
รักเคยวาดสรรสร้างอย่างแน่นหนา
เป็นรักร้างห่างไกลไม่กลับมา
ดินกลบหน้าอย่าหมายง้อขอเจอกัน
จากมาแล้วแม้รอยเท้าเฝ้ากลบเกลื่อน
รักที่เลือนแค่ริ้วรอยคอยจำมั่น
ชายอ่อนไหวน่ากลัว...ชั่วชีวัน
วิมานฝันล่มสลายวอดวายลง
เป็นดอกไม้ในเมืองอันเรืองโรจน์
ชีพช่วงโชติไม่ถึง ยูงไม่สูงส่ง
ก้าวจะกล้าข้ามวันอย่างมั่นคง
ทระนงในนิยามนามสตรี
มายินคำครวญหาผ่านฟ้ากว้าง
น้ำใจนางใช่เลือนเหมือนหน่ายหนี
แต่จบฝันวันเก่าไม่เข้าที
ฝันใหม่นี้สรรสร้างอยู่ห่างเธอ
ยังไม่ตายแต่ไม่กลับจงรับรู้
ทำใจอยู่กับความหลังที่พลั้งเผลอ
ที่เคยเจ็บยังจำจดรสที่เจอ
หากรอเก้อไม่ขอโทษโปรดเข้าใจ
14 เมษายน 2547 00:06 น.
มารแมงมุม
ราตรีนี้ยาวนัก
ทอถัก.ร้อยอักษร...นอนไม่หลับ
ใจมันสั่ง..มือสั่น..คอเอียงพับ
โค้งคำนับโขกนังพิ้ว...ใจปลิวฟุ้ง
เป็นเวรกรรมอาละวาดจากชาติไหน
ทำงานไป...คร่ำครวญ...หวนสะดุ้ง
หวังโกยเงินหรือหวังชื่อลือจรุง
จึงเฝ้าปรุงอักษรสวนกระบวนงาน
ได้คำตอบในราตรีสีหม่นไหม้
แค่ยาไส้..และแค่รัก ...ไม่หักหาญ
ที่ผ่านมาถึงวันนี้..และอีกนาน
ยังเบิกบาน...ทั้งทิวาและราตรี
จึงเป็นราตรีที่มีชีวิต
ขอลิขิตด้วยอัตตา...พร้อมหน้าที่
ไม่โอหังแต่ยโส...โซ่ชีวี
ชั่วฤๅดี ถูกฤๅผิด...คิดอย่างคน
ราตรีนี้อาจจะสั้น
แต่หากฝัน..ก็ยาวได้ไม่สับสน
สววรค์ฤๅนรกอาจวกวน
เข้มและข้น...ก้าวต่อไปในราตรี
13 เมษายน 2547 23:00 น.
มารแมงมุม
ร้อนลมแล้งพัดอ้าวคราวคิมหันต์
คืนและวันก็ร้อนหนักหักไม่หาย
ร้อนเอยร้อนร้อนแล้งแห่งเรือนกาย
เกินบรรยายอณูร้อนใจรอนแรง
ลมไม่พัดโบกโบยให้โชยชื่น
ฟ้าไม่ชื้นชอุ่มฝนหม่นสิ้นแสง
ยามทิวันแสงสุรีย์สาดสีแดง
ราตรีแล้งจันทร์แดงเดือดดังเลือดทา
ร้อนผิว์ว่าเพียงกายหมายวิโยค
ที่เพิ่มโศกร้อนเร่าเฝ้าห่วงหา
คือร้อนใจแอบแฝงแต่งกายา
เมื่อรักมาเยี่ยมเยือนถึงเรือนใจ
รักมาในคราร้อนนอนไม่หลับ
ทุรนนับหนึ่งถึงสิบวิบวับไหว
เสน่หาร้อนแรงแฝงความใน
ก่อนมอดไหม้ไฟรักสุมมารุมทรวง
ร้อนอย่างนี้หลบไปที่ไหนเล่า
จะโศกเศร้าเผาไหม้ไห้ห่วงหวง
รักมาผลิแตกช่อละออพวง
ก็หนักหน่วงร้อนใจในกายเรา
ที่ร้อนรักร้อนกายคล้ายแปลกแยก
รอฝนแรกเดือนเมษามาปัดเป่า
วันสงกรานต์จะมาเยือนเป็นเพื่อนเนา
จะคอยเฝ้ารดน้ำชุ่มฉ่ำพอ
จะไปก่อกองทรายถวายวัด
ก่อนจะซัดสรงน้ำพระแล้วจะขอ
มารับพรวอนไหว้ใจจะรอ
จะไม่ท้อแม้จะร้อนนอนเดียวดาย
สงกรานต์แล้วคงจะดีสมที่หวัง
ร้อนคุคั่งคงจะลดหมดเหือดหาย
ร้อนอากาศร้อนใจไหม้เรือนกาย
รอวันคลายลมร้อนถอนตัวลา
4 เมษายน 2547 21:23 น.
มารแมงมุม
สายน้ำยามค่ำ
กับลำน้ำสายเก่าเฝ้ามองอยู่
ไหลมาคู่เคียงชีวิตสถิตย์มั่น
จากหยดน้ำหยดน้อยค่อยรวมกัน
ผ่านคืนวันนานเนิ่นการเดินทาง
ได้รู้ถึงไอเย็นกระเซ็นฉ่ำ
มองสายน้ำได้เห็นเป็นตัวอย่าง
ว่ามุ่งไปข้างหน้าอย่ารู้ร้าง
จึงเพียรสร้างตัวเป็นเช่นสายน้ำ
คนรอบข้างได้เย็นและเป็นสุข
เนาสนุกชีวีมีชุ่มฉ่ำ
เพื่อผ่อนเพลายามกรอบและบอบช้ำ
ได้ดื่มด่ำในรสกำหนดไว้
กลับมาเยือนลำน้ำค่ำวันนี้
สุริย์ศรีอ่อนแรงแสงเย็นใส
แสงแสดเรืองอ่อนจางอ้างว้างใจ
มาเยือนใครคนหนึ่งซึ่ง..เฝ้าคอย
มานั่งชมสายน้ำในยามค่ำ
มาชื่นฉ่ำให้ลืมเหงาลืมเศร้าสร้อย
สายน้ำยังฉ่ำเย็นกระเซ็นย้อย
เราก็ร้อยใจด้วยกัน.ฝันริมน้ำ
23 กุมภาพันธ์ 2547 22:04 น.
มารแมงมุม
ส่องกระจกดูเงาอันเศร้าสร้อย
ยิ้มน้อยน้อยเค้นฝันในวันเหงา
สวัสดีทายรักเติมรักเรา
ยิ้มให้เงาเริ่มต้นวัน..ฝันให้ไกล
ฝันเพื่อเติมไฟกลางทรวงที่ห่วงหา
ฝันเพื่อพาภาพงามความเคลื่อนไหว
ฝันแต่งแต้มความสุขให้ทุกใจ
ฝันอยู่ในความเป็นโลกที่โบกบิน
เพื่อจะไปถึงปลายฝันอันไกลลิบ
วิมานทิพย์ที่ใจใฝ่ถวิล
เสพเสน่หา...ทิพย์พากษ์วากย์วาทิน
มธุรินก็เต็มล้อมในอ้อมทรวง
มาเถิดเพื่อนพี่น้อง..ร้องเพลงรัก
แล้วทอถักวิมานตระการสรวง
ยิ้มน้อยน้อยขับความเหงา..เศร้า..และลวง
เราจะล่วงหลุดพ้นวังวนมาร
ตระหนักแจ้งแห่งใจได้ผ่อนพัก
นิ่งตระหนักและวันเหงาจะก้าวผ่าน
โลกยังสวยยิ้มเต็มหน้าฟ้าเบิกบาน
มาขับขานกลอนเบาเบาเล่าสู่กัน