23 กุมภาพันธ์ 2552 15:34 น.
มัทนา
ฉันฟังแล้วสหายผู้ไม่แพ้
อดีตนั้นจะแย่สักแค่ไหน
ก็จะปรับประคับประคองไป
เพื่อวันใหม่ที่งดงามตามพอดี
วางความทุกข์เคยทนจนใจเจ็บ
ไยต้องเก็บมาคิดให้ผิดที่
เพียงปล่อยวางความว่างอย่างทุกที
คือวิถีธรรมดาสู่สามัญ
มิอาจปลูกดอกโสกบนโลกนี้
ดวงฤดีคงวิโยคและโศกศัลย์
มิอาจปลูกดอกรักด้วยเช่นกัน
ธารน้ำตาจะรดมันนั้นไม่พอ
ฉันไตร่ตรองแล้วสหายผู้ไม่แพ้
เราเพียงแค่เขียนฝันแล้วสานต่อ
สร้างโลกสวยด้วยรักที่ถักทอ
จะไม่ท้อกับความหลังสักครั้งเลย...
18 กุมภาพันธ์ 2552 02:25 น.
มัทนา
มองฟ้ากว้างจันทร์สว่างกลางเมืองใหญ่
หนึ่งหัวใจก่อร่างสร้างความฝัน
อุปสรรคนานากล้าฝ่าฟัน
คอยมุ่งมั่นผ่านสมองและสองมือ
ความฝันนั้นเพ้อเจ้อและเย่อหยิ่ง
สวนความจริงที่ใครได้ยึดถือ
เกียรติยศใดเล่าเขาเลื่องลือ
เพียงสร้างชื่อเพื่อแสร้งชมอุดมการณ์
คนมากมายตะกายดาวบนราวฝัน
หวังสักวันส่องระยับจับแสงฉาน
หวังโดดเด่นเป็นดาวดั่งตำนาน
ทิ้งวิญญาณวอดวายดาวรายเรียง
โปรดอย่าปั้นฉันเป็นดาวบนราวฝัน
มิอาจสรรค์งานสวยด้วยชื่อเสียง
มิอาจเขียนบางคำทำเลียบเคียง
ขอเป็นเพียงดวงดาวในวาวตา
17 กุมภาพันธ์ 2552 23:01 น.
มัทนา
มีดวงดาวดาษดื่นเป็นหมื่นแสน
มิเหมือนแม้นดาวดวงซึ่งห่วงหา
มิงดงามวามวับงามจับตา
แต่ควรค่าแหนหวงและห่วงใย
หากแต่ดาวมากมายต่างฉายแสง
ส่องแสดงงดงามความสดใส
มิอาจฝันถึงห้วงดาวดวงใด
เพราะฝันไว้ในทรวงห้วงคำนึง
ฟ้าไกลเกินกว่าเอื้อมเงื้อมผืนฟ้า
เพียงละเมอเหม่อหาคราคิดถึง
เฝ้าเพ้อพร่ำคร่ำครวญหวนรำพึง
ดาวดวงหนึ่งซึ่งสุกใสในทุกคราว
เคยส่องแสงระยับจับเวหา
แม้อ่อนล้าโรยไปในคืนหนาว
เมื่อความฝันเรืองรองส่องสกาว
ฉันได้เห็นดวงดาวในวาวตา
3 กุมภาพันธ์ 2552 18:46 น.
มัทนา
ใช้ปากกาเขียนฝันอันงามงด
ทุกหมึกหยดคือหยาดเหงื่อเพื่อสานฝัน
สื่อเรื่องราวเก่าใหม่ได้แบ่งปัน
พร้อมสร้างสรรค์งานงามตามหัวใจ
ถ่ายทอดความปรารถนาอย่างกล้าหาญ
เขียนตำนานแห่งฝันอันยิ่งใหญ่
ทุกอักษรแทนเลือดเนื้อแทนเชื้อไฟ
จุดแรงใจเพื่องานอุ่นละมุนความ
คอยหลั่งรินจินตนาอย่างกล้าแกร่ง
ทุ่มเทแรงฟันฝ่าท้าขวากหนาม
นักกลอนหรือ? คืออะไร? ใครนิยาม?
เขียนไปตามคำเรียกร้องของหัวใจ
หนึ่งความหวังยังตรึงซึ้งสลัก
จะมีคนมารักงานเราไหม?
หรือเป็นเพียงเศษความหวังลงถังไป
จะมีใครเห็นค่า...ภาษากลอน