25 สิงหาคม 2547 21:04 น.
มะปรางหวาน5
ความรักนั้น มันก็เหมือนกับ ผีเสื้อ
ยิ่งคุณวิ่งเข้าหามันเท่าไหร่ มันก็จะห่างคุณออกไปเท่านั้น
แต่ถ้าคุณปล่อยมันไป มันก็จะเข้ามาหาคุณเองแหล่ะ
.....ถ้าคุณไม่คาดหวังกับมันมาก
ความรักสามารถทำให้คนมีความสุข แต่มักจะทำให้คุณเจ็บปวด
แต่ความรักจะเป็นสิ่งที่พิเศษ ถ้าคุณได้ให้มันกับใครสักคนที่คู่ควร
อย่ารีบร้อน ค่อย ๆ เลือก เลือกคนดีที่สุด
สำหรับใครที่........ ไม่ใคร่โสด
เค้าบอกว่า.....ความรักไม่ใช่การเป็นคนดีพร้อม สมบรูณ์ ของใคร
แต่ รักคือการให้ใครสักคนที่ช่วยให้คุณเป็นคนดีที่สุดเท่าที่คุณดีได้
สำหรับใครที่เป็น...... คนเจ้าชู้
อย่าพูดคำว่า รัก เลย ถ้าคุณไม่ไดใส่ใจกับความหมายนั้น
อย่าพูดถึงความรู้สึก ถ้ายังไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น
อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตเค้าเลย ถ้าคุณจะทำให้เค้าเสียใจ
อย่าไปมองลึกถึงดวงตา ถ้าคำพูดของคุณล้วนโกหกทั้งเพ
สิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่ชายหนึ่งพึงทำได้
คือทำให้ผู้หญิงเค้าหลงรักแล้วไม่ใส่ใจใยดี ผู้หญิงก็เหมือนกัน......
สำหรับคนที่........ อกหัก
การอกหัก มันยืนยาวตราบเท่าที่คุณต้องการให้มันอยู่กับคุณ
และบาดความรู้สึกคุณได้เจ็บลึกเท่าที่คุณยอมให้บาดที่สำคัญก็คือว่า
มันไม่ใช่จะพ้นจากสภาวะอกหักยังไง
แต่มันอยู่ที่ว่า........เราเรียนรู้จากมัน ได้แค่ไหนต่างหาก.......
สำหรับใคร ๆ ที่......... ไร้เดียงสาในรัก
จะรักได้อย่างไร : รักแต่อย่าลุ่มหลง คงสันคงวาแต่ไม่ดื้อรั้น
แบ่งปัน และ ไม่เอาเปรียบพยายามเข้าใจกันและกัน มากกว่าที่จะเรียกร้อง
หากต้องเจ็บ ก็เจ็บ แต่อย่าเอาความเจ็บนั้น ติดตัวเสมอไป
สำหรับใครที่......... มีคนหลงรักอยู่
เค้าบอกว่า .....
มันเจ็บปวดที่เห็นคนที่เรารัก มีความสุขกับคนอื่น
แต่มันจะเจ็บปวดยิ่งกว่า
ถ้าคนที่เรารัก ไม่มีความสุขเมื่ออยู่กับเรา
สำหรับใครที่......... กลัวต่อการสารภาพรัก
ความรักมันเจ็บปวด ถ้าคุณต้องไปบอกเลิกกับใครสักคน
แต่มันจะเจ็บยิ่งกว่า ถ้ามีคนมาบอกเลิกกับคุณ
แต่มันจะเจ็บที่สุด หากคนที่คุณรัก ไม่เคยได้รู้เลยว่าคุณรักเค้า
สำหรับใคร ๆ ที่ยัง........ คบ ๆ กันอยู่
เค้าบอกว่า.......
สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต ก็คือ การที่เราพบและรักใครสักคน
จนสุดท้ายพบว่ามันไม่ใช่.......
และคุณเสียเวลาไปเป็นปี ๆ ให้กับคนที่คนไม่คู่ควร
ถ้าเค้าคนนั้นของคุณ ไม่ใช่คนที่ใช่เลยของคุณตอนนี้ แล้วล่ะก็
จะมาเสียเวลาเป็นปี ๆ กับเค้าทำไม ปล่อยไปเถิด...........
25 สิงหาคม 2547 20:59 น.
มะปรางหวาน5
ฉันได้เจอกับความรักอีกครั้งแล้ว........แต่ครั้งนี้มันมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่ฉันยอกมรับมันไม่ได้......ฉันไปรักคนที่มีเจ้าของ โดยที่ฉันไม่รู้ตัว เขามีผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว แต่เขาก็มีฉันอีกคน ฉันเคยถามน่ะว่าทำไมทำแบบนี้ เขาบอกว่าไงรู้ไหม? เขาเลือกไม่ได้ คนหนึ่งเขาก็ต้องรับผิดชอบเพราะเขามีอะไรด้วยแล้ว แต่ฉันก็เป็นคนที่เขารัก ฉันไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ในใจหนึ่งก็สงสารผู้หญิงคนนั้น อีกใจหนึ่งก็สงสารตัวเองที่มาเจอคนแบบนี้ ผลสุดท้าย ฉันก็ทำแบบตามฉบับของคนดี คือเลิกกับเขาแล้วคืนให้ผู้หญิงคนนั้น แต่ในใจลึก ๆ เราก็ยังรัก ยังห่วง เหมือนเราเป็นเจ้าของ แต่ทำไงได้ เขามาก่อนเรามาหลัง ทำได้อย่างเดียว คือ ทำใจ...........
เขากลับมา.......เขากลับมาหาฉัน กลับมาทำไม ฉันอยากถามคำถามนี้จริง ๆ แต่ก็ถามไม่ออก เพราะว่าเขาตอบมาก่อนที่ฉันจะถาม เขาตอบว่าไงรู้ไหม เรารักเธอ คำ ๆ นี้มันพูดง่ายเหรอ ฉันอยากรู้จริง ๆ พูดอยู่ได้ว่ารัก แต่ก็ทำร้ายจิตใจกันอยู่ ฉันไม่คืนดีด้วย ไม่มีทาง ฉันไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บปวด เขาทำตัวแหลกเหลว ไม่เป็นผู้เป็นคน นับตั้งแต่ที่เขาเลิกกับฉัน แต่มันช่วยไม่ได้นิ ครั้งสุดท้ายที่ฉันคุยกับเขาให้เขาตัดใจ เขาร้องไห้ เขาบอกว่าเขาจะยอมจากดี ๆ และให้เราดูแลตัวเองด้วย เขาร้องไห้และจากไปพร้อมน้ำตา.........
ผู้ชายก็เป็นเงี้ย.......เขาเลิกจากเราไปแล้ว แต่เขาก็ไปมีคนอื่นอีก แม้เขาจะมีผู้หญิงคนเดิมคนนั้น ฉันรู้ได้ไงน่ะเหรอ ผู้หญิงคนนั้นบอกฉันน่ะสิ เธอบอกกับฉันว่าถึงแม้เขาจะเลิกกับเราไปแล้ว
เขาก็มีคนอื่นอีก ฉันไม่รู้จริง ๆ เขาเป็นบ้าอะไร ฉันถามผู้หญิงคนนั้นน่ะ ว่าทำไมเธอไม่เลิกกับเขา เธอบอกว่า เลิกไม่ได้ เพราะวามันมีความผูกพันแฝงอยู่ระหว่างเธอกับเขา เธอเลิกไม่ได้ เขาเป็นคนที่เธอรัก คนที่เธอรักที่สุด ฉันอยากจะบอกเธอคนนั้นจัง ว่าเขาไม่ได้รักเธอที่สุดน่ะ เขาไม่ได้รักใครจริง แต่ฉันก็ไม่อยากทำให้เธอคนนั้นเจ็บปวด.................................เหมือนที่ฉันเคยเจ็บปวด................และแล้ว................เขาก็กลับมาหาฉันอีก โดยที่เขาบอกว่าลืมฉันไม่ได้ เขาจะยอมเป็นคนใหม่ ฉันจะทำไงดี ฉันจะทำไง กับความเจ็บปวดครั้งนี้ดี.........................
อย่าทำเหมือนฉันเป็นคนโง่
อย่าทำเหมือนฉันไม่รู้อะไร
อย่าทำเหมือนฉันไม่มีหัวใจ
รู้ไว้นะฉันก็เจ็บเหมือนกัน
**** นี่คือบทเรียนแห่งความรัก ****
23 สิงหาคม 2547 20:52 น.
มะปรางหวาน5
เป็นเรื่องราวที่ผ่านมานานกว่า 5 ปีแล้วที่ฉันเคยรักผู้ชายคนนี้
หากจะถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ฉันคงตอบไม่ได้
และยังคงสงสัยว่าอะไรในตัวเค้านะที่มัดใจคนอย่างฉันได้นานขนาดนี้
เค้าคนนี้...คนที่ไม่เคยมีแม้แต่การ์ดสักใบในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ของเราสองคน
แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันจะได้รับเสมอคือ เค้าจะแอบมากระซิบข้างหูว่า
เค้ารักตัวเองนะ เมื่อยามที่เค้าคิดว่าฉันหลับแล้ว
เค้าคนนี้....คนที่บอกว่าไม่ใช่คนขี้หึงนะ
แต่ทุกทีที่มีผู้ชายแปลกหน้ามานั่งที่โต๊ะกินข้าวของฉันกับเพื่อน
เค้าคนนี้....แหละจะรีบแจ้นมานั่งข้างฉัน มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของฉันนะใครก็ห้ามจีบ
เค้าคนนี้....คนที่ไม่ค่อยจะสนใจเมื่อฉันเล่าเรื่องราวหน้าแตกให้ฟัง
แต่ก็แปลกนะที่เพื่อนสนิทของเค้ากลับมีเรื่องราวหน้าแตกของฉันมาแซวฉันได้ทุกครั้งที่เจอกัน
เค้าคนนี้....คนที่บอกกับฉันเสมอว่าไม่ชอบคุยโทรศัพท์นะ
แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเค้าโทรหาฉันทุกวันเลย
เค้าคนนี้....คนที่ไม่เคยมีคำหวาน ๆ
แสดงความเป็นห่วงเป็นใยในยามที่ฉันต้องขับรถกลับบ้านคนเดียว
แต่สิ่งที่ฉันได้ยินมาตลอด 5 ปี คือคำพูดสั้น ๆ ห้วน ๆ ที่คอยพร่ำบอกกับฉันเสมอว่า
ขับรถดี ๆ นะ ห้ามขับรถเร็ว รู้นะว่าขับรถเร็วจะโกรธ เป็นอะไรขึ้นมาจะไม่ไปดูดำดูดี
แต่ฉันรู่ว่าเค้าซ่อนคำเป็นห่วงมากับคำพูดเหล่านั้น....อิอิ
เค้าคนนี้....คนที่บอกว่าฉันทำกับข้าวไม่ได้เรื่องที่สุด
แต่แปลกนะพอฉันเข้าครัวทีไรเค้านั้นแหละที่ทานซะเกลี้ยงทุกทีเลยสิน่า
เค้าคนนี้....คนที่รีบบึ่งรถกลับมาดูฉัน เมื่อรู่ว่าฉันไม่สบายมาก
แต่กลับมาเจอฉันยิ้มร่าเริงคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม ( เป็นแผนแกล้งเค้านะ )
เค้าคนนี้....คนที่พยายามทำให้ฉันมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกอย่างของครอบครัวเค้า
ทั้งที่ไม่เคยพูดว่าอยากให้เข้ากับครอบครัวของเค้าให้ได้นะ
เค้าคนนี้....คนที่ไม่เคยพูดถึงอนาคตของสองเราในวันข้างหน้าเลย
แต่กลับพยายามตั้งหน้าตั้งตาหางานทำในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ
และคนตกงานก็เติมบ้านเติมเมืองไปหมด
เค้าคนนี้....คนที่ไม่เคยพูดว่า คิดถึง เมื่อยามที่เราอยู่ไกลกัน
แต่พอกลับมาเจอกันอีกที
เค้าคนนี้....แหละที่กอดฉันซะแน่นไม่ยอมปล่อยเลย
เค้าคนนี้....คนที่เข้าใจฉัน
เค้าคนนี้....คนที่ให้อภัยในทุกเรื่องที่ฉันทำผิด...เสมอมา
เค้าคนนี้....คนที่มีอะไรที่น่ารัก ๆ อีกมากมายที่ฉันคงบรรยายไม่หมด
เค้าคนนี้....คนที่ฉันจะรักตลอดไป...ในตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะเรียกร้องให้ตอนจบระหว่างฉันกับเค้าเป็นอยางนั้นอย่างนี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมักไม่แน่นอนเสมอ
ตอนจบระหว่างฉันกับเค้าอาจจะไม่ใช่ความสุขความสมหวัง
และการครองคู่อยู่ร่วมกัน ใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุข
แต่ระหว่างเราไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแสนนานเท่าใด
มันจะมีแต่ความผูกพันที่ตัดกันไม่ขาด
วันหนึ่งข้างหน้าเราอาจจะเป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีวันที่จะได้มาบรรจบกัน
แต่เส้นขนานคู่นั้นก็ยังคงได้มองเห็นความเป็นไปของกันและกันได้รับรู้เรื่องราวของกันและกัน
และได้เดินเคียงคู่กันตลอดไป
ฉันรักเค้า.....ผู้ชายของฉัน
23 สิงหาคม 2547 20:48 น.
มะปรางหวาน5
กาลครั้งหนึ่ง ยังมีนกกระจอกตัวหนึ่งเป็นนกกระจอกเจ้าสำราญ
เที่ยวกินเที่ยวเล่นไปวัน ๆ สนุกสนาน เมื่อฤดูหนาวใกล้เข้ามา
นกกระจอกตัวอื่น ๆ ก็พากันเตรียมตัวออกบินลงไปหลบหนาว
แต่พระเอกของเราก็ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
มันว่าเอาไว้ให้จนตัวจริง ๆ ค่อยออกเดินทางก็ยังไม่สาย
เพื่อน ๆ พากันเกาะกลุ่มบินไปเป็นกลุ่ม จนในที่สุดเหลือมันตัวเดียว
และประจวบกับอากาศที่หนาวเย็นลงทุกวันมันจึงได้สำนึก
เช้าวันหนึ่งที่อากาศหนาวเหน็บนกกระจอกเจ้าสำราญก็ออกบินเดี่ยวเดินทางลงไป
ขณะมาได้ไม่ไกล ฝนก็เทลงมาทำให้ขนของมันเปียกปอนไปหมด
และเพราะอากาศที่เย็นยะเยือกก็ทำให้น้ำที่เกาะปีกของมันกลายเป็นน้ำแข็งหนัก
มันบินต่อไปไม่ไหว ทั้งหนาวจนเกือบแข็งตายและหมดแรง
จึงตกแอ๊กลงมานอนหอบรอความตายอยู่บนพื้นดิน
เผอิญตรงนั้นจำเพาะเป็นลานบ้านชาวนามีวัวตัวหนึ่งเดินผ่านมา
และขี้ออกมากองเบ้อเริ่มหล่นแผละลงมาทับเจ้านกกระจอกพอดีจนมิดหัวมิดหู
เจ้านกกระจอกนึกในใจว่า ซวยจริงตู ตายไม่มีศักดิ์ศรีเลย จมกองขี้วัวตาย
มันปลงได้แล้วว่าคงตายแน่ แต่แล้วกองขี้วัวนั้นแหละที่ช่วยชีวิตมัน
เพราะความอุ่นทำให้น้ำแข็งละลาย และทำให้นกกระจอกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
มันดีใจมากที่รอดชีวิตจนร้องเพลงออกมาดัง ๆ
เจ้ากรรมมีแมวตัวหนึ่งเดินผ่านมา
มันได้ยินเสียงนกร้องจึงเอียงหูฟังและเดินย่องตามมา
จนมาพบว่าเสียยงร้องออกมาจากกองขี้วัวนี้เอง
แมวจัดแจงเขี่ยขี้วัวออกด้วยความสงสัย
จนไปเจอะเจ้านกกระจอกที่กำลังแหกปากร้องเพลงเพลินอยู่
จึงจับกินเป็นอาหารอันโอชะเสียในทันที
ข้อความข้างต้นสอนให้รู้ว่า
1 ) คนที่ขี้รดหัวเราไม่แน่ว่าจะเป็นศัตรูเสมอไป
2 ) คนที่ช่วยโกยขี้ให้พ้นหัวเราไม่แน่ว่าจะเป็นมิตรไปเสียทุกคน
13 สิงหาคม 2547 17:56 น.
มะปรางหวาน5
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ดอกไม้และใบไม้ยังไม่ได้รวมอยู่ต้นเดียวกันอย่างเช่นทุกวันนี้
มันต่างก็แยกกันอยู่ อีกทั้งเหล่าใบไม้ก็ไม่ได้มีสีเขียว
หากแต่มีหลากหลายสีสันงดงามนัก แต่ดอกไม้กลับมีเพียงสีขาวเท่านั้น
ใบไม้รวมอยู่กับหมู่ใบไม้ด้วยกัน มีแต่ความร่าเริง มีนิสัยรักสนุก
ต่างจากดอกไม้ที่อยู่อย่างเงียบเหงาเดียวดาย
แม้จะอยู่รวมกันคุยกันกับหมู่ดอกไม้ด้วยกัน
แต่ดอกไม้แต่ละดอกต่างมีความคิด และวาดฝันเป็นของตัวเอง
เธอเฝ้ารอบางสิ่งบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
บ่อยครั้งที่เธอมองไปที่ใบไม้แล้วนึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของสีสันสวยงามนั้นบ้าง
แต่ดอกไม้ ดอกเล็กและเสียงเบากว่าที่จะเรียกใบไม้ให้หันมา
กระทั่งวันหนึ่ง ใบไม้เกิดรู้สึกเบื่อสีสันของตัวเองขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นดอกไม้น้อยสีขาวบริสุทธิ์ดอกหนึ่งเข้า
ใบไม้ไม่รู้จักสีขาวมาก่อน เขาไม่รู้ว่าสีขาวเป็นอย่างไร
เพราะใบไม้ต่างก็มีสีสันกันทุกใบ
ใบไม้เกิดหลงใหลในความอ่อนหวานละมุนละไมของดอกไม้น้อยในทันที
แต่ในความอ่อนหวานนั้นดุเหมือนจะมีความเหงาแฝงอยู่ด้วย
ใบไม้จึงเข้าไปถามดอกไม้ว่า
ดอกไม้ เธอช่างมีสีขาวสวยเหลือเกิน
แต่ทำไมเธอจึงดูเงียบเหงาอย่างนี้เล่า
ดอกไม้น้อยแหงนมองใบไม้กิ่งใหญ่แข็งแรงก่อนจะตอบกลับไปว่า
สีขาวซีดอย่างนี้หรอสวย ฉันอยากจะมีสีสันอย่างเธอบ้างจัง
มันคงจะทำให้ฉันมีชีวิตชีวาขึ้นมาก
ใบไม้ได้ฟังแค่นั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นหน้าที่ของเขา
ที่จะต้องช่วยเหลือดูแล และปกป้องดอกไม้น้อยดอกนี้
เขาจึงบอกเธอไปว่า มาซิดอกไม้ฉันช่วยเธอได้นะ
ถ้าเพียงเธอมาอยู่กับฉัน ฉันจะทำให้เธอมีชีวิตชีวาขึ้นเอง
ดอกไม้น้อยไม่รอช้ารีบตอบตกลงในทันที
เมื่อดอกไม้ไปอยู่กับใบไม้แล้ว ใบไม้ก็ให้การดูแลเธออย่างดี
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อเธอ
ถ่ายทอดออกมาเป็นสีสันสวยงามให้กันดอกไม้
แล้ววันหนึ่งดอกไม้น้อยมองลงไปในลำธาร
เธอก็เห็นเงาตัวเองเปลี่ยนเป็นดอกไม้สีสวยที่มีชีวิตชีวา
แต่เมื่อหันไปมองที่ใบไม้ เขากลับกลายเป็นสีเขียวที่ดูอบอุ่นนัก
ดอกไม้น้อยถามใบไม้ว่า ใบไม้ นี่ฉันแย่งสีสันในชีวิตเธอมาหรือเปล่านะ
ใบไม้ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า ไม่หรอก ทุกวันนี้เธอคือสีสันในชีวิตฉัน
ฉันไม่ต้องการสีสันอะไรอีกแล้ว ฉันมีเพียงความสบายใจที่ได้เห็นเธอมีความสุข
จากนั้นมา ดอกไม้กับใบไม้ก็อยู่รวมกันเป็นต้นไม้ที่อบอุ่น
บนรากของความรัก ที่หยั่งลึกลงไปในผืนดินของหัวใจ
ด้วยเหตุนี้ใบไม้จึงมีสีเขียว
สีเขียวที่มองแล้วให้ความรู้สึกสบายตา เพราะเมื่อเรามองดูสีเขียวเมื่อไร
เราจะรับรู้ได้ถึงความสบายใจของใบไม้ที่เห็นดอกไม้น้อยของเขามีความสุข
ส่วนดอกไม้ ขาวที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ อ่อนหวาน ละมุนละไมนั้น
ดอกไม้คงไม่อยากให้ความรู้สึกเหล่านี้หายไป
จึงยังคงมีดอกไม้สีขาวให้เราเห็นมาจนทุกวันนี้ด้วยเช่นกัน