11 มิถุนายน 2548 14:30 น.
มะปรางหวาน5
.....ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมีหัวใจรับรู้ความ
เจ็บปวด
ฉันเป็นคนเป็นมนุษย์ที่รู้สึกได้เมื่อเจ็บตรงที่หัวใจ
แล้วจู่ ๆ เธอเป็นใคร ที่เข้ามาใกล้จนหัวใจฉันได้รู้สึก
ว่าในหัวใจส่วนลึก ๆ ได้รู้สึกว่าเจ็บขึ้นมา
แต่ตอนนี้ฉันเริ่มชินกับการดูหมิ่นจากผู้ชายที่ " ผู้หญิงส่วนมากเจ้าเล่ห์มารยา "
แต่มันอาจตรงกันข้ามกับฉันที่ว่า " ผู้หญิงอย่างฉันไม่มีเล่ห์มารยา "
หรืออาจเป็นเพราะว่าตลอดเวลาเธอทำให้ชาชิน
......เจ็บ เจ็บ เจ็บ ตรงหน้าอกข้างซ้ายไม่รู้เป็นไรเจ็บได้เรื่อยมา
แล้วมันจะเจ็บมากกว่า ถ้าเธอเข้ามาบอกว่า " เรานั้นจบกัน "
แต่เธอจะรู้บ้างไหม ในความคิดของผู้หญิงอย่างฉัน คำ ๆ นี้ที่บอกว่า
" เราจบกัน " หัวอกฝั่งซ้ายของฉัน มันเจ็บปวดมากมายหลายร้อยพัน
มากกว่าเธอมอบแค่ความฝันให้ฉันกลับมา( ยังดีกว่าเยอะ )
..............ขอแค่ฝันว่าเรานั้นยังเหมือนเดิม..................
เจ็บปวดมากแค่ไหนกับความรัก........แล้วยังใยเอาหัวใจไปแลกกับมันมาอีกเล่า
คนเรา
4 กันยายน 2547 14:17 น.
มะปรางหวาน5
บางคนที่ยืนเคียงข้าง กันมาเป็นปีๆ แต่สุดท้าย
คนที่ยืนเคียงข้างอีกครั้งในวันแต่งงานกลับเป็นอีกคน
บางคนที่คอยเฝ้าพยาบาลอยู่ข้างเตียงเวลาคุณเจ็บไข้ แต่สุดท้าย...
คนที่เสียใจแทบบ้าในวันที่คุณตายกลับ เป็นอีกคน
บางคนที่คุณโทรหาเค้าทุกๆวัน แต่สุดท้าย...
คนที่คุณบอกเรื่องน่ายินดีที่สุดกลับ เป็นอีกคน
บางคนที่คุณคิดว่าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา แต่สุดท้าย...
คนที่คุณรู้สึกกระวนกระวายหากขาดการติดต่อกลับเป็นอีกคน
บางคนที่คุณคิดว่าคุณจะขาดเขาไม่ได้ในชีวิต แต่สุดท้าย...
คนที่คุณใช้ชีวิต ทั้งชีวิตอยู่ร่วมด้วยกลับเป็นอีกคน
คุณยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่ยืนเคียงข้างคุณ
คุณยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่คอยเฝ้าพยาบาลเวลาคุณเจ็บไข้
คุณยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่คุณโทรหากันอยู่ทุกวัน
คุณยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่คุณคิดว่ารักที่สุด
คุณยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่คุณคิดถึงตลอดเวลา
คุณยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่คุณคิดว่าจะขาดเขาไม่ได้ทั้งชีวิต
เพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัวของคุณ...คิดว่ามันใช่
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป...หรือเพราะหากใครคนหนึ่งผ่านมา...
บางสิ่งที่คุณคิดหวัง หรือ ตั้งใจ คุณอานไม่ได้นึกถึงมันเลยด้วยซ้ำ
คุณเคยผูกพันธ์กับใครสักคนบ้างไหม แล้วรู้สึก ...
มีความสุข เมื่อเจอ คนคนนั้น
สบายใจ เมื่อเจอ คนคนนั้น
สนุกสนาน เมื่อเจอ คนคนนั้น
หัวเราะร่า เมื่อเจอ คนคนนั้น
โลกสดใส เมื่อเจอ คนคนนั้น
มีกำลังใจ เมื่อเจอ คนคนนั้น
มีกำลังกาย เมื่อเจอ คนคนนั้น
ตื่นเต้น เมื่อเจอ คนคนนั้น
การที่คนเราจะเริ่มผูกพันธ์กับใครสักคนหนึ่ง สิ่งนั้นจะต้องถูกสร้างมาจาก ...
พูดคุยกัน ยิ้มให้กัน ทานข้าวกัน
ไปไหนกัน เป็นห่วงกัน ดูแลกัน
เข้าใจกัน พึ่งพากัน มีกันและกัน...
สิ่งนั้นมันต้องใช้ เวลา เพื่อที่จะทำให้ความผูกพันธ์ แนบแน่น และสนิทใจกันมากขึ้น ผูกพันธ์ต้องใช้
เวลาเนิ่นนานจนกระทั่งไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก หรือ รวดเร็วจนไม่ทันที่จะตั้งตัวได้ กว่าจะรู้ว่าผูกพันธ์ ก็สายเกินกว่าที่จะเดินมาบอกได้ว่าเป็นห่วงนะ แล้วเวลานานแค่ไหนหล่ะที่จะทำให้เรา ผูกพันธ์
1 นาที
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 เดือน
1 ปี
1 ชั่วชีวิต ...
เวลา ของคนแต่ละคนแท้จริงแล้ว มันมีระยะห่างของเวลาไม่เท่ากัน
เวลา เป็นผลต่างของ จุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด โดยมีความรู้สึกเป็นตัวแปร
เวลา 1 วัน เท่ากับ 24 ชั่วโมง เหมือนกันทุกวัน เคยคิดกันบ้างไหมว่าทำไม
บางวัน ... รวดเร็ว
บางวัน... เนิ่นนาน
เวลา ไม่ใช่ค่าคงที่ ซึ่งมีความรู้สึกเป็นตัวแปร ที่จะมาเพิ่มคุณค่าและ ระยะเวลาให้แตกต่างกันไป
เวลา ที่เท่ากัน คุณดูแล เอาใจใส่ และ มองลึกลงไปในรายละเอียดให้กับคนที่เรา ผูกพันธ์ แค่ไหน
ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่า ทำไม ผลต่างของ การเริ่มรู้จักกัน และ กำลังไม่รู้จักกัน ที่มีค่าเท่ากับ 1 เดือน
จะสามารถสร้าง คำว่า ผูกพันธ์ ขึ้นมาได้
คนนี้: รู้จัก(เริ่มต้น)--พูดคุยกัน, ยิ้มให้กัน,ไปไหนกัน, เป็นห่วงกัน, ดูแลกัน--ไม่รู้จัก(สิ้นสุด)
ผลต่าง 1 เดือน เท่ากับ ผูกพันธ์
บางคน: รู้จัก(เริ่มต้น)฿--พูดคุยกัน, ยิ้มให้กัน,ไปไหนกัน, เป็นห่วงกัน, ดูแลกัน--เไม่รู้จัก(สิ้นสุด)
ผลต่าง 1 ปี เท่ากับ ผูกพันธ์
1 เดือน มีค่าเท่ากับ 1ปี เวลาไม่ใช่ค่าคงที่
......อย่าลืม ใส่ความรู้สึกเข้าไปในเวลา เพราะสิ่งนั้นจะทำให้เวลาแต่ละนาที มีระยะที่ยาวนานยิ่งขึ้นขึ้น
ในขณะที่เราคิดถึงคน ๆ นึงตลอดเวลา
เค้าคนนั้นก็อาจคิดถึงคนอื่นอยู่ก็เป็นได้
และบางครั้ง ก็อาจมีคนที่คิดถึงเรา โดยที่เราไม่สนใจเลยเช่นกัน
บางครั้ง การได้ฝันไปคนเดียว มันก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่ว่า
สิ่งที่เราคิดทั้งหมด มันคือความฝันของเราเองเพียงคนเดียว
ฉะนั้น ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะจมกับความฝัน
มากกว่าการได้รับรู้ความจริง
การไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจเค้า ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า...
เราอาจเป็นที่ 2 ซึ่งมันก็ยังดีกว่าเป็นที่ 3 ที่ 4...
และหากเราเป็นที่ 10 ในใจเค้า...
ก็ขอให้คิดไว้ว่า ดีกว่าเราไม่มีความสำคัญอะไรในใจเค้าเลย
แต่โปรดจำไว้เถอะว่า
หากหัวใจของคุณยังไม่ร้องไห้ออกมาดัง ๆ
พร้อมกับพูดกับตัวเองว่า...ชั้นเหนื่อยเหลือเกินแล้ว
โปรดห้ามใจเถอะ ก่อนที่ชั้นจะอ่อนล้าไปกว่านี้...
ก็จงชอบต่อไปเถอะ
การรักใครซักคน ไม่ต้องการความพยายาม
"การตัดใจ"ต่างหาก ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากมาย
ลองชั่งน้ำหนักในใจเราดูสิว่า ความสุขยามที่คุณได้สบตาเค้า
กับความทุกข์ยามที่คุณต้องคอยหลบตาเค้า
อันไหนมันหนักหนากว่ากัน
อย่าโทษตัวเอง ที่มาเจอเค้าสายเกินไป...
อย่าโทษเค้าที่ไม่มีใจให้...
อย่าโทษโชคชะตาที่ทำให้เราพบกัน แต่ไม่ได้ทำให้เราใจตรงกัน
แต่จงยิ้มให้กับตัวเอง
ที่อย่างน้อย ถึงจะพบกับเค้าคนนั้นสายเกินไป
แต่ก็ยังได้พบ...
ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา
แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป...
ยิ้มให้กับโชคชะตา
ที่ยังทำให้เรา...ได้รู้จักกัน
คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งหนึ่ง
คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้มของเค้าไว้คนเดียว
คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง...
คนที่ทำให้คุณหัวเราะ...และร้องไห้ได้มากมาย...
คนที่เพียงแค่ยิ้มของเค้า
ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น...ให้กลายเป็นวันที่สดใส
เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ?
แค่การได้เห็นคนที่เรารัก
ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคนที่เค้ารักมากที่สุด
...นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก...อย่างจริงใจ
ชั้นไม่เชื่อในความรัก ...
คงเพราะชั้นไม่เคยได้สัมผัส
โลกสอนให้เราเรียนรู้ว่า
อย่าเชื่อในสิ่งทีเรายังไม่เห็น ในสิ่งที่เรายังไม่เคยได้สัมผัส
สิ่งที่ชั้นพบเจอกับตัวเองและเห็นจากคนอื่น ทำไมทุกคนเจ็บปวด?
อย่าหลอกตัวเองว่าไม่จริง ที่สุขก้อเป็นการคิดเอาเองว่าตัวเองมีความสุข
ลองนึกดูสิว่าอีกฝ่ายหนึ่งเค้าสุขกับเราด้วยหรือเปล่า .....แน่ใจเหรอ?
รัก คือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จริงเหรอที่ไม่หวังอะไรเลย ถ้างั้น...
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เค้าไม่มาหา เพราะคุณหวังว่า...เค้าจะมา
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เค้าห่างเหิน เพราะคุณหวังว่า...เค้าจะ
เอาใจใส่
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เค้ามีคนใหม่ เพราะคุณหวังว่า...เค้าจะเป็นของคุณคนเดียว
คุณเสียใจทำไม เวลาที่เค้าไม่รัก เพราะคุณหวังว่า...เค้าจะรัก
เหล่านี้ไม่ใช่ผลตอบแทนที่คุณหวังแล้วไม่ได้มาหรอกหรือ
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เค้ามาดูแลเอาใจใส่
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เค้ามีแต่คุณคนเดียว
มีใครบ้างที่รักแล้ว ไม่ต้องการให้...เค้ารักคุณบ้างเลยสักนิด
"สักนิด" , "ขอเพียงแค่นั้น" , "เท่านี้ก้อพอ" ,
"ชั้นไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้"
เหล่านี้เป็นกำแพงที่เราสร้างขึ้น เพื่อยับยั้งความต้องการของเราเอง การยับยั้งความต้องการมันทรมานนะ คุณไม่รู้สึกเหรอ มันเป็นความทรมานจากการห้ามความรู้สึกตัวเอง หลอกตัวเองว่าอย่ารักมากไปกว่านี้เลย ทั้งๆที่ความจริงก้อรักไปแล้วหมดหัวใจ
รักและคิดถึง เมื่อรักแล้วก้อต้องคิดถึง เวลาที่คิดถึงคุณมีความสุขหรือเปล่า ความคิดถึงกับความโหยหา ต่างกันตรงไหน? เวลาที่ชั้นคิดถึงใคร ชั้นแอบคิดเสมอว่าเค้าจะคิดถึงชั้นอยู่บ้างไหม หรือคุณไม่เคยคิด
ดีใจด้วยกับคนที่มีความสุขกับรักที่แท้จริง และขอให้ความรักนั้นอยู่กับคุณตลอดไป ชั้นก้อยังแอบหวังว่ามันจะยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้
ตอนนี้ชั้นอาจจะมองโลกแคบ ชั้นอาจจะมองโลกเพียงด้านเดียว
หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดของชั้น ซึ่งก้อไม่ผิด แต่ก้อคงไม่แปลกที่ชั้นคิดแบบนี้ อย่างที่บอก ชั้นไม่เชื่อในสิ่งที่ชั้นยังไม่ได้สัมผัส
"ความรัก" เหมือนกาแฟ ขมแต่ก้ออร่อย
"ความรัก" เหมือนกุหลาบ สวยงามแต่ทำร้าย
"ความรัก" เหมือนสายลม พัดมาเย็นสบาย แล้วก้อจากไป
"ความรัก" เหมือนเปลวเทียน สว่างไสว ร้อนแรงสุดท้ายก้อดับลง
30 สิงหาคม 2547 19:47 น.
มะปรางหวาน5
การเดินทางของชีวิตอาจเดินทางผิดอยู่ตลอด ถ้าเราคิดว่าเราไม่ปรับปรุงตัวเองเพื่อเขาแล้วล่ะก็คงจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เมื่อชีวิตที่ไร้ค่ากับคนที่คิดว่าหมดความหมายทั้งที่เขาไม่เคยคิดจะรักเราเลยก็ตาม แล้วต่อเราคงลืมไปเอง ตลอดเวลากับการเดินทางของชีวิต เราเองไม่มีสิทธิ์ลิขิตได้ว่ามันจะดีหรือร้ายอย่างไรก็ตาม แต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินที่ดีกว่าอยู่เสมอและตลอดเวลาในการเดินทางของชีวิต เราเองก็ควรจะกำหนดตัวเองว่าเราควรอยู่ในฐานะอะไร แต่ชีวิตที่คนอื่นเห็นว่ามันไร้ค่าก็คงต้องจดจำคำพูดเหล่านั้นมาวิเคราะห์ ว่าพวกเขาจะกำหนดชีวิตของเราอย่างไรและไม่ควรลืมว่าตอนนี้ตัวเราเองกำลังทำอะไรอยู่ และตลอดเวลาเราควรจะอยู่เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อใครคนอื่นหรอก และตัวเราเองไม่ควรอยู่แบบจมปักเหมือนที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว และคิดว่าเราควรเริ่มต้นใหม่กับชีวิตที่ดี ๆ สักทีกับคนที่เราคิดว่าเขาดีกว่าคนที่ผ่านมาแล้วก้อย่าลืมมองตัวเองด้วยว่า เป็นคนอย่างไรและควรคบกับคนแบบใด แล้วลิขิตชีวิตตัวเองด้วยว่าต่อไปควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไรอีก เพื่อชีวิตที่มั่นคงของเราเองและชีวิตของคนที่เราคิดจะรักด้วยแล้วมันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง มิใช่ไปล่มกลางทางเหมือนชีวิตที่ผ่าน ๆมาของเราแหล่ะ
30 สิงหาคม 2547 19:45 น.
มะปรางหวาน5
กับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ฉันได้เจออะไรมาก็มากมายแต่ฉันก็ยืนหยัดอยู่ได้เพราะมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรค แต่มันก็เป็นเพียงมรสุมชีวิตที่ผ่านมาทดสอบกำลังใจของคนอย่างฉันเท่านั้นเอง จนในที่สุดฉันก็ได้เจอกับคนที่คอยให้กำลังใจฉันเป็นคนแรกก็คือ เขาคนที่ฉันนั้นรักมากและเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันรัก และตลอดเวลาที่ฉันนั้นได้เจอกับเขาฉันก็ได้มีกำลังใจอย่างบอกไม่ถูกเลยว่ามันมาจากไหน จนในที่สุดนั้นกำลังใจก็ได้หายไปจากฉัน เพราะว่าฉันกับเขานั้นคบกันต่อไปไม่ได้อีกแล้ว อาจจะเป็นเพราะช่องว่างระหว่างวัยก็อาจจะเป็นได้ เพราะว่าเรามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถเข้ากันได้เลย
และเป็นเวลาอีกช่วงที่ความอ้างว้างเข้ามาแทนที่ของหัวใจแทนความรักความห่วงหาที่เป็นรักแรกพบของฉันกับเขา จนในที่สุดฉันกับเขาก็ห่างออกไปไกลแสนไกล จนไม่ได้เจอะเจอกันอีกเลย จนเวลามันผ่านไปนานแสนนาน แต่ฉันก็ไม่เคยลืมว่ายังมีผู้ชายคนที่ฉันรัก เขายังมีความรู้สึกเป็นห่วงฉันอยู่
และความอ้างว้างเดียวดายนี้เองที่ฉันได้มาเจอกับคำว่ารักหลอก ที่เขาคนที่ฉันรักอาจจะรักน้อยกว่าคนแรกแต่ฉันก้ยังรักและซื่อสัตย์กับเขามาตลอด แต่เขาก็ไม่วายทำให้ฉันเสียใจมากมายจนในที่สุดฉันก็ได้รับรู้กับรสชาติของการดำเนินชีวิตคู่ของตัวเองว่าตลอดเวลาฉันมอบแต่ความรักให้กับคนอื่น แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยมอบรักแท้ให้กับฉันเลยสักคนเดียว ทุกวันนี้ฉันเองก็ยังต้องจมปักอยู่กับวังวนที่ว่า รักเขาข้างเดียว เรื่อยมาจนไม่มีวันที่สิ้นสุดสักที และเมื่อไหร่ฉันถึงจะเจอรักแท้กับคนอื่นเขาสักทีนะชีวิต
แต่ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าต่อไปการดำเนินชีวิตของฉันนั้นมันจะเป็นอย่างไร และต้องทนอยู่กับรักหลอก ๆ ของพวกเขาได้นานมากแค่ไหน คนเรานะมีความอดทนเป็นขีดจำกัด ถ้าขาดมันไปสักอย่างก็คงไม่เนินนานมาถึงทุกวันนี้หรอกหนอชีวิต
ทำไมคนที่เรารักเขากลับไม่ได้รักเรา แต่คนที่เราไม่รักเขากลับตามง้อเรามาตลอด นี่ก็เกือบจะ 6 ปีกว่าแล้วที่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งทนรอฟังและรับรู้ว่าฉันนั้นรักหรือว่าชอบเขาบ้างหรือเปล่า แต่ฉันบอกได้เลยว่า ถ้าใจมันไม่คิดถึงแล้วจะรักกันได้อย่างไร
คนเรานี่ก็แปลกคนที่รักจริงและพร้อมจะมอบความรักบริสุทธิ์ให้แต่กลับไม่รัก แต่คนที่มอบแต่รักแบบหลอกลวงกลับยินดีรับไว้ด้วยความเติมใจถึงจะเจ็บมามากมายก็ทนรับได้เสมอ
กับการที่เราจะรักใครสักคนทำไมมันถึงได้ยากเย็นอย่างนี้แต่กลับคนที่เราไม่เคยคิดจะรักเขายังตามตื้อเราอยู่ได้ตั้งนานสองนาน จนเราเริ่มรำคาญไปเลย
แต่กับคนที่เรารัก เรากลับตามง้อเขาเท่าไหร่เขาก็ยังไม่รักเราอยู่ดี จนบางครั้งเราเริ่มอ่อนใจ เริ่มท้อไปเลยก็มีแต่เราก็ยังสู้อดทนเพื่อคนที่เรารัก ถึงแม้ว่าจะเป็นรักเขาข้างเดียวก็ช่าง เราก็ยังคงต่อสู้เพื่อความสำเร็จของเรื่องความรัก ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่เราจะได้อยู่ใกล้กับเขา แต่เขากลับมองเห็นว่าเราไร้ค่า เหมือนกับว่าเราไม่เคยมีความหมายสำหรับเขาเลยจริง ๆ เพราะตลอดเวลาเขาทำให้เราเสียใจมาโดยตลอดเลย แต่ตรงกันข้ามกับเราที่ทำดีกับเขาทุกอย่างแต่เขาก็ยังเห็นว่าเราแกล้งทำดี บางครั้งเราก็น้อยใจในการที่เขาทำเหมือนไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเราบ้างเลย เราเสียใจที่เรารักเขาเข้าแล้วและรักแบบมาก ๆ ด้วย รักมากจนลืมเขาไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
25 สิงหาคม 2547 21:07 น.
มะปรางหวาน5
มีความลับเกี่ยวกับคามรักอีกมากมายหลายอย่าง ที่เรายังต้องค้นหากันอีกต่อไปแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินเข้าใจยิ่งค้นหาก็จะทำให้เรารู้ซึ้งถึงคุณค่าของมันมากขึ้น
+*+ ความรักเริ่มจากความคิด +*+
เราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรักบางทีความรักก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลงคามคิดอย่างที่เคยเป็นต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน
+*+ ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา +*+
คุณไม่สามารถรักใครได้หรอกถ้าคุณไม่รู้สึกเชื่อมั่นเป็นอันดับแรก และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น นั่นก็คือตัวคุณเอง
+*+ ความรักคือการให้ +*+
ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรักสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ รู้จักให้ด้วยยิ่งให้คุณก็ยิ่งได้รับ สูตรลับของความสุข และทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า
+*+ ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่ +*+
อยากได้รักแท้ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อนการจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่าต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่าหากจะรักใครอย่างจริงใจคุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น มิตนภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้คามรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง
+*+ การสัมผัสกันช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น+*+
เคยรู้สึกดีใช่ไหมเวลาที่มีใครมาโอบใหล่หรือกอดคุณการสัมผัสกันจึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลังช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจ ได้อีกด้วยน่าแปลกที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาลงอย่างได้ผล
+*+ อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย +*+
ถ้าคุณรักใครจงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้างคุณเองก็รู้สึกอึดอัดใช่มั้ย ถ้าหากมีใครมาล่ามโซ่คุณ จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดีมาก่อน ปลดปล่อยความกลัวภายในใจให้ความยุติธรรม ลดทิฐิและเงื่อนไขต่าง ๆ ซะบ้าง บอกตัวเองว่า แต่นี้ไปเราจะทิ้งความกลัวทั้งหมดและอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวเราอีก นับจากวันนี้ไปเราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะที
+*+ ชีวิตจะเปลี่ยนไป เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้าง และซื่อสัตย์ต่อกัน+*+
คุยกับคนที่คุณรัก อย่ากลัวที่จะพุดคำวิเศษ 3 คำ ฉันรักเธอ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป คุณควรจะบอกรักก่อนจะจากกันทุกครั้งเสมอ เพราะบางทีคุณอาจจะได้เจอกันครั้งสุดท้ายก็ได้ใครจะไปรู้
+*+ แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน +*+
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งก็จะป็นคนระแวง กังวลและหวาดหวั่น ส่วนอีกคนก็จะรู้สึกอึดอัดใจ คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาอย่างแท้จริง
*+*+*+*+*+* สุดท้ายความรักคือการเข้าใจกันนั่นเอง+*+*+*+*+*+*+