10 มกราคม 2550 09:12 น.
มนต์กวี
แม่พิมพ์เอยเจ้าเคยเป็นเบ้าหลอม
เป็นสีย้อมผ้าขาวให้สดใส
เป็นเรือจ้างส่งคนขี้นฝั่งใจ
เป็นหลักชัยแบบอย่างทางก้าวเดิน
บ้านอยู่เหนือทุ่มใจไปช่วยใต้
ปันน้ำใจให้คนยามขาดเขิน
อุปสรรคมากน้อยคอยเผชิญ
ร่วมสรรเสริญครูจูหลิงด้วยจริงใจ
ครูปูทางสร้างศิษย์สู่ฝั่งฝัน
ครูผลักดันเพื่อมีวันฟ้าใส
ศิลปะสร้างศิลป์บนถิ่นไทย
สู่แดนใต้งดงามตามรอยครู
วาสนาครูมาเพียงเท่านี้
อย่าร้องให้นะคนดีอย่าหดหู่
จากไปแล้วเหลือความดีไว้ให้ดู
ขอเชิดชูครูจูหลิงยอดหญิงไทย
9 มกราคม 2550 12:01 น.
มนต์กวี
ความคิดถึงจากรอยเหงาเข้าเทียบท่า
เดินทางมาแสนไกลจากปลายสรวง
หอบอาทรมามอบปลอบพุ่มพวง
คอยเป็นห่วงใจพี่มีเพียงนวล
กุหลาบป่าลอยลมพรมกลิ่นรัก
มาทอถักรักเราให้หอมหวล
ให้เรียมน้องรับเอาความเย้ายวน
ยังอบอวลกลิ่นแห่งรักปักดวงใจ
เสียงกระซิบกรุ่นคำผ่านน้ำฝน
มาปลอบคนเดียวดายหายหวั่นไหว
ห่มขวัญเรียมโอบละมุลด้วยอุ่นไอ
คนต่างวัยคอยห่วงทุกช่วงกาล
บทเพลงพร่ำทำนองในห้องรัก
ตัวโน๊ตถักทอฝันอันอ่อนหวาน
เสน่หาฉ่ำชื่นชั่วคืนวาร
อันตรธานลางเลือนเหมือนไกลกัน
ความคิดถึงตราตรึงแม้ครึ่งเงียบ
หาใดเปรียบรักพี่นี้คงมั่น
ครวญรำพึงถึงนางยามห่างกัน
ฝากรอยฝันมากับลมพรมใจนวล
บทเพลงรักทำนองเศร้าเจ้าส่งถึง
กลั่นรำพึงตรึงจิตให้คิดหวน
แม้กาลเปลี่ยนใจพี่มิเรรวน
รักเพียงนวลเสมอ...มิเผลอใจ
9 มกราคม 2550 09:20 น.
มนต์กวี
ฟังนิยายรักเศร้าแทบเข่าอ่อน
ฤทธิ์รักรอนรานใจให้ตรมฝืน
ให้บางใครบางคนทนกล้ำกลืน
ฝั่งรอยขื่นฝืนข่มลิ้นลมลวง
ก่อกำแพงป้องกันความหวั่นไหว
ปิดประตูหัวใจคล้องใส่ห่วง
อยู่อย่างคนบ้าใบ้ไปตามดวง
รักโรยร่วงรันทดหมดอาลัย
วสันต์ผ่านนานปีสักกี่ฝน
คิมหันต์ยลเยือนย้ำความหวั่นไหว
เหมันต์หนาวร้าวรวดปวดทรวงใน
เก็บหัวใจเก็บช้ำเป็นตำนาน
ฟังนิยายเรื่องหลังยังไม่เบื่อ
ช่างเหลือเชื่อรักเอยเคยว่าหวาน
ใยทอดทิ้งคนท้อทรมาน
ตราบล่วงกาลม๊ะมาดื่มเพื่อลืมเธอ
แด่บินเดี่ยวสหายท่าน..ฯ