4 ตุลาคม 2548 22:35 น.
มนต์กวี
ที่เธอบอกว่า...อยู่อย่างมีค่า....แม้ไม่มีฉัน
แต่ฉันสิ.........อยู่อย่างไร้ค่า....ถ้าไม่มีเธอ
4 ตุลาคม 2548 22:34 น.
มนต์กวี
ฝนตกน้ำตาไหลกับหัวใจที่...เหงา....เหงา
ฝนจ๋าจงปลอบเจ้าช่วยแบ่งเบาความระกำ
ฝนเอยโอ้น้ำฝนสงสารคนคอยคิดถึงเขา
ฝนจ๋าจงรับเอาความเหงาเจ้า...ซับลงดิน.
4 ตุลาคม 2548 22:33 น.
มนต์กวี
อยู่เงียบเงียบอย่างนี้ดีไปอย่าง
กับความว่างมีเพียงเราเฝ้าฝึกฝน
หมั่นศึกษาพิจารณาในตัวตน
ก็สุขล้นสุขล้ำเหนือคำบรรยาย
2 ตุลาคม 2548 23:22 น.
มนต์กวี
คำร้อง/ทำนอง....................... มนต์กวี(มงคล สมหวัง)
1.เป็นกรรมกรหม่องนอนมุ้งหมอนเก่าเก่า
บ่สมกับเจ้าผู้สาวคนสวยแก้มแดง
เจ้าย่างผ่านหน้าอ้ายแนมเป็นบ้าเช้าแลง
ยืนฝันผู้เดียวแห่งแห่งอยากแต่งน้องไปเดินควง
2.แม่เจ้าเผิ่นหวงเป็นห่วงบ่ให้พันธ์ผูก
เผิ่นเว้าดูถูกบอกลูกว่าเฮาตัวถ่วง
ย้อนมักเจ้าหลายอ้ายเลยมาเป็นบ้าป่วง
เคียดหลายอยากไปประท้วงกระทรวงไม่ยุติธรรม
(ซ้ำ)3.แม่เธอตอกย้ำจดจำเอาไว้ให้ดี
ให้เจียมบอดี้เรานี้ฐานะต้อยต่ำ
รู้ตัวว่าจนเป็นคนหาเช้ากินค่ำ
ยังมาอ้อนรักคนงามหนำซ้ำสิกินบ่พอ
4.เป็นกรรมกรหม่องนอนบ่มีหลักแหล่ง
ฮักเจ้าคำแพงอยากแต่งเอาไปร่วมหอ
ย้อนจนเกินไปขอรักในใจก็พอ
ขี้ฮ้ายทุกข์ซ้ำบ่หล่อบ่พอให้เจ้าเดินควงฯ
28 สิงหาคม 2548 10:29 น.
มนต์กวี
หมู่เมฆคล้อยเคลื่อนเลื่อนต่ำ
ฟ้าดำครอบคลุมครึ้มหม่น
ลมแรงเย็นย่ำมายล
เม็ดฝนพรู่พรั่งหลั่งโรย
ม่านใสไอฝนหล่นพรำ
ชุ่มฉ่ำดินหายแห้งโหย
พฤกษาเลิกคร่ำโอดโอย
ฝนโปรยหว่านรักถักทอ
ทุ่งทองเนืองนองน้ำมี
ข้าวดีเม็ดพันธุ์เกิดก่อ
ทำนาหล่อเลี้ยงเพียงพอ
สุขหนอคนท้อขอทน
ลำคลองน้ำนองสองฝั่ง
ความหวังหวนมาอีกหน
ฝูงปลาแหวกว่ายสายชล
สุขล้นฝนฟ้ามาเยือน
ยามนี้ฟ้าเอยไฉน
เมฆใยเลื่อนลอยคล้อยเคลื่อน
ความหวังเริ่มจางลางเลือน
ฟ้าเตือนฝนร่ำอำลา
ป่าไม้คนเมาเขาโค่น
หัวโขนนายทุนเงินหนา
ยำยีย่อยยับอัปรา
ปล้นฟ้าแผ่นดินสิ้นธาร
ปูปลาพากันร้องให้
แมกไม้ปลิดใบเรียกขาน
ความแล้งเข้ามาแผ้วพาน
ควายงานทิ้งทุ่งมุ่งเมือง
ทุกอย่างย่ำแย่แปรผัน
ทุกวันยังไม่กระเตื้อง
หรือฟ้าถือโทษโกรธเคือง
ลืมเรื่องครั้งรักฝากดิน
ลมนำคำขอต่อฟ้า
ต่อว่าทำไมใจหิน
หรือฟ้าแกล้งไม่ได้ยิน
ลืมสิ้นทุกอย่างสร้างมา
ฟ้าจึงทำตามคำขอ
ฝนก็ทำตามเรียกหา
ร่วงหล่นลงเป็นน้ำตา
หลั่งมาท่วมท้นชลธาร
ภูเขาไร้ป่าปกป้อง
น้ำนองไหลบ่าพร่าผลาญ
เหมือนมาปลดแอกแหลกราน
เมืองบ้านร่ำให้...ไร้คนฯ.